จับตา โหวตนายกฯ คนที่ 32 พรุ่งนี้ ศึกชิงเก้าอี้ “อนุทิน-ชัยเกษม” ใครกุมเสียงชี้ขาด

พรุ่งนี้รู้ผล! ศึกชิงนายกฯ ระหว่าง อนุทิน ได้เสียงสนับสนุนจาก พรรคประชาชน ภายใต้เงื่อนไขยุบสภาใน 4 เดือน กับ ชัยเกษม ที่ยืนยันยุบสภาทันที
โค้งสุดท้ายสู่เก้าอี้นายกฯ คนที่ 32 ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568 รัฐสภาไทยมีวาระสำคัญในการลงมติเลือก นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองครั้งสำคัญ ภายหลังจากที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองและนำไปสู่การเสนอชื่อแคนดิเดตเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำรัฐบาลคนใหม่
2 ขั้ว 2 แนวทาง “ชัยเกษม” หรือ “อนุทิน”
การแข่งขันครั้งนี้เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างสองแคนดิเดตจากสองพรรคการเมืองใหญ่ โดยมีแนวทางที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
สำหรับ ศ.พิเศษ ชัยเกษม นิติสิริ (พรรคเพื่อไทย) อดีตอัยการสูงสุดและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมวัย 77 ปี ถูกเสนอชื่อโดยพรรคเพื่อไทย พร้อมจุดยืนที่ชัดเจนคือ “ยุบสภาทันที” หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนได้ตัดสินใจผ่านการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด

ทางด้านของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเมือง โดยมีเป้าหมายในการบริหารประเทศต่อไปภายใต้เงื่อนไขที่ตกลงร่วมกับพรรคการเมืองอื่น

พรรคประชาชน = ตัวแปรชี้ขาด
กุญแจสำคัญในการโหวตครั้งนี้อยู่ในมือของ พรรคประชาชน ซึ่งมี สส. ในมือถึง 143 เสียง ทำให้กลายเป็นพรรคตัวแปร ที่จะชี้ขาดว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป โดยพรรคประชาชนได้ประกาศมติสนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล ภายใต้เงื่อนไขสำคัญ 5 ข้อ ซึ่งมีสาระหลัก คือ ยุบสภาภายใน 4 เดือน นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือนหลังแถลงนโยบาย เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป
เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ผลักดันให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็วที่สุด และเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย พรรคภูมิใจไทยจะต้องไม่ดำเนินการใด ๆ เพื่อรวบรวมเสียงให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก
ส่วนพรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้าน จะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีสมาชิกพรรคไปรับตำแหน่งรัฐมนตรี

บทสรุป เดิมพันอนาคตการเมืองไทย
การลงมติในวันที่ 5 กันยายนนี้ ไม่ใช่เพียงการเลือกตัวบุคคล แต่เป็นการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ของทิศทางการเมืองไทย หากเสียงส่วนใหญ่เทไปทาง นายชัยเกษม นิติสิริ ประเทศไทยจะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งใหม่อย่างรวดเร็ว
แต่หากเสียงข้างมากเลือก นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะเป็นการเปิดศักราชของ รัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่มีภารกิจหลักในการประคับประคองสถานการณ์และนำพาประเทศไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งครั้งต่อไปตามเงื่อนไขที่วางไว้
ด่วน! “พรรคประชาชน” เมินดีล “เพื่อไทย” ยืนยันโหวต “อนุทิน” ตามเดิม
Q&A โหวตนายกฯ คนใหม่ วันที่ 5 ก.ย. 2568
Q: ทำไมต้องโหวตใหม่?
- ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ แพทองธาร ชินวัตร หลุดจากตำแหน่งนายกฯ เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ต้องเลือกนายกฯ คนใหม่ ซึ่งจะเป็นคนที่ 32 ของประเทศไทย
Q: มีใครบ้างที่ชิงเก้าอี้?
- ชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย อดีตอัยการสูงสุด
- อนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย อดีตรองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข
Q: พรรคประชาชนคือกุญแจสำคัญ?
- พรรคประชาชนมีเสียงมากกว่า 140 ที่นั่ง ทำให้กลายเป็น “ตัวแปรชี้ขาด”
- พรรคนี้ตั้งเงื่อนไขว่า หากใครได้เป็นนายกฯ ต้อง ยุบสภาภายใน 4 เดือน และ แก้รัฐธรรมนูญ
Q: แต่ละฝ่ายมีแนวทางยังไง
- ชัยเกษม (เพื่อไทย) บอกชัด ถ้าได้เป็นนายกฯ จะยุบสภาเร็วที่สุด คืนอำนาจให้ประชาชนเลือกใหม่
- อนุทิน (ภูมิใจไทย) ยอมทำ “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” คือไม่รวบเสียงจนเกินครึ่ง เพื่อให้พรรคประชาชนมั่นใจ แล้วค่อยเดินหน้าตามข้อตกลง
Q: ผลที่จะตามมา
- ถ้า ชัยเกษมได้ → จะมีการเลือกตั้งใหม่เร็ว ๆ นี้
- ถ้า อนุทินได้ → ประเทศไทยอาจได้รัฐบาลเสียงข้างน้อย ต้องบริหารด้วยการต่อรองในสภา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “แพทองธาร” แชร์ย้ำข้อเสนอ โหวต “ชัยเกษม” ยุบสภา หลังแถลงนโยบาย
- ประวัติ อนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ผลงานเพื่อประชาชนเพียบ
- เปิดทรัพย์สิน ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ติดตาม The Thaiger บน Google News: