เพื่อไทย รุกฆาต ชิง “ยุบสภา” ตัดทาง “อนุทิน” นั่งนายก เปิดไทม์ไลน์การเมืองไทย จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?

ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองกำลังจะพลิกขั้วไปมา ความพยายามจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยพรรคภูมิใจไทย หลังพรรคประชาชนมีมติโหวต อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลรักษาการ ได้ตัดสินใจเดินหมากรุกฆาต ด้วยการ ทูลเกล้าฯ ถวายร่างพระราชกฤษฎีกา (พรฎ.) ยุบสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นการ “กดปุ่มรีเซ็ต” เพื่อคืนอำนาจการตัดสินใจกลับสู่มือประชาชนอีกครั้ง
นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ให้เหตุผลว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ เนื่องจากการที่พรรคประชาชนประกาศจะโหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ แต่ไม่ขอเข้าร่วมรัฐบาล จะทำให้รัฐบาลชุดใหม่เป็น รัฐบาลเสียงข้างน้อย ขาดเสถียรภาพและความเชื่อมั่น
คำถามสำคัญที่คนไทยทั้งประเทศอยากรู้คือ แล้วหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น กระบวนการตามกฎหมายจะเป็นอย่างไร? ไทยเกอร์เฉพาะกิจขออธิบายทุกขั้นตอนให้เข้าใจง่ายที่สุด
1. รัฐบาลรักษาการ ยุบสภาได้จริงหรือ?
เรื่องนี้เป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกัน แต่หากอ้างอิงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 103 การยุบสภาถือเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีปกติเท่านั้น
ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนอ้างว่า แม้รัฐบาลชุดปัจจุบันจะเป็น “รัฐบาลรักษาการ” ที่มีอำนาจจำกัด แต่การยุบสภาเพื่อแก้ปัญหาทางตันทางการเมือง จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ ถือเป็นหนึ่งในอำนาจที่สามารถทำได้ รัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามไว้ เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินอีกครั้ง
2. ไทม์ไลน์เลือกตั้งใหม่
เมื่อมีการยุบสภาเกิดขึ้น กระบวนการทั้งหมดจะเดินหน้าตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภา
เมื่อพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะมีผลบังคับใช้ทันที ณ วินาทีนั้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ทั้ง 500 คน จะสิ้นสุดสมาชิกภาพลงทันที
ขั้นตอนที่ 2 รัฐบาลรักษาการยังคงอยู่
คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันจะยังคงทำหน้าที่เป็นรัฐบาลรักษาการต่อไป โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี มีอำนาจบริหารประเทศเท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง และอำนวยการจัดการเลือกตั้งให้สงบเรียบร้อย
ขั้นตอนที่ 3 กกต. กำหนดวันเลือกตั้ง
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ภายในระยะเวลา ไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ พรฎ. ยุบสภามีผลบังคับใช้ กกต. จะประกาศกำหนดวันรับสมัคร สส. และวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการให้ประชาชนทราบ
3. หลังวันเลือกตั้ง กว่าจะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่
กระบวนการหลังจากที่ประชาชนได้เข้าคูหาลงคะแนนเสียงแล้ว ยังมีขั้นตอนอีกหลายอย่างก่อนที่เราจะได้รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ขั้นตอนที่ 1 การรับรองผลการเลือกตั้ง
กกต. จะต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง สส. ให้ได้อย่างน้อย 95% ของจำนวน สส. ทั้งหมด (หรือ 475 คน) ภายใน 60 วันหลังวันเลือกตั้ง
ขั้นตอนที่ 2 เปิดประชุมสภาฯ นัดแรก
จะต้องมีการเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ กกต. ประกาศผลการเลือกตั้ง
ขั้นตอนที่ 3 เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร
ในที่ประชุมนัดแรก สส. ทั้งหมดจะลงมติเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาฯ ซึ่งประธานสภาฯ จะทำหน้าที่เป็นประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง
ขั้นตอนที่ 4 โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
ประธานสภาฯ จะกำหนดวันประชุมเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคการเมืองต่างๆ จะเสนอชื่อบุคคลจากบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคตนเอง
ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องได้คะแนนเสียง มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน สส. ทั้งหมด (หากมี สส. ครบ 500 คน จะต้องได้ 251 เสียงขึ้นไป)
ขั้นตอนที่ 5 จัดตั้งคณะรัฐมนตรี
เมื่อได้ตัวนายกรัฐมนตรีแล้ว นายกฯ คนใหม่จะเป็นผู้พิจารณาจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ และนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้งต่อไป เมื่อนั้น รัฐบาลรักษาการชุดปัจจุบันก็จะสิ้นสุดภารกิจลง
การตัดสินใจ “ยุบสภา” ของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นการยุติความพยายามในการจัดตั้งรัฐบาลขั้วใหม่ และส่งคืนอำนาจกลับสู่มือประชาชนเพื่อตัดสินใจอีกครั้ง สิ่งที่คนไทยทุกคนต้องจับตาดูหลังจากนี้คือ กำหนดวันเลือกตั้ง และการฟอร์มทีมของแต่ละพรรคการเมือง เพื่อเตรียมเข้าสู่สนามเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่เกิน 2 เดือนข้างหน้านี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สรุป “ยุบสภา” คืออะไร ดาบสุดท้ายรัฐบาล คืนอำนาจประชาชน ก่อนเลือกตั้งใหม่
- ประวัติ อนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ผลงานเพื่อประชาชนเพียบ
- “ไอซ์ รักชนก” จับสัญญาณ “ชัยเกษม” ตั้งคำถามเพื่อไทยมีฮีโร่ขี่ม้าขาวในใจ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: