การเงินเศรษฐกิจ

เพิ่มสิทธิทำฟันประกันสังคม ปี 69 “ษัษฐรัมย์” เล่ายิบที่มาสวัสดิการใหม่

สำนักงานประกันสังคม เพิ่มสิทธิทำฟัน 2569 ปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีทันตกรรมแก่ผู้ประกันตน ปรับแนวทางการจ่าย เพิ่มสิทธิประโยชนถึงบริการ

วันนี้ (9 ก.ย.) สำนักงานประกันสังคม(สปส.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการประกันสังคม(บอร์ดประกันสังคม) ที่มีการประชุมพิจารณาสิทธิประโยชน์กรณีทันตกรรมว่า ที่ประชุมพิจารณาและมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการการแพทย์กองทุนประกันสังคมให้ปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีทันตกรรมแก่ผู้ประกันตนโดยปรับแนวทางการจ่าย เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนเข้าถึงบริการ “กรณีทันตกรรม” ณ สถานพยาบาล คลินิกทันตกรรมได้อย่างสะดวก ดังนี้

1. กรณีผู้ประกันตนที่เข้ารับบริการกรณีทันตกรรมที่สถานพยาบาลเอกชน คงอัตราอุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน วงเงิน 900 บาท/คน/ปี และจัดให้มีการตรวจสุขภาพช่องปาก จ่ายเพิ่มค่าผ่าฟันคุด โรงพยาบาลที่ทำความตกลงห้ามเรียกเก็บเงินเพิ่ม

2.กรณีผู้ประกันตนที่เข้ารับบริการกรณีทันตกรรมที่สถานพยาบาลรัฐ ประกอบด้วย

  • จัดให้มีการตรวจสุขภาพช่องปาก และรายการทันตกรรมอัตราจ่ายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โรงพยาบาลที่ทำความตกลงห้ามเรียกเก็บเงินเพิ่ม
  • ปรับอัตราฟันเทียมถอดได้ และเพิ่มค่าซ่อมฟันเทียมรายครั้ง
  • เพิ่มฝังรากฟันเทียมรองรับฟันเทียมทั้งปาก สำหรับผู้ที่สูญเสียฟันทั้งหมด ที่ทันตแพทย์พิจารณาแล้วว่า ไม่สามารถใส่ฟันเทียมวิธีปกติได้

ทั้งนี้ คณะกรรมการประกันสังคมให้ดำเนินการปรับเพิ่มสิทธิดังกล่าวต่อเมื่อมีการปรับค่าจ้างที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 33 ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 แล้ว

ต่อมา รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน คณะกรรมการประกันสังคม แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กระบุ “สวัสดิการไม่ได้มาจากฟากฟ้า แต่ได้มาด้วยการยืนยันและต่อสู้”

จากนั้นมีการกล่าวถึง “เรื่องทำฟันแบบยาวๆ” ที่เดือนมกราคม ปี 2569 สิทธิ์ทันตกรรมประกันสังคมจะได้การรับการยกระดับครั้งใหญ่ (กับวันที่หนักหน่วงในการประชุมบอร์ดประกันสังคมครั้งแรกในนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 นับจากบอร์ดเลือกตั้งเข้ารับตำแหน่ง)

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ อ้างว่า แม้สวัสดิการทำฟันจ่ายไม่เกิน 900 บาทต่อปีจะเหมือนเป็นสิทธิ์เปิดกว้างสำหรับทุกคนสามารถใช้บริการได้ แต่เอาเข้าจริงแล้วมีคนใช้สิทธิ์ทันตกรรม ประมาณปีละ 4 ล้านคนเท่านั้น หรือคิดเป็นแค่ 28% ของผู้ประกันตน 12 ล้านคนเท่านั้น กล่าวคือถึงแม้เป็นสิทธิ์เปิดกว้างก็ไม่ใช่ทุกคนจะมาใช้

ส่วนการผ่าฟันคุดนั้นสัดส่วนน้อยกว่า ราวๆ 0.8% เท่านั้น ราวๆ 87,000 คน

ดังนั้นการเพิ่มสิทธิ์การผ่าฟันคุด 1,500-2,500 บาทต่อซี่ ก็คาดว่าจะใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท

ส่วนสำคัญ คือ การรักษาฟันที่มีความซับซ้อน เราเองก็ตระหนักว่าอาจไม่สามารถควบคุมกลไกของเอกชนได้เต็มที่ แต่อย่างน้อยการขยายสิทธิ์การรักษาเช่น เกลารากฟัน / ขลิบแต่งกระดูก / แต่งกระดูก / เฝือกผ่าตัด 3 รายการหลังอาจมีคนใช้บริการ 450 คนโดยประมาณ

รวมถึงรักษารากฟันเทียมทั้งปาก กรณีที่ไม่สามารถใช้ฟันเทียมได้ ได้สิทธิประโยชน์ 17,500 บาทเหมือน สปสช ซึ่งนับแล้วก็มีคนใช้สิทธิ์ไม่เยอะ อาจไม่เกิน 100 คน

โดยการรักษาทั้งหมดเพิ่มเติมมากขึ้น ปีละ 300-500 ล้านบาทเท่านั้น

ข้อมูลทุกอย่างที่เราประมวลสมบูรณ์ที่สุด และเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกันตนมากสุด ขอบคุณคณะกรรมการการแพทย์ที่สามารถผลักดันเรื่องนี้ แม้การตัดสินใจเรื่องนี้ในบอร์ดจะยากลำบาก แต่เราก็ยืนยันว่านี่คือสิ่งที่ประกันสังคมควรทำ เราไม่ใช่องค์กรแสวงหากำไร หน้าที่หลักของเราคือการดูแลผู้ประกันตน

เป็นอีกวันที่หนักหน่วงสำหรับทีมประกันสังคมก้าวหน้า แต่ก้าวเล็กๆ นี้ คือ ก้าวที่สำคัญสำหรับผู้ประกันตนทุกคน

แฟ้มภาพ

ด้าน นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษาด้านการเงินการคลัง บอร์ดประกันสังคม กล่าวว่า ความพยายามในการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ในส่วนทันตกรรม ทางสปส. และบอร์ดฯ มีความพยายามมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกันตน ซึ่งสิทธิประโยชน์จะเพิ่มชัดเจน แต่เนื่องจากส่วนนี้ทำให้มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นพอสมควร จึงจะผูกการปรับปรุงสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นกับรายได้ที่เราจะเพิ่มขึ้นจากการปรับเพดานค่าจ้าง ทำให้ต้องเพิ่มการจ่ายสมทบ แต่การจ่ายเพิ่มขึ้นก็จะทำให้สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนเพิ่มขึ้นด้วย.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button