สมปอง ยืมเงิน อดีตพระอลงกต สั่นคลอนศรัทธาคนทำบุญ หรือรอบตัวไม่เหลือพระปกติ เพจดังตามจวก อุทานแรงก่อนถามตรงๆ นี่หรือสังคมผ้าเหลืองที่เปื้อนศรัทธาหน้าแผ่นทององค์พระพุทธรูป !
จากกรณี ทิดสมปอง นครไธสง อดีตพระนักเทศน์สึกพร้อมผันตัวเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในปัจจุบัน ออกมาสารภาพกลางรายการโหนกระแสเมื่อวันศุกร์ (29 ส.ค.) โดยยอมรับเคยได้หยิบยืมเงินจากอดีตพระอลงกต สมัยยังไม่ถูกเปิดโปงนั่งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดังเมืองลพบุรี
สำหรับประเด็นนี้เริ่มจากตัวสมปองเองออกมาเล่าว่า มีปัญหาแม่ป่วยติดเตียง ต้องใช้เงินขึ้นมาและอยากยืมแบบไม่มีดอกเบี้ย เพราะบอกว่าก่อนหน้านี้ยืมแบบมีดอกเบี้ยมาแล้ว เลยโทรไปหาอดีตพระอลงกต เพราะคิดว่าพระดัง มีงานสวด ยังไงก็น่าจะมีตังอยู่แล้ว
สุดท้ายหลังอ้ำอึ้ง ! กว่าสรุปตัวเลขหยิบยืมตอนแรกบอก เอาเงินสดใส่ถุงขนมมาให้ก่อน 1 ล้าน และให้ผู้ชายคนนึงโอนเงินให้ โดยแบ่งเป็นทีละ 5 ล้านบ้าง 4 ล้านบ้าง 3 ล้านบ้าง
สรุป สมปองขอยืมเงินอลงกต สุทธิที่ยอด 13 ล้านบาท อ้างว่าตัวเองคงต้องใช้เวลา 4-5-7-8 ปีคงจ่ายคืนที่เหลือหมด ซึ่งตอนนี้ต้น 13 ล้าน จ่ายคืนไป 5.5 ล้านแล้ว เหลืออยู่ 8.8 ล้าน มีการจดเอาไว้หมด
เรื่องนี้ไฟตัดพ้อยังลามถึง แพรรี่ ไพรวัลย์ อดีตพระนักเทศน์เพื่อนสนิทที่ไม่ไว้ใจสมปอง โดยไว้ใจเพียง 70:30 เปอร์เซนต์ด้วย
อย่างไรก็ดี มุมนักวิชาการ ล่าสุด ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ เขียนและวิเคราะห์ตบจบประเด็นยุ่งเหยิงในแง่ตรรกะไว้ชัดเจน ฟันธงงานนี้สั่นสะเทือนศรัทธา คนทำบุญไปจนพุทศาสนิกชนจะยากเชื่อใจ ไว้ใจตักบาตรกับคนผ้าเหลืองได้แบบปะหน้ากันยากขึ้นไปอีก
“ข่าวการกู้ยืมเงินระหว่างอดีตพระสมปองกับพระอลงกต เป็นเรื่องที่กระทบต่อศาสนาพุทธอย่างมาก เพราะพระควรเป็นผู้ละวางจากเรื่องเงินทอง ไม่ควรยุ่งกับการกู้ยืมจำนวนเงินหลักสิบล้าน ซึ่งสมปองเองก็ต้องรู้นะคะ การที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะย่อมทำให้คนทั่วไปตั้งคำถามว่า“
”เงินที่นำมาใช้จริงๆ แล้วเป็นเงินส่วนตัวหรือเงินที่เกี่ยวพันกับวัดและศรัทธาญาติโยม ถึงแม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าเป็นเงินส่วนตัว แต่เมื่อไม่มีหลักฐานเอกสารชัดเจนก็ยากที่จะลบข้อสงสัยได้ อีกทั้งการที่พระถูกพูดถึงในฐานะ“
“เจ้าหนี้-ลูกหนี้ ยังทำให้ภาพพุทธศาสนากลายเป็นเรื่องผลประโยชน์ oh my god ไม่ต่างจากโลกธุรกิจ ซึ่งขัดกับหลักความสมถะและความโปร่งใสที่คนคาดหวังจากพระสงฆ์ไม่ใช่หรอคะ ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวลักษณะนี้ยังทำให้ศรัทธาของญาติโยมที่ทำบุญถวายวัดถูกสั่นคลอน เพราะหลายคนย่อมอดคิดไม่ได้ว่าเงินที่ถวายด้วยความบริสุทธิ์ใจอาจถูกนำไปหมุนเวียนในลักษณะที่ไม่เหมาะสม จนทำให้ภาพรวมของพระพุทธศาสนาดูเสื่อมลง (มีอะไรเสื่อมได้อีก?) ทั้งที่ควรจะเป็นพื้นที่แห่งความสงบ ความน่าเคารพ และความไว้วางใจของสังคม”
“สรุป รอบตัวเรา มีพระและอดีตพระที่เป็นคนปกติเหลืออยู่บ้างไหม?”
ขณะที่เพจตามติดชีวิตแม่บ้านแขก หมดอาลัยตายอยากถึงขั้น อุทานผ่านแคปชั่นคาใจอดีตพระสมปองคำรบล่าสุดว่า เรื่อง “พระยืมเงินพระ” น่าจะสะท้อนความรู้สึกของพุมธศานิกชนที่ดูรายการว่า ความรู้สึก ! คือ เค้ารู้สึกยังไง ตอนเค้าบริจาคเงิน แล้วตัวผู้นำองค์กรเอาเงินมาใช้ลักษณะแบบนี้
“ถ้าเป็นเงินส่วนตัวก็โอเค แต่ถ้าตรวจแล้วเงินวัดมันก็รู้สึกเศร้าใจ เงินวัดมันต้องใช้กับกิจของสงฆ์ เจ้าอาวาสไม่มีสิทธิ์เอามาให้บุคคลยืม”
ตอนจบงงเต๊ก ขนาดเจ้าหน้าที่หลับตายิ้ม แล้วพูดไม่มีเสียงว่า “แปลก” เลยตอนที่คุณหนุ่มถามว่า ตกลงยืมไป 13 หรือ 14 ล้าน เพราะรวมเงินแล้วมันคือ 14
สมปองตอบว่า ตอนแรก 13 ล้าน แต่ด้วยความรู้สึกขอบคุณที่อดีตพระอลงกตใจดี เลยจะถวายให้ ทำบุญคืนอีก 1 ล้านบาทไปเลยเป็นคืน 14 ล้านบาท
ทุกคนในรายการคืองง คนทางบ้านอย่างฉันก็งง !
ก่อนจบสมปองได้บอกไปถึงผู้ชมทางบ้าน ที่อาจจะเข้าใจผิดว่าไปเอาเงินวัดมาว่า “ผมก็ไม่ได้ทวงบุญคุณหรอก ผมเคยถวายที่ช่วยผู้ป่วยเอดส์ด้วยใจบริสุทธิ์ของผม ตั้งแต่ผมทำซีดีธรรมะเดลิเวอรี่ วันนึงที่ผมเดือดร้อนผมไปยืมเอาไปดูแลแม่ผม ที่ป่วยติดเตียง ผมก็เลยลองดูว่า ท่านจะมีน้ำใจกับผมมั้ย เมื่อท่านมีน้ำใจผมก็ยืมท่าน แล้วก็เจตนาจะใช้คืนตลอด
“แต่ถ้าท่านอยากให้ผมคืนไวๆ ตอนนี้ผมมีสินค้าก็อุดหนุนผม เมตตาผม เอ็นดู เชียร์ผม ผมจะได้เอาไปคืนวัดเร็วๆ เอาไปทำความดีอย่างอื่นเร็วๆ“
แอดมินเพจย้ำว่า เทปโหนกระแส สมปองกับหนุ่ม กรรชัย เที่ยวนี้นั้นเป็นการสัมภาษณ์ที่ฟังแล้วอึดอัดมาก ! เพราะมีความทวงบุญคุณ มีความตัดพ้อ-น้อยใจ มายก๊อดคือนี่ !!คือคนบวชพระมาก่อนหลายพรรษาเหรอ ?
”คือเข้าใจนะในสถานการณ์ที่แม่ป่วย แม่ติดเตียงมันก็ต้องใช้เงินเยอะจริง แต่การกล้าที่จะไปหยิบยืมคนที่ไม่รู้จัก เหตุผลเพราะว่า ไม่รู้จักหรอก แต่สมัยก่อนก็เคยให้เงินวัดนี้มาก่อน มันบ่าได้ งี้คนทำบุญ โดยเฉพาะจากเงินตัวเองเลยเนี่ย เวลามีปัญหาไม่ไปทวงคืนหมดเลยเหรอ? บริจาควัด โรงพยาบาล ช่วยหมาแมว มูลนิธิ ถึงเวลาช๊อตบอก เออ สมัยก่อนเคยช่วย ตอนนี้ขอบ้างสิคะ มันได้เหรอเอาดีๆ“
สมปอง เคลื่อนไหวล่าสุด จบที่กองปราบฯ พร้อมหลักฐานหนี้
อัปเดตวันนี้ (30 ส.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 13.39 น.ที่ผ่านมา สมปอง นครไธสง อัปเดตผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า วันนี้ตนและทนายเก่ง วิษรุษ มณีรัตน์ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนที่กองบังคับการปราบปราม และได้นำพยานหลักฐานทั้งหมด สลิปการโอนทุกแผ่น ทุกยอด มอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของผม จากนี้ก็เป็นขั้นตอนของกฎหมาย และพร้อมจะให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนทุกกรณี
“ขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ผม จากนี้ไป ผมก็จะต้องตั้งใจไลฟ์สดขายของ เพื่อหาเงินใช้หนี้ให้หมด ส่วนเงินที่ผมยืมอดีตหลวงพ่อและยังผ่อนชำระคืนไม่หมด ผมตกลงกับเจ้าหน้าที่ว่า จะนำมาวางชำระคืนในสำนวน โดยส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนทุกบาททุกสตางค์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”
ฝากช่วยสนับสนุนผมด้วยนะครับ “อิณาทานัง ทุกขัง โลเก การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก ฉะนั้นการหมดหนี้ก็จะเป็นสุขในโลกเช่นกัน มุ่งขายของใช้หนี้นะจ้ะสมปอง“.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สมปอง หอบหลักฐาน ขึ้นกองปราบฯ ยันบริสุทธิ์ ปมยืมเงิน อดีตหลวงพ่อ 14 ล้าน
- แพรรี่ สวนคนแซะ ปมหนี้ 10 ล้าน สมปอง ย้ำสถานะ กูเป็นน้อง ไม่ได้เป็นเมีย
- อึ้ง บัญชีวัดพระบาทน้ำพุ เหลือ 10 ล้าน ย้ำไม่เยอะ ดูแลกว่า 200 ชีวิต รับถึงเวลาตัวใครตัวมัน
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
