ไร้มนุษยธรรมต้องไม่มีที่ยืน เสียงสะท้อนเคส “มาเดีย” สู่วันสังคมไม่ทน
ก่อนอื่นบทความนี้ไม่ได้มีเจตนาจะล่าแม่มดหรือขุดประวัติอื่นใดเพื่อมาประณาม สาวประเภทสองซึ่งไปก่อเหตุสุดทรามบนสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงด้วยการยืนชี้หน้าด่า “มาเดีย” สาวผู้เสียหายที่สาเหตุแค่มีการทับกระเป๋าของอีกฝ่าย พร้อมกับท้าทายยินดีจ่ายค่าปรับ 500 บาท เพียงขอแค่ได้ลงมือทำร้ายคู่กรณี
เคสนี้เวลาไม่นานจริงๆ หลังมีคลิปหลักฐานชัดเจน ต่อมาทางด้านของสเตเดียม วัน (Stadium One) ต้นสังกัดของสาวประเภทสองที่ด่ากราด “มาเดีย” บนรถไฟฟ้า จัดารเทคแอคชั่นอย่างรวดเร็ว โดยตรวจสอบทันทีและพบว่า สาว LGBQ ดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายชูศักดิ์ เป็นพนักงานรายวันของโครงการ Stadium One จริง จึงประกาศให้พ้นสภาพพนักงานทันที และพร้อมให้ความร่วมมือกับผู้เเสียหาย
ตัวอย่างเสียงชื่นชมต้นสังกัดที่ออกบทลงโทษเด็ดขาด ถึงกับคอมเมนต์ชื่นชมเลยว่า “ชื่นชม Stadium One นะคะ เทคแอคชั่นเร็วมากกก พนักงานที่จิตใจต่ำช้า กิริยาต่ำทราม เหยียดหยามเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแบบนั้น ไม่ต้องเก็บไว้ให้เป็นมลพิษในสังคมกีฬาค่ะ”
สำหรับเคสนี้เชื่อว่าหลายๆ คนซึ่งน่าจะผ่านตากับคลิปที่กำลังเป็นประเด็นเดือดของสังคมจะทราบโดยทันทีถึงสาเหตุที่ทั้งต้นสังกัดและผู้คนจำนวนมากที่มารุมประณามต้องการให้มีบทลงโทษเพื่อเป็นการทำให้เข็ดหลาบนั้น หลักๆ เป็นเพราะเนื้อหาผรุสวาทที่เผยแพร่กันบนโลกออนไลน์ซึ่งตอกย้ำความไร้ซึ่งศีลธรรมอันดีแบบขั้นสุด
อ้างอิงข้อมูลจากเพจ “Poetry of Bitch” ระบุตอนที่มีปัญหากระทบกระทั่งกันแล้ว มาเดียยืนยันว่าไม่ได้นั่งทับกระเป๋าของชูศักดิ์ แต่ก็ยินดีจะขอโทษ
ส่วนพยานที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าผู้เสียหายไม่พูดจาหยาบคายเลย มีแต่ขอโทษอย่างสุภาพ ทว่าปรากฏอีกฝ่ายยังพาดพิงไปถึงศาสนา
ด้วยการพูดว่า ”ถ้าพูดอีกxxx ตบแน่ ! เสียแค่ 500 ไม่กลัวหรอก xีอิสลาม“
ต่อมาเมื่อมาเดียลงจากรถ ชูศักดิ์ยังด่าตามหลังไม่เลิก พร้อมท้าทายหลายครั้งให้ไปแจ้งความและแจ้งรถไฟฟ้า ”ตูไม่กลัว เพราะมีปัญญารับผิดชอบ“
โดยหลังจากลงรถมีผู้หญิงคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์และลงสถานีเดียวกัน รีบเดินเข้าไปกอดปลอบมาเดีย และมาเดียน้ำตาไหลแต่ก็ยังพูดอย่างใจเย็นว่า “ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้คงเป็นแบดเดย์ (Bad day) ของเรา”
เพจด้วยย้ำว่าเรื่องนี้คงจบไปเงียบ ๆ ถ้าไม่มีผู้โดยสารคนหนึ่งแอบอัดคลิปไว้ และนำไปแปะในเพจ Airport Rail Link (แต่มีบางส่วนที่ถ่ายไว้ไม่ทัน เช่น ตอนชูศักดิ์ยกเท้าใส่หน้ามาเดีย)
ถึงตรงนี้ ผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีแต่ก็ยังยืนกรานต้องการเอาผิดมากสุดแค่ให้อีกฝ่ายออกมาขอโทษต่อสิ่งที่ทำลงไป
จากรายงานสถานการณ์ล่าสุดระบุชัดเจนว่า มาเดียที่ขึ้นโรงพัก สน.หัวหมาก เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) ทางผู้เสียหายย้ำไม่ต้องการค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินใด ๆ แค่เพียงต้องการแค่คำขอโทษจากชูศักดิ์เท่านั้น คือ ขอโทษเธอ ขอโทษพ่อแม่เธอ และขอโทษศาสนา
มาเดียยอมรับว่าใจเสียที่ทำงานมาเหนื่อย ๆ แล้วยังมาเจอเรื่องแบบนี้ และไม่เข้าใจว่าทำไมต้องด่าทอกันรุนแรงขนาดนี้ เธอพยายามกดอำนาจฝ่ายต่ำ ใจเย็น และไม่ตอบโต้ เท่านั้นไม่พอเธอยังแสดงความเห็นใจที่ชูศักดิ์ต้องตกงาน
“หนูเห็นใจเขา ลองคิดดูว่าพรุ่งนี้เขาก็จะไม่ได้ไปทำงานแล้ว“
เมื่อมีคนชื่นชมเธอว่าเติบโตมาดี มาเดียก็บอกว่า ”หนูไม่ใช่คนนิสัยดีอะไรหรอก แค่ไม่ใช้อารมณ์”
ขณะที่ความเห็นหนึ่งใต้เพจสรุปดราม่าของเพจ Poetry of Bitch ถึงกับยกคดีนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่จะจำให้ขึ้นใจหากมีเสียงในหัว หรือจำเป็นต้องหัวร้อนปะทะคารมณ์กับใคร จะขอยึดการตอบกลับด้วยกิริยามารยาทที่ส่อสกุลสุภาพ แบบเคสมาเดียเป็นตัวอย่างสงบสติชั้นดีอีกด้วย
”คำนี้สร้าง Impact ให้สมองและความรู้สึกผมมากเลยครับ หนูไม่ใช่คนนิสัยดีอะไรหรอก แค่ไม่ใช้อารมณ์ มีเรื่องให้หัวร้อนจะพยายามนึกถึงคำนี้ให้มากๆ ครับ ขอบคุณมาก“
ปัจจุบันตำรวจเชิญมาเดียให้ปากคำเพิ่มเติม ขณะเดียวกันหลายรายการเชิญมาเดียไปสัมภาษณ์ แต่มีการปฏิเสธเพราะกลัวอีกฝ่ายไม่มีที่ยืนในสังคม
ขณะที่อัปเดตไม่นานนี้ บนสื่อออนไลน์มีการอ้างว่า นายชูศักดิ์ LGBTQ ฉาว! เตรียมขอขมา “น้องมาเดีย” ปมด่าบนรถไฟฟ้าและดูหมิ่นศาสนาอิสลาม โดยคาดว่าน่าจะทนแรงกดดันไม่ไหว.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มาเดีย แจ้งความแล้ว ชูศักดิ์ สาวสองด่าหยาบ บนรถไฟฟ้า ยังจิตใจดี สงสารโดนไล่ออก
- สาวด่ากราด หลังถูกคู่กรณีเดินชนบนรถไฟฟ้า ล่าสุดบริษัทสั่งพ้นสภาพพนง.แล้ว
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
