ญี่ปุ่นกดดันหนัก จี้รัฐบาลกัมพูชาเร่งเปิดชายแดนไทย ชี้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาลและอาจทำลายเสน่ห์การลงทุนแบบไทยแลนด์พลัสวัน
ในการประชุมร่วมภาครัฐ-เอกชนญี่ปุ่น-กัมพูชา ครั้งที่ 30 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา ฝ่ายญี่ปุ่นได้แสดงความกังวลอย่างหนักต่อสถานการณ์การปิดพรมแดนทางบกกับประเทศไทย และได้เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาเร่งดำเนินการเปิดการขนส่งให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด เพื่อลดความเสียหายทางเศรษฐกิจที่กำลังบานปลาย
ทูตญี่ปุ่นชี้ “ปิดชายแดนไทย” ทำลายเสน่ห์ลงทุนกัมพูชา
นายอุเอโนะ อัตสึชิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา ได้กล่าวในที่ประชุมว่า หากสถานการณ์การปิดพรมแดนยังคงยืดเยื้อต่อไป กัมพูชาอาจสูญเสียเสน่ห์ในฐานะจุดหมายการลงทุนแบบ “ไทยแลนด์พลัสวัน” ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่บริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากใช้ในการขยายฐานการผลิตเข้ามาในกัมพูชาโดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานและซัพพลายเชนจากประเทศไทย
ด้านนายฟุคุฮาระ โคจิ ประธานสมาคมธุรกิจญี่ปุ่นในกัมพูชา (JBAC) ได้ชี้แจงถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นจริงว่า บริษัทสมาชิกกำลังได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงจากต้นทุนการขนส่งและระยะเวลาในการจัดส่งที่เพิ่มขึ้น จนทำให้ต้องเลื่อนแผนการขยายธุรกิจออกไป และส่งผลกระทบโดยตรงต่อการจ้างงานแรงงานชาวกัมพูชา
ต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว นายซุน จันทอล รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ตอบรับว่า “เราเข้าใจดีว่าบริษัทญี่ปุ่นกำลังได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเปิดพรมแดนทางบกกับประเทศไทยอีกครั้ง”
เปิด 3 ปัญหาใหญ่ที่นักลงทุนญี่ปุ่นยังเผชิญ
นอกเหนือจากปัญหาการปิดชายแดนแล้ว ที่ประชุมยังได้หารือถึงอุปสรรคสำคัญอื่น ๆ ที่นักลงทุนญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งแม้บางประเด็นจะมีความคืบหน้า แต่ส่วนใหญ่ยังคงไร้ทางออก
มีความคืบหน้า
- ปัญหาภาษีโครงการ ODA กรมสรรพากรกัมพูชารับปากว่าจะพยายามเร่งรัดการออกจดหมายยกเว้นภาษีสำหรับโครงการช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ยังไร้ความคืบหน้า
- กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่โปร่งใส ทูตญี่ปุ่นตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการเรียกเก็บเงินบริจาคที่ไม่เป็นธรรม
- ปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมาย ซึ่งยังคงมีอยู่เต็มตลาด ทำให้บริษัทญี่ปุ่นที่เสียภาษีอย่างถูกต้องไม่สามารถแข่งขันได้ และยังทำให้รัฐบาลกัมพูชาสูญเสียรายได้จากภาษีมหาศาล
นายซุน จันทอล ได้กล่าวสรุปและกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่รัฐของกัมพูชาเร่งแก้ไขปัญหา โดยระบุว่า “เพื่อให้กัมพูชาบรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศรายได้สูงในปี 2050 เราต้องแก้ไขปัญหาที่อยู่ตรงหน้าให้ได้ ขอให้เจ้าหน้าที่อย่าขังตัวเองอยู่ในกรอบ แต่จงมองภาพรวมของทั้งประเทศและพยายามแก้ไขปัญหา”
ที่มา: JETRO
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ฮาย อาภาพร ซัดแรง เอาสมองส่วนไหนคิด หลังญี่ปุ่นจี้ไทย-เขมรเปิดด่านชายแดน
- “อนุทิน” ยันยังสั่งการไม่ได้ ปมเปิดชายแดน ย้ำคำนึงถึงประชาชนก่อนอยู่แล้ว
- “จิรัฏฐ์” แจง หลังเสนอผ่อนปรนชายแดน ชี้ไทยไม่ได้กำลังจะเสียดินแดน
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
