ไปมุง “บิลลี่” ฟาดแรงเกรียนคีย์บอร์ด หลังโพสต์ยินดี อนุทิน นายกคนที่ 32 รอบคอบ-ใจเย็น

บิลลี่ โอแกน หล่นคำชมถึง อนุทิน ชาญีวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ใจเย็น-รอบคอบ ก่อนใต้คอมเมนต์ทำนักร้องเจ้าของซิงเกิลระดับตำนาน “ลาออก” ซัดเดือดเกรียนคีย์บอร์ด ระวังปาก ไล่ไปเห่าที่อื่น ย้ำสัมพันธ์ศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญ “คุณอนุทินเพื่อนผม ไม่รู้จริงอย่าเจ๋อ” อยากดราม่าการเมืองไปเพจอื่น
เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา บิลลี่ โอแกน อดีตร็อกเกอร์มาเดเข้ม อายุ 59 ปี เขียนข้อความแสดงความยินดีกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย ด้วยคะแนนเสียง 311 เสียง โดยการเลือกนายกฯ คนปัจจุบันมาจากข้อตกลงการจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคการเมืองที่มีจำนวนมากสุด คือ “พรรคประชาชนกับ”พรรคภูมิใจไทย” โดยพรรคปชน.ยืนยันจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านเป็นการต่อไป
เนื้อหาของบิลลี่ในโพสต์ล่าสุดนั้น ! เริ่มจากกล่าวคำชมว่า ตนต้องขอแสดงความยินดีกับคุณอนุทิน ที่ได้รับเสนอชื่อและดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 “รักษาตัวให้ดีๆ นะครับ คุณอนุทิน ดีใจที่มีศิษย์เก่าอัสสัมชัญบางรัก ดำรงตำแหน่งสำคัญของประเทศอีกครั้งหนึ่ง”
“คุณอนุทินเป็นคนใจเย็นและรอบคอบ เชื่อว่าจะสามารถประคับประคองและเอาอยู่แม้จะเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็มั่นใจว่าคนอย่างคุณอนุทินสามารถสร้างผลงานและสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ ผมและศิษย์เก่าอัสสัมชัญทุกคนเป็นกำลังใจให้ครับ AC98”
ต่อมาใต้โพสต์ของนักร้องระดับตำนานยังมีการระบุแจ้งเตือนไปถึง ผู้ใช้โซเชียลบางรายที่เข้ามาดราม่าการเมืองโดยที่ บิลลี่ ย้ำว่า ต้องการแค่สื่อสาร ชื่นชมยินดีในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง ก่อนไล่เกรียนคีย์บอร์ดล่วงหน้า ถ้าจะเข้ามาเขียนอะไรมไ่ดี ข้อให้อย่าทำเพราะตนเอง กดบล็อกคนที่เขียนเนื้อหา หรือเข้ามา “ท็อกซิก (Toxic)”
“แบนพวกปากสุนัขไป 2-3 ตัวแล้ว ระวังปากตัวเองด้วย ไปเห่าที่อื่น คุณอนุทินเพื่อนผม ไม่รู้จริงอย่าเจ๋อ เสล่อปล่าวๆ
แล้วพวกแทรกเรื่องการเมือง มาอีกประเภทนึง น่ารำคาญมาก ไปเพจการเมืองนู่นเลย”


ไทม์ไลน์ชีวิต & การเมือง นายอนุทิน ชาญวีรกูล ปัจจุบันอายุ 59 ปี
- 2509 เกิดที่กรุงเทพฯ (13 ก.ย.)
- 2527 จบมัธยม โรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ
- 2532 ปริญญาตรี วิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัย Hofstra, สหรัฐฯ
- 2538–2547 ประธานบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งฯ (STECON)
- 2539 ก้าวสู่สนามการเมือง
- 2562–2566 รองนายกรัฐมนตรี + รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์)
- 2566–2568 รองนายกรัฐมนตรี + รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
- 29 ส.ค. 2568 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร พ้นตำแหน่งนายกฯ → เกิดสุญญากาศทางการเมือง
- ก.ย. 2568 พรรคภูมิใจไทยเสนอชื่ออนุทินเป็น แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 32
- 5ก.ย.68 ได้รับการเสนอชื่อและมีเสียงสนับสนุนให้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย หลังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ทำให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่างลง

ตลอดเส้นทางการเมือง นายอนุทิน ได้รับการยอมรับว่าเป็น “นักบริหารประสบความสำเร็จ” มี “หัวใจติดปีก”
อ้างอิงข้อมูลจาก “กรมประชาสัมพันธ์” สำหนัลเส้นทางการเมืองของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เริ่มต้นเส้นทางการเมืองตั้งแต่ปี 2539 ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีดังนี้
“อนุทิน ชาญวีรกูล” เริ่มต้นเส้นทางการเมืองตั้งแต่ปี 2539 ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต่อมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนจะก้าวสู่ตำแหน่งสำคัญคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลที่ผ่านมา
ตลอดเส้นทางการเมือง นายอนุทิน ได้รับการยอมรับว่าเป็น “นักบริหารประสบความสำเร็จ” มี “หัวใจติดปีก” พร้อมผลักดันแนวคิด “หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย” โดยมีผลงานเด่นด้านการพัฒนาระบบสาธารณสุข นโยบายกัญชาทางการแพทย์ และการสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาค
แนวคิดทางการเมือง ว่าที่นายกฯ คนที่ 32
นายกรัฐมนตรีคนใหม่ย้ำว่า จะบริหารประเทศด้วยความมุ่งมั่น “ลดขั้วการเมือง ทำงานเพื่อประชาชน” มุ่งเน้นการปฏิรูปเศรษฐกิจ การยกระดับคุณภาพชีวิต และการสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงและการพัฒนา เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นประเทศที่เข้มแข็งและยั่งยืน

บิลลี่ โอแกน สมัยโด่งดัง ย้อน 38 ปี สมัยเซ็นสัญญากับค่ายดัง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
ในส่วนของบิลลี่ โอแกน ถ้าใครที่ติดตามชายมาดเข้มที่ผ่านสมรภูมิดนตรีมาโชกโชนจนกระทั่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ศิลปินและพิธีกรที่ครองใจแฟนๆ มายาวนานผู้นี้มีเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาสมกับบทเพลงฮิตในสมัยอดีตมาดเข้มของแท้ (อ้างอิงข้อมูล : เพจ Facebook เพลงไทยยุค80-90) เจ้าตัวเริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงด้วยการเซ็นสัญญากับค่ายดัง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในปี พ.ศ. 2530 ด้วยผลงานเพลงแรก “บิลลี่ บิลลี่” ที่สะท้อนสไตล์ป๊อปอันสดใส และค่อยๆ สร้างสรรค์ผลงานที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์เรื่อยมา ปัจจุบัน บิลลี่มีผลงานอัลบั้มมาแล้วถึง 11 ชุด ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นและความรักในเสียงดนตรี
หลังจากหมดสัญญากับ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในปี พ.ศ. 2535 และกับค่ายคีตา เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ในปี พ.ศ. 2537 บิลลี่ได้เริ่มเปลี่ยนบทบาทของตนเองสู่การแต่งเพลงให้กับอัลบั้มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 ในอัลบั้ม “บิลลี่ อาสา” โดยมีส่วนร่วมในการผลิตงานเพลงเองและเป็นผู้บริหารบริษัท โรงบ่มดนตรี จำกัด นอกจากนี้ เขายังขยายธุรกิจไปสู่การสร้างผลงานเพลงและภาพเคลื่อนไหวสำหรับโฆษณาและภาพยนตร์ ในนามบริษัท ดาราฤกษ์ จำกัด
ขณะที่หนึ่งในความเห็นตอบกลับกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปดอดคอม (Pantip.com) ตั้งหัวข้อ “บิลลี่ โอแกนในสมัยก่อนดังมากแค่ไหน?” โดยหนึ่งในสมาชิกได้เข้ามาอธิบายแบบสรุปว่า “ดังทางนักร้องนะ ถ้าชื่อเสียงทางการแสดงคิดว่าพอกับ อาเล็กซ์ ธีรเดช , เกรท วรินทร คือเป็นพระเอกแต่ไม่โดดเด่นมาก ออกเทปจะดังมากช่วงพีคน่าจะ 2532 – 2537 ดังสุดน่าจะชุด 2532 บิลลี่เข้ม”
ขณะที่อีกความเห็นของแฟนเพลงยุคก่อนช่วยย้ำอีกเสียง เกี่ยวกับกระแสนิยมในตัวบิลลี่สมัยก่อนที่ออกอัลบั้ม-ออกเทปขายดีเป็นเทน้ำเทท่าก็ปรากฏต่อสายตากันมาแล้ว
“เทปดังมากค่ะ ! สมัยก่อนเราก็ซื้อเทปบิลลี่ เพลงฮิต ๆ ที่วัยรุ่นร้องตามได้ทุกคนคือเพลงลาออก ต่อมาก็ช่วงเพลงหน่อมแน้ม ออกมาช่วงไล่เลี่ยลิฟท์กับออย แต่เราชอบร็อคมากกว่า เลยซื้อเทปพี่บิลลี่”.


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คนละครึ่ง คืนชีพ “อนุทิน” ปัดฝุ่นแน่ กระตุ้นเศรษฐกิจ “ควิกวิน” ขุด 5 เฟส กู้แจก
- อนุทิน ขอบคุณประชาชน-พรรคส้ม ภูมิใจไทยเปิดคลิปย้ำ หันมาร่วมมือเต็มสูบ
- อุ๊งอิ๊ง โพสต์กลางดึก หลัง อนุทิน ขึ้นแท่นนายกฯ ใหม่
ติดตาม The Thaiger บน Google News: