รู้แล้ว เทคนิค ‘หมอบี’ สัมภาษณ์สื่อ ทำนาย-ระลึกชาติได้ จนคนหลงเชื่อว่าแม่น

‘ผศ.นพ.สุรัตน์’ แพทย์สมองวิเคราะห์ ‘หมอบี’ สัมภาษณ์สื่อ อ้างเห็นผี-ระลึกชาติได้ ใช้คำถามนำให้คนหลงเชื่อว่าแม่น เผยเวลาถูกซักถามก็ใช้เทคนิคเดียวกัน ถามกลับเพื่อคุมเกม
หลังจากที่ ‘หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ’ หรือ นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ถูกตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำกำลังเข้าควบคุมตัวตามหมายจับ เชื่อว่ามีการทุจริตยักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ ล่าสุด โซเชียลตั้งข้อสงสัยว่าหมอบีใช้เทคนิคใดในการพูดทำให้หลายคนตกหลุมพรางและหลงเชื่อได้
ล่าสุด ‘ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช’ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบประสาทและสมอง ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์ วิเคราะห์การกระทำของหมอบี หลังเห็นว่าอีกฝ่ายสัมภาษณ์ออกรายการมากมาย มักจะอ้างว่าเห็นผี หรือระลึกชาติได้
ดูหมอบีหลายเทปทั้งใหม่เก่า ทั้งทายว่าเห็นผี ระลึกชาติ จนถึงสัมภาษณ์คุณหนุ่มหรือแก้ตัวกับนักข่าว เค้ามีเทคนิคที่ใช้คือ ‘ถามนำ’ (leading questions) ก่อน [นอกจากการมีการหาข้อมูลคู่สนทนา] เพื่อทำให้คู่สนทนาหรือผู้ถูกถามเหมือนกับถูกชี้ทางให้ตอบไปตามกรอบที่เขาปูไว้ ตัวอย่างเช่น ถ้าอยากให้คนพูดเรื่อง ‘แม่บ้าน’ ก็อาจถามว่า ที่บ้านมีใครทำกับข้าวให้ใช่ไหมครับ? หรือ ผู้หญิงที่บ้านชอบทำกับข้าวหรือเปล่า? จนอีกฝ่ายตอบว่า ‘ใช่ครับ แม่ทำ’ แล้วก็จับประเด็นตรงนั้นมาใช้ต่อ
เออ มันฉลาดวุ้ย คนถูกถามก็จะแบบรู้จริงด้วย แม่นวุ้ย เวลาถูกไล่ถามในคดีก็ใช้แบบนี้
พอเอามาใช้ในบริบท คดีหรือการถูกซักถาม เทคนิคนี้จะกลายเป็นการย้อนกลับไปใช้คำถามนำแทนการตอบตรง ๆ แทนที่จะตอบแบบเปิดเผย โดยใช้ถามนำคืนเพื่อตั้งกรอบ ซึ่งเปลี่ยนบทบาทจาก ‘ผู้ถูกซักถาม’ ไปเป็น ‘ผู้ควบคุมบทสนทนา’ คนฟังจะเผลอหลุดเข้ามาเล่นในกรอบที่เขาตั้งไว้เอง เช่น ถ้าโดนถามว่า คุณรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้ไหม? แทนที่จะตอบว่า ‘รู้’ หรือ ‘ไม่รู้’จะ ใช้ถามนำกลับ เช่น คุณหมายถึงวันที่มีคนนั้นอยู่ด้วยใช่ไหมครับ? หรือ ที่ว่ารู้เห็น หมายถึงเห็นด้วยตาเอง หรือ หมายถึงได้ยินจากคนอื่น? ตรงนี้ทำให้คู่ถามต้อง ‘ปรับความหมาย’ และอธิบายเพิ่มกลายเป็นว่า คนถามต้องตามเกมของเขา เทคนิคนี้ฉลาด เพราะปรับเกม
- เทคนิค ‘ถามนำก่อน’ คือ ควบคุมทิศทางการสนทนา
- ช่วยลดแรงกดดันเวลาโดนไล่ถามตรง ๆ
- เป็นการ ซื้อเวลา และ เลี่ยงคำตอบที่เสียเปรียบ
- ใช้ได้ทั้งกับการสื่อวิญญาณ (สร้างบรรยากาศให้คู่สนทนา “ตกลงไปในกรอบ”) และการถูกซักถามจริง (กันตัวเองจากการถูกต้อนให้จนมุมเร็วเกินไป)

มันมีวิจัยว่าคำถามนำแบบนี้ เปลี่ยนความทรงจำไปในทิศทางที่คนถามกลับต้องการได้ leading question ที่เปลี่ยนความทรงจำ (memory distortion) เป็นหนึ่งในหัวข้อที่ดังที่สุดใน cognitive psychology และ forensic psychology มันมีกลไกว่า ทำไมคำถามนำเปลี่ยนความทรงจำได้ เรียก Misinformation Effect เพราะคนเรามีช่องโหว่ของความจำ คือ post-event information (ข้อมูลที่ได้รับหลังเหตุการณ์) สามารถเขียนทับความทรงจำจริง
ถ้าได้รับคำถามนำหรือข้อมูลเสริมแบบชี้นำ สมองจะ integrate เข้ากับ memory เดิม จนกลายเป็น ‘ความทรงจำใหม่’ อีกกลไกนึงเรียก Source Monitoring Error คือ คนไม่สามารถแยกได้ชัดเจนว่า ‘ข้อมูลนี้มาจากการเห็นเอง หรือมาจากคำถาม/คำบอกเล่า’ ทำให้เชื่อมั่นว่าคือความจำของตนเอง
ทั้งนี้ หมอดู หมอเดา นักหลอกล่อ ต้มตุ๋น หรือ เทคนิคที่ใช้ของพวกทนายความก็ใช้อันนี้แหละครับ [ขอเติมนะ บางคนบอก แม้นแม่น สิ่งลี้ลับ ไม่เคยเจอ ไม่ขอ comment นะ เราดูเท่าที่เราสังเกตเห็นจริง ไม่จริง ไม่รู้]



อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทนาย ยืนยัน หมอบี มีเมียเดียว! เผย รู้ตัวคนสร้างหลักฐาน ปมวัดพระบาทน้ำพุ
- ทนายรณณรงค์ ฟาดเดือด ‘ผัวเมียหน้าด้าน’ ลั่น คนไม่สนเรื่องชู้สาว จี้ถามเงินบริจาค
- ทนายบอก เหตุการณ์นี้ทดสอบว่า “หมอบี” เป็นเพชรแท้ ยื่นขอประกัน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: