ข่าวการเมือง

ประวัติ เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ เต็ง รมว.คลัง ลูกชายอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ เกิดปี พ.ศ. 2514 (ค.ศ. 1971) ปัจจุบันอายุ 54 ปี สัญชาติไทย มาจากครอบครัวนักกฎหมายและข้าราชการชั้นสูง เป็นลูกชายของ ดร.อิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ กับ นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เอกนิติสมรสกับ นางร้อยแก้ว นิติทัณฑ์ประภาศ สกุลเดิม อักษรานุเคราะห์ ยังไม่มีลูก

เอกนิติ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย จากนั้นเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยม พร้อมได้รับทุนการศึกษาจากสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ต่อมาได้รับทุนรัฐบาล (สำนักงาน ก.พ.) ไปศึกษาต่อระดับสูงในสหรัฐอเมริกา จนสำเร็จ เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต (สาขา Policy Economics) จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์บานา-แชมเปญจน์ และ เศรษฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต (สาขา Macroeconomics and International Finance) จากมหาวิทยาลัยแคลร์มอนต์

การเรียนที่โดดเด่นทำให้เอกนิติได้รับรางวัลทางวิชาการหลายรายการ เช่น ศิษย์เก่าดีเด่นมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ รวมถึงได้รับเลือกเป็น นักเรียนทุนรัฐบาลดีเด่น ของสำนักงาน ก.พ. ได้รับรางวัล “นักเศรษฐศาสตร์ดาวรุ่งแห่งปี 2552” และ “นักเศรษฐศาสตร์ดีเด่นแห่งปี 2561” จากสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ตลอดจนรางวัล ศิษย์เก่าดีเด่น ของคณะเศรษฐศาสตร์และของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประจำปี 2567 อีกด้วย

เส้นทางอาชีพ

เอกนิติ มีประสบการณ์ทำงานทั้งในภาคเอกชนและภาครัฐ ช่วงเริ่มต้นเคยทำงานภาคการเงินเอกชนเป็น เจ้าหน้าที่วิเคราะห์หลักทรัพย์ ที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ภัทรธนกิจ บริษัทย่อยในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นอาชีพในฐานะนักวิเคราะห์การลงทุนก่อนที่จะเปลี่ยนมารับราชการเต็มตัว

หลังจากนั้น เบนสายมารับราชการใน กระทรวงการคลัง เริ่มจากตำแหน่งนักเศรษฐกรที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และเติบโตขึ้นเป็นผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาคของ สศค. ด้วยความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ เอกนิติได้รับโอกาสไปปฏิบัติงานในเวทีระดับโลกในตำแหน่ง Senior Advisor to Executive Director ที่ธนาคารโลก (World Bank) ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา รวมถึงดำรงตำแหน่ง อัครราชทูตฝ่ายเศรษฐกิจการคลัง ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ดูแลงานด้านเศรษฐกิจและการเงินของไทยในภูมิภาคยุโรป

เมื่อกลับมาประเทศไทย เอกนิติได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญในกระทรวงการคลังหลายตำแหน่ง ได้แก่ โฆษกกระทรวงการคลัง และ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งบริหารระดับสูงในฐานะ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในปี 2558

จากนั้นได้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมสรรพากร (2558-2561) ตามด้วย อธิบดีกรมสรรพสามิต (2565-2567) และปัจจุบัน (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567) ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง

ผลงานที่สำคัญในหน้าที่ราชการ

ด้วยความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และวิสัยทัศน์ที่ทันสมัย เอกนิติ มีผลงานโดดเด่นหลายประการในการพัฒนางานราชการด้านการคลังของประเทศ อาทิ การผลักดัน รัฐบาลดิจิทัล นำระบบดิจิทัลมาปรับใช้ในการบริการประชาชนของหน่วยงานกรมภาษีอย่าง กรมสรรพากร และ กรมสรรพสามิต ส่งผลให้การให้บริการเกิดความสะดวกรวดเร็ว โปร่งใส จนกรมทั้งสองได้รับรางวัล “ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่น” จากรัฐบาลไทย ประจำปี 2566 และรางวัล Digital Government Award ระดับเอเชียและโอเชียเนีย ปี 2565 รวมถึงรางวัล Thailand Digital Transformation Award ปี 2564 เป็นต้น

ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร เอกนิติยังริเริ่มนำระบบ Blockchain มาใช้ในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่นักท่องเที่ยวเป็นครั้งแรกของโลก ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับรางวัลนวัตกรรมการบริหารภาษีระดับนานาชาติอีกด้วย

อีกผลงานเชิงนโยบายที่สำคัญ คือการสร้าง แหล่งทุนรูปแบบใหม่ให้ภาครัฐ โดยเอกนิติเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้ง กองทุน Thailand Future Fund (TFF) เพื่อระดมทุนผ่านตลาดทุนสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งช่วยลดภาระการกู้เงินระยะยาวของรัฐบาล

ผลงานนี้ถือเป็นการเปิดช่องทางการเงินใหม่ให้รัฐในการพัฒนาประเทศ ในด้านการบริหารรัฐวิสาหกิจ เอกนิติได้มีบทบาทในการ ปฏิรูประบบการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ โดยนำระบบการสรรหาและคัดเลือกกรรมการบนพื้นฐานสมรรถนะ (Skill Matrix) มาใช้ เพื่อให้การแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจมีความโปร่งใสและได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่ง

เอกนิติ มีส่วนร่วมในการออกแบบ ระบบวิเคราะห์และพยากรณ์เศรษฐกิจมหภาค ให้แก่กระทรวงการคลัง เพื่อใช้ติดตามภาวะเศรษฐกิจและช่วยวางแผนนโยบายการเงินการคลังของประเทศได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

บทบาททางการเมืองในรัฐบาลปัจจุบัน

แม้ เอกนิติ จะเป็นข้าราชการสายวิชาการและมิได้สังกัดพรรคการเมืองใด แต่ด้วยประสบการณ์และผลงานที่โดดเด่น ได้รับความไว้วางใจให้ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ของรัฐบาลชุดใหม่ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี

ชื่อของเอกนิติได้รับการเสนอและเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย ในฐานะหนึ่งใน “รัฐมนตรีคนนอก” ที่ถูกเชิญมาร่วมคณะรัฐมนตรีชุดที่ 1 ของนายอนุทิน ทำให้เอกนิติกลายเป็นบุคคลสำคัญในการกำหนดนโยบายการคลังของรัฐบาลปัจจุบัน และแสดงถึงแนวโน้มการดึงผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกภาคราชการเข้าสู่บทบาทบริหาร

นอกจากงานประจำในภาครัฐ เอกนิติ ยังมีบทบาทในกิจกรรมทางวิชาชีพและสังคมอื่น ๆ อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการทำหน้าที่ในคณะกรรมการและองค์กรต่าง ๆ ได้แก่

ประธานกรรมการธนาคารทีทีบี (ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ttb) ซึ่งเป็นตำแหน่งบริหารระดับสูงในสถาบันการเงินภาคเอกชนของไทย

ประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำของประเทศ

ประธานกรรมการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (บริษัทรัฐวิสาหกิจในสังกัดกรมธนารักษ์)

กรรมการบริหาร โครงการ Tax Inspectors Without Borders (TIWB) ภายใต้ความร่วมมือขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP)

กรรมการ โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย (สถาบันการศึกษาระดับมัธยมที่เขาเคยศึกษา) และ กรรมการสภามหาวิทยาลัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

ในด้านกิจกรรมส่วนตัว เอกนิติยังเคยมีบทบาทในวงการกีฬา โดยสมัยวัยรุ่นเคยเป็นนักกีฬารักบี้ฟุตบอล เยาวชนทีมชาติไทย และยังเคยทำหน้าที่เป็น ประธานชมรมรักบี้ฟุตบอล ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในช่วงที่ศึกษาอยู่ที่นั่น

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button