
เงินเข้าแล้ว เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือน กันยายน 2568 เช็กจำนวนเงินที่ได้รับตามเกณฑ์อายุ แนะวิธีลงทะเบียนใครมีสิทธิบ้าง ไขข้อสงสัยย้ายที่อยู่ได้รับสิทธิต่อเนื่องไหม?
กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้โอนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำเดือนกันยายน 2568 เข้าบัญชีผู้มีสิทธิทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ (10 ก.ย. 68) พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยรายละเอียดการลงทะเบียนสำหรับผู้สูงอายุรายใหม่ ประจำปีงบประมาณ 2569 สามารถลงทะเบียนได้แล้วตั้งแต่วันนี้ เพื่อรับเงินช่วยเหลือรอบต่อไป ตรวจสอบเงื่อนไข เอกสารที่ต้องใช้ และรายละเอียดอื่น ๆ ที่นี่
เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพไว้แล้วจะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและส่งเสริมคุณภาพชีวิต โดยจำนวนเงินที่ได้รับจะแตกต่างกันไปตามเกณฑ์อายุ ดังนี้
- อายุ 60-69 ปี : ได้รับเงิน 600 บาท
- อายุ 70-79 ปี : ได้รับเงิน 700 บาท
- อายุ 80-89 ปี : ได้รับเงิน 800 บาท
- อายุ 90 ปีขึ้นไป : ได้รับเงินสูงสุด 1,000 บาท
วิธีลงทะเบียนรับเงินเบี้ยผู้สูงอายุ
สำหรับผู้ที่กำลังจะมีอายุครบ 60 ปี หรือผู้สูงอายุที่ยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อนสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์เบี้ยยังชีพในปีงบประมาณถัดไป ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568 ณ สำนักงานเขต, สำนักงานเทศบาล, หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่ท่านมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด
- มีสัญชาติไทย
- อายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป หรือ ผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2509
หากท่านใดที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ข้างต้นต้องเตรียมเอกสารเพื่อยื่นรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเดือนถัดไป ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชน (หรือบัตรอื่นที่ราชการออกให้)
- ทะเบียนบ้านฉบับจริง
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (สำหรับผู้ที่ต้องการรับเงินผ่านบัญชี)
- แบบยืนยันสิทธิการขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
กรณีย้ายที่อยู่ ต้องทำอย่างไรให้ได้รับสิทธิ์ต่อเนื่อง?
สำหรับผู้สูงอายุที่ย้ายทะเบียนบ้านไปยังพื้นที่ใหม่ เพื่อให้ได้รับเบี้ยยังชีพอย่างต่อเนื่องจะต้องไปลงทะเบียนและยื่นคำขอที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือสํานักงานเขตแห่งใหม่ ภายในเดือนพฤศจิกายนของปีที่ย้าย โดยหน่วยงานเดิมจะยังคงจ่ายเงินให้จนสิ้นสุดปีงบประมาณ และหน่วยงานใหม่จะเริ่มจ่ายในปีงบประมาณถัดไป
หากผู้สูงอายุย้ายทะเบียนบ้านแล้วไม่ได้ลงทะเบียนและยื่นขอรับเงินเบี้ยยังชีพที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือสํานักงานเขตแห่งใหม่ จะทำให้เสียสิทธิ์ในการรับเบี้ยยังชีพจากแห่งเดิมและแห่งใหม่
ข้อมูลจาก : dop
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน! มติ ครม. เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 1250 บาท คนพิการได้ถ้วนหน้า
- เริ่มแล้ว ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เช็กคุณสมบัติ-ยอดเงินที่ได้
- เช็กปีเกิด ลงทะเบียนผู้สูงอายุ ได้เบี้ยยังชีพไม่เท่ากัน ใครมีสิทธิบ้าง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: