อดีตพระอลงกต ถูกโกงเงิน 100 ล้าน ซื้อเฮลิคอปเตอร์ ก่อนหายเข้ากลีบเมฆ

sukanlaya s.เผยแพร่: 28 ส.ค. 2568 13:53 น.| อัปเดต: 28 ส.ค. 2568 13:56 น.

396

ตำรวจเผยอดีตหลวงพ่ออลงกตอ้างถูกนักธุรกิจโกงเงิน 100 ล้าน

ป.ป.ท. เผย ‘อดีตหลวงพ่ออลงกต’ อ้างถูกนักธุรกิจยืมเงินซื้อเฮลิคอปเตอร์ 100 ล้าน แต่หายเข้ากลีบเมฆ ล่าสุด เจอเช็ก 30 ฉบับ 100 กว่าล้าน ยอมรับไม่รู้มีตู้บริจาคเงินวัดกี่ใบ

โหนกระแสวันนี้ยังตามติดกับประเด็นของ ‘อดีตหลวงพ่ออลงกต’ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ หลังจากถูกบุกรวบกลางดึกของวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากมีพฤติกรรมทุจริตยักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์สินของวัดเป็นของตนเอง หรือของผู้อื่นโดยมิชอบ ล่าสุด มีการเข้าตรวจสอบทรัพย์สินเพิ่มเติม พบเช็กจำนวนมากรวมมูลค่า100 กว่าล้าน

พ.ต.ท. สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา ล่าสุด สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้าไปตรวจสอบพบเช็กประมาณ 30 ฉบับ รวมเป็นเงิน 100 กว่าล้านสั่งจ่ายให้วัดและข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่นำเข้าธนาคาร ซึ่งอดีตหลวงพ่อเปิดใจว่าเคยโดยโกง 100 กว่าล้าน เล่าว่า “มีนักธุรกิจคนหนึ่งนำเฮลิคอปเตอร์มารับที่วัดเวลาไปกิจนิมนต์ วันหนึ่งอีกฝ่ายก็แจ้งว่าจะให้เฮลิคอปเตอร์ไว้รับส่งท่านเดียวกัน แล้วทางบริษัทจะซื้อเฮลิคอปเตอร์อีกลำหนึ่ง จึงมีเรื่องของการยืมเงินเข้ามา หลังจากยืมเงินไปก็หายไปเลย อันนี้แค่จุดเดียวที่เราเจอ ที่เราได้คุยกับท่าน แต่มันทำให้เรามั่นใจว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้ท่านพังคือการบริหารเงินไม่โปร่งใส“

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงตู้บริจาคและการเรี่ยไรเงิน หลังจากสอบปากคำนายอลงกตพบว่าเจ้าตัวไม่ทราบว่ามีตู้บริจาคเงินวัดพระบาทน้ำพุกี่ตู้ จากนั้นเล่าถึงขั้นตอนการรับตู้บริจาคไปตั้ง หากชาวบ้านต้องการนำไปตั้งที่ต่าง ๆ ต้องทำอย่างไรบ้าง อดีตหลวงพ่อตอบกลับว่า “ไม่ยากครับ ก็ไปติดต่อแล้วนำบัตรประจำตัวประชาชนมาเซ็นไว้ และแจ้งเบอร์โทรศัพท์” พร้อมตั้งคำถามถึงเรื่องส่วนแบ่งการตั้งตู้บริจาค เช่น 70/30 ตามที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้

จากนั้น พ.ต.ท. สิริพงษ์ สอบถามวิธีการเก็บเงินจากตู้บริจาค ซึ่งได้ความว่า “วิธีแรก คือ นำเงินมาส่งเอง วิธีที่สอง คือ โอนเข้าบัญชีวัด” แต่มีคำถามที่หลายคนสงสัยคือหากประชาชนนำตู้บริจาคไปแล้วไม่นำส่งเงินหรือส่งเงินไม่หมดต้องทำอย่างไร อีกฝ่ายตอบสั้น ๆ เพียงว่า “อันนี้อยู่ที่สำนึก”