ไขสาเหตุ “ทักษิณ” ได้คุมขังนอกเรือนจำ สรุประเบียบใหม่ราชทัณฑ์

เปิดระเบียบ “คุมขังนอกเรือนจำ” เปิดช่องกฎหมาย หลัง “ทักษิณ” ถูกสั่งจำคุก 1 ปี ชี้ เป็นนักโทษเด็ดขาด อาจเข้าเกณฑ์ป่วยร้ายแรงตามประกาศราชทัณฑ์ แต่การบังคับใช้จริงยังสะดุด รอความพร้อมด้านอุปกรณ์ EM และแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องรับโทษจำคุก 1 ปีในเรือนจำ จากคดีชั้น 14 สังคมได้กลับมาให้ความสนใจประเด็นเกี่ยวกับ ประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่องการคุมขังนอกเรือนจำ อีกครั้ง ซึ่งถูกมองว่าเป็นช่องทางทางกฎหมายที่อาจเกี่ยวข้องกับกรณีนี้
เจาะเงื่อนไข “คุมขังนอกเรือนจำ” กรณีใดเข้าข่าย
ประกาศฉบับนี้มีฐานอำนาจมาจากกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับสำคัญ คือ พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560, กฎกระทรวงกำหนดสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2563 และระเบียบกรมราชทัณฑ์ พ.ศ. 2566 โดยได้กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับผู้ต้องขังที่มีสิทธิ์ไว้อย่างชัดเจน ดังนี้
เกณฑ์สำหรับ “สถานพยาบาล”
- ต้องเป็น นักโทษเด็ดขาด (คดีถึงที่สุดแล้ว)
- มีอาการ เจ็บป่วยร้ายแรง ที่เสี่ยงต่อชีวิต หรืออาจทำให้พิการจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ (เช่น ภาวะติดเตียง)
- ต้องมี ใบรับรองจากแพทย์ของทางราชการ 2 คน ยืนยันอาการ

เกณฑ์สำหรับ “ที่อยู่อาศัย”
- เป็นนักโทษเด็ดขาดที่มีโทษจำคุกเหลือไม่เกิน 4 ปี
- ต้องแสดงความสมัครใจและมีความเสี่ยงต่ำในการกระทำผิดซ้ำ
- ไม่มีประวัติกระทำผิดเงื่อนไข และไม่มีคดีร้ายแรง เช่น ยาเสพติด หรือก่อการร้าย
นอกจากนี้ ผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขทางเทคนิคอย่างเคร่งครัด เช่น การสวม อุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (กำไล EM) และการติดตั้ง กล้องวงจรปิด ในสถานที่คุมขังนั้น ๆ

“ทักษิณ” เข้าเกณฑ์หรือไม่
ในทางทฤษฎี นายทักษิณ ชินวัตร มีสถานะเป็น นักโทษเด็ดขาด และมีประวัติการเจ็บป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้เข้าข่ายการพิจารณาตามเกณฑ์การคุมขังในสถานพยาบาลได้
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือ การบังคับใช้จริงของระเบียบดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยมีรายงานว่ากรมราชทัณฑ์ยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมความพร้อม ทั้งในด้านการจัดหาอุปกรณ์ กำไล EM ให้เพียงพอ และการซักซ้อมแนวทางปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่
นโยบายคุมขังนอกเรือนจำเป็นแนวทางที่ทันสมัยและมีศักยภาพในการลดความแออัดในเรือนจำ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความสุ่มเสี่ยงต่อการถูกวิพากษ์วิจารณ์ หากการบังคับใช้ขาดความโปร่งใส หรือถูกมองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ดังนั้น กรณีของนายทักษิณจึงถือเป็นบททดสอบสำคัญของระบบราชทัณฑ์ ที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สาธารณชนผ่านการเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และมีมาตรการตรวจสอบที่รัดกุม เพื่อยืนยันว่าการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเท่าเทียมกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประวัติ ดร.วาสนา วงศ์สุรวัฒน์ แฟนคำผกา พี่สาว จอห์น วิญญู อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีน
- “แขก คำผกา” ซัดพรรคส้ม พลิกเกมหนุน “อนุทิน” ลั่น ขอบคุณที่เปิดเปลือยตัวตน
- “แขก คำผกา” เหน็บแสบ คนสะใจ “ทักษิณ” ติดคุก ก่อนทิ้งท้ายประโยคเด็ด
อ้างอิง : FB/Thanakrit Vorathanatchakul, กฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ, ภาพ/Drama-addict
ติดตาม The Thaiger บน Google News: