สรุป 6 คำใบ้ ผู้หยั่งรู้รายใหม่ มีตาทิพย์ ระดมทองคำ รวยมหาศาล หวั่นโดน 112

สรุปพฤติกรรม คำใบ้ ผู้หยั่งรู้รายใหม่ คือใคร มีตาทิพย์ ระดมทองคำ เปิดรับบัญชีบริจาคครอบจักรวาล ส่อโดน 112 อ้างเบื้องสูง
รายการ “พุทธะทอล์ค” ของ พุทธอภิวรรณ แห่งช่อง 8 ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกผ่านช่องยูทูบ คดีอื้อฉาวของ “สมีจอร์จ” อดีตพระชื่อดังแห่งวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งกำลังถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกเงินบริจาค การสืบสวนได้ขยายวงกว้างไปยังบุคคลใกล้ชิดหลายรายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองทรัพย์สินแทน ซึ่งรวมถึงอดีตข้าราชการระดับสูงและคนในวงการบันเทิง นอกจากนี้ยังมีการเปิดประเด็นใหม่เกี่ยวกับ “ผู้หยั่งรู้” อีกรายที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยในลักษณะคล้ายคลึงกัน
อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ รับถือครองที่ดินกว่า 300 ไร่
อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ออกมายอมรับว่าตนเองเป็นผู้ถือครองโฉนดที่ดินของวัดเป็นจำนวนมากถึง 300 กว่าไร่ อ้างว่าหลวงพ่อเป็นผู้ให้ถือไว้ก่อน เนื่องจากมีดำริจะสร้างโรงเรียน
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตถึงช่วงเวลาการโอนคืนที่ดิน ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2567 อันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ตำรวจเริ่มเข้ามาสืบสวนคดีอย่างเข้มข้น ทั้งที่มูลนิธิธรรมรักษ์ซึ่งสามารถรับโอนที่ดินได้โดยตรงนั้นก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2537 แล้ว ทางอดีต ผอ. ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาไม่สามารถโอนคืนได้เพราะหลวงพ่ออ้างว่าโฉนดหาย และยอมรับว่าตนเองมีความกังวลว่าจะถูกดำเนินคดี
“เจ๋ง ดอกจิก” ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา วัดพระบาทน้ำพุแค่ 2 ครั้ง ไม่เกี่ยวถือโฉนดที่ดิน
กระแสข่าวยังพุ่งเป้าไปที่ดาราตลกชื่อดัง “เจ๋ง ดอกจิก” ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการถือครองทรัพย์สินให้สมีจอร์จ ทางรายการจึงได้ติดต่อสอบถามโดยตรง แต่ เจ๋ง ดอกจิก ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาอย่างสิ้นเชิง
เจ๋ง ดอกจิก ยืนยันว่าตนเองเพิ่งเคยไปวัดพระบาทน้ำพุเพียง 2 ครั้งเท่านั้น การไปทั้งสองครั้งเกิดขึ้นหลังจากที่เรื่องราวของสมีจอร์จเป็นข่าวใหญ่แล้ว ตนไม่เคยมีความเกี่ยวข้องใดๆ กับวัดมาก่อน ไม่เคยถือครองที่ดิน ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น
จ่อเปิดโปง “ผู้หยั่งรู้” รายใหม่ พฤติกรรมคล้าย “สมีจอร์จ”
สรุปพฤติกรรม ผู้หยั่งรู้รายใหม่ ที่ถูกกล่าวหา
- สร้างตัวตนและเรื่องราวความพิเศษของตนเองผ่านสื่อโทรทัศน์ มีตาทิพย์ จนมีผู้ติดตามและศรัทธาจำนวนมาก อยากทำบุญด้วย มีคนมาอาสาทำงานไม่คิดเงิน
- ระดมทองคำ: มีการเปิดรับบริจาคเป็นทองคำ อ้างว่าจะนำไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ แต่ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนว่าทองคำดังกล่าวอยู่ที่ไหน และมีจำนวนเท่าใด
- ใช้บัญชีธนาคารเพียงบัญชีเดียวในการรับเงินทุกประเภท ครอบจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นเงินทำบุญ เงินจากการจัดกิจกรรม หรือรายได้อื่นๆ ซึ่งบัญชีดังกล่าวไม่ได้เป็นชื่อของ “ผู้หยั่งรู้” โดยตรง แต่เป็นชื่อของคนใกล้ชิดที่ไม่ใช่ญาติ ทำให้ยากต่อการตรวจสอบและแยกแยะเงินส่วนตัวกับเงินบริจาค
- ใช้ของแบรนด์เนมและขายวัตถุมงคล: มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า “ผู้หยั่งรู้” เริ่มใช้สินค้าแบรนด์เนม ผลิตวัตถุมงคลเพื่อสร้างรายได้มหาศาล ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าเงินรายได้ถูกนำไปใช้อย่างไร
- รายการได้ให้คำใบ้ทิ้งท้ายว่า “ผู้หยั่งรู้” รายนี้ เป็นผู้ที่อ้างว่าสามารถสื่อสารทางจิตกับพญานาคได้
- หวาดเสียวโดน 112 มีการอ้างเบื้องสูง ว่าติดต่อได้
พุทธอภิวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้วิเศษรายนี้ยังถือว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ถ้าจะฟ้องตนที่เอาเรื่องมาเล่า ไม่กลัว ไม่ได้เอ่ยชื่อด้วย ถ้าฟ้องก็ดี เพราะจะได้เรียกเงินในบัญชีมาเปิดเผยด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: