ข่าว

ทนายพัฒน์ ชี้ อายัดบัญชีมั่ว ระวังโดนฟ้อง ธนาคาร จนท.รัฐ ต้องรับผิดชอบ

ทนายพัฒน์ ชี้ การอายัดบัญชีโดยไม่มีคำสั่งศาลหรือ ปปง. ถือเป็นการละเมิด แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดช่องด่วน AOC 1441 กด 2 แล้ว แต่ผู้เสียหายสุจริตมีสิทธิฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย

ภายหลังกรณีที่ประชาชนจำนวนมากถูกอายัดบัญชีธนาคาร อันเป็นผลกระทบจากการยกระดับกวาดล้างบัญชีม้า จนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องออกมายอมรับและเร่งปรับปรุงแนวทางแก้ไข ล่าสุดวันที่ 14 กันยายน 2568 ทนายพัฒน์ อนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ได้โพสต์ข้อความแสดงความเห็นอย่างชัดเจนผ่านเฟซบุ๊ก ทนายพัฒน์ คุยกฎหมาย ว่า

“อายัดบัญชีมั่ว ๆ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและธนาคารต้องถูกฟ้องนะผมว่า”

ทนายพัฒน์ ได้เตือนว่า หากการอายัดบัญชีนั้นเกิดขึ้นโดยพร่ำเพรื่อ ขาดการตรวจสอบ หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งฝ่ายรัฐและสถาบันการเงินต้องร่วมกันรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

อายัดบัญชีมั่ว ๆ ฟ้องได้นะ
ภาพจาก : ทนายพัฒน์ คุยกฎหมาย

กางข้อกฎหมาย “ธนาคาร” ไม่มีสิทธิ์อายัดเอง?

การที่ธนาคารจะอายัดบัญชีของประชาชนได้นั้น ต้องมีคำสั่งทางกฎหมายที่ชัดเจนรองรับเท่านั้น ธนาคารไม่มีสิทธิ์อายัดบัญชีลูกค้าตามอำเภอใจ ตามหลักแล้วต้องมาจาก คำสั่งศาล หรือ คำสั่งของคณะกรรมการธุรกรรมหรือเจ้าหน้าที่ของ ปปง. ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

หากธนาคารหรือเจ้าหน้าที่รัฐสั่งอายัดบัญชีโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมายรองรับ ถือเป็นการกระทำ “ละเมิด” ต่อเจ้าของบัญชี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 และธนาคารในฐานะนายจ้างอาจต้องร่วมรับผิดด้วยตาม มาตรา 425

การละเมิด ตามมาตรา 420 คืออะไร?

สาระสำคัญของ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) ข้อกฎหมายมาตรา 420 คือ “ผู้ใดโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อผู้อื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน” หากแปลเป็นกรณีการอายัดบัญชี ผู้เสียหายสามารถฟ้องได้ หากพิสูจน์ได้ครบ 4 องค์ประกอบ ดังนี้

  • ธนาคารหรือพนักงาน (ผู้กระทำ) ได้กระทำการ “จงใจ” หรือ “ประมาทเลินเล่อ” (เช่น ไม่ตรวจสอบให้ดี)
  • การกระทำนั้น “ผิดกฎหมาย” (คือสั่งอายัดบัญชีโดยไม่มีฐานอำนาจตามกฎหมายรองรับ)
  • ทำให้ลูกค้า (ผู้เสียหาย) เกิด “ความเสียหาย” (เช่น ขาดสภาพคล่อง, เสียโอกาสทางธุรกิจ, เสียดอกเบี้ย, ผิดนัดชำระหนี้อื่น)
  • การอายัดนั้นเป็นสาเหตุโดยตรงของความเสียหาย

สรุปก็คือหากธนาคารอายัดบัญชีลูกค้าโดยไม่มีคำสั่งศาล หรือคำสั่งจาก ปปง. หรือไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอน พ.ร.ก. ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างถูกต้อง ย่อมเข้าข่ายเป็นการกระทำละเมิดตามมาตรา 420

ทำไมธนาคาร ต้องรับผิดชอบ ตามมาตรา 425

กฎหมายไม่ได้เอาผิดแค่พนักงานที่สั่งการ แต่ยังรวมถึงองค์กรด้วย ตาม มาตรา 425 ที่ระบุชัดเจนว่านายจ้างต้องร่วมกันรับผิด ในผลแห่งละเมิดที่ลูกจ้างได้ทำไปในทางการที่จ้าง “นายจ้าง (ธนาคาร) ต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้าง (พนักงานที่สั่งอายัดผิดพลาด)”

ดังนั้น แม้ความผิดพลาดจะเกิดจากพนักงานสาขา แต่เมื่อการอายัดบัญชีเป็นส่วนหนึ่งของบริการธนาคาร ธนาคารในฐานะนายจ้างจึงต้องร่วมรับผิดในความเสียหายนั้นด้วย โดยมีแนวคำพิพากษาศาลฎีกา (เช่น ฎีกาที่ 2885/2543) ยืนยันหลักการนี้ว่า เมื่อพนักงานธนาคารทำผิดขั้นตอนจนลูกค้าเสียหาย ธนาคารต้องร่วมรับผิด

ทนายพัฒน์ถาม ใครรับผิด
ภาพจาก : ทนายพัฒน์ คุยกฎหมาย

เส้นแบ่ง อายัดถูกกฎหมาย กับ อายัดมั่ว

กรณี อายัดถูกกฎหมาย ธนาคารปฏิบัติตามคำสั่งที่มีกฎหมายเฉพาะรองรับ เช่น คำสั่งอายัดจาก ปปง., คำสั่งศาล, หรือการ ระงับชั่วคราว ตามเงื่อนไขใน พ.ร.ก. ปราบปรามอาชญากรรมฯ (เช่น ระงับ 72 ชม. เพื่อรอผู้เสียหายไปแจ้งความ)

กรณี อายัดมั่ว (เสี่ยงผิดกฎหมาย) ธนาคารอายัดบัญชีลูกค้าเอง เพียงเพราะ “ระบบแจ้งเตือน” หรือ “ความสงสัย” โดยไม่มีคำสั่งจากหน่วยงานที่มีอำนาจมารองรับ การกระทำเช่นนี้เสี่ยงต่อการเป็นละเมิด และยังขัดต่อหลัก Market Conduct ของ ธปท. ที่กำหนดให้ธนาคารต้องบริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม

จากนั้น ทนายพัฒน์ ก็ได้โพสต์อธิบายว่า “การถูกอายัดบัญชีความเสียหายเกิดขึ้นมากแค่ไหน!!!
แล้วใครจะรับผิดชอบ!!!!

1. การชำระหนี้อื่นย่อมหมดสิทธิ์ที่จะชำระได้ เพราะไม่มีเงินโอนชำระหนี้ ทำให้ลูกหนี้ถูกฟ้องเป็นคดีแพ่ง และคดีความตามมา

2. หากมีการจ่ายเช็คชำระหนี้แล้วเช็คเด้ง ก็จะโดนคดีอาญาด้วย

3. นิติกรรมต่างๆที่ถึงกำหนดชำระย่อมเป็นเรื่องที่ผิดสัญญาทั้งหมด เพราะตัวกลางในการชำระหนี้คือเงิน เมื่อเงินไม่สามารถโอนชำระหนี้ได้ก็ต้องถือว่าเป็นผู้ผิดสัญญา เสียเครดิต

ระยะเวลาตรวจสอบและการตรวจสอบมีขั้นตอน กินเวลาที่นาน และมีการแอบทุจริต (ช่องโหว่) ได้ ประเด็นต่อไป เมื่อพิสูจน์ได้ว่าตนเองไม่ผิดแต่ถูกจำกัดสิทธิ์โดยการอายัดบัญชีไว้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง?? ?

ธนาคารก็อาจจะอ้างว่ากระทำตามคำร้องขออายัดของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็อาจจะอ้างว่า กระทำตามกรอบของกฎหมาย
ประชาชนผู้บริสุทธิ์คือรับกรรมใช่ไหม? ……”

สรุปก็คือ “ค่าเสียหาย” ที่เป็นรูปธรรม ซึ่งสอดคล้องกับประเด็นทางกฎหมายที่ว่า ผู้เสียหายสามารถรวบรวมหลักฐานความเสียหายเหล่านี้ (การถูกฟ้องแพ่ง, การเสียเครดิต, ค่าปรับต่างๆ) เพื่อใช้ในการฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากหน่วยงานที่สั่งอายัดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (ฐานละเมิด ตาม ป.พ.พ. มาตรา 420) ตามที่เราได้คุยกันในประเด็นก่อนหน้านี้ครับ

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button