เอ็มมา เฮมิง วิลลิส ภรรยาของนักแสดงรุ่นใหญ่ บรูซ วิลลิส อัปเดตอาการของสามีที่ป่วยโรคภาวะสมองเสื่อมส่วนหน้า เผยทั้งน้ำตา เริ่มสื่อสารไม่ค่อยได้แล้ว
ยอดดารานักบู๊ บรูซ วิลลิส (Bruce Willis) ต้องเผชิญกับช่วยชีวิตบั้นปลายที่น่าเห็นใจ หลังจากที่เจ้าตัวป่วยเป้นโรคภาวะสมองส่วนหน้า (Frontotemporal Dementia) ส่งผลต่อการวช้ชีวิตเป็นอย่าง โดยล่าสุด เอ็มมา เฮมิง วิลลิส ภรรยาของเขา ได้ให้สัมภาาณ์กับสื่ออย่าง ABC News ถึงอาการของสามีว่า “บรูซยังเคลื่อนไหวได้ดีมาก สุขภาพโดยรวมของบรูซดีเยี่ยมเลยค่ะ มันมีแค่สมองของเขาเท่านั้นที่กำลังล้มเหลว”
ในปี 2022 ครอบครัวของวิลลิสเคยประกาศว่าเขาจะยุติบทบาทการแสดง หลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะบกพร่องด้านการใช้ภาษา (aphasia) และไม่ถึงหนึ่งปีต่อมา ครอบครัวก็เปิดเผยว่าอาการของเขาลุกลามกลายเป็นภาวะสมองเสื่อมส่วนหน้า
เอ็มมา เฮมิง วิลลิส ยืนยันว่า นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง Armageddon กำลังสูญเสียความสามารถในการสื่อสาร โดยบอกว่า “การใช้ภาษาของเขากำลังหายไป และเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว เรามีวิธีสื่อสารกับเขาในแบบที่… แตกต่างออกไป”
แต่เธอก็บอกว่ายังมีบางช่วงเวลาที่เธอได้เห็นบุคลิกที่ร่าเริงของเขากลับมา ซึ่งทำให้เธอหวนนึกถึงช่วงเวลาก่อนที่เขาจะป่วย “ไม่ใช่ทั้งวัน แต่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ” เอ็มมากล่าว “มันคือเสียงหัวเราะของเขาค่ะ เขามีเสียงหัวเราะที่ดังและจริงใจ และบางครั้งคุณก็จะได้เห็นแววตาที่เปล่งประกายหรือรอยยิ้มมุมปากนั้น และฉันก็เหมือนกับ… ถูกส่งย้อนกลับไปในอดีต”
เธอแสดงสีหน้าสะเทือนใจขณะพูดต่อว่า “มันยากที่จะเห็น เพราะช่วงเวลาเหล่านั้นเกิดขึ้นเร็วและหายไปเร็วเช่นกัน มันยากค่ะ แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณ ขอบคุณที่สามีของฉันยังคงอยู่กับเราอย่างเต็มที่”
เอ็มมาและบรูซแต่งงานกันในปี 2009 และมีลูกสาวด้วยกันสองคน นอกจากนี้ บรูซยังมีลูกสาวอีกสามคนจาก เดมี มัวร์ อดีตภรรยา ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เอ็มมาได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียเพื่อฉลองวันพ่อและสะท้อนถึงอาการของสามี
“สุขสันต์วันพ่อสำหรับคุณพ่อทุกคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับความพิการหรือโรคภัย แสดงให้เห็นถึงความพยายามในแบบที่ทำได้ และแก่ลูกๆ ที่คอยดูแลพวกเขา” เธอกล่าวในโพสต์อินสตาแกรม “สิ่งที่บรูซสอนลูกสาวของเรานั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าคำพูดใดๆ ทั้งความอดทน ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข และความแข็งแกร่งที่เงียบสงบจากการได้อยู่ด้วยกัน”
อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่า วันสำคัญต่างๆ เช่น วันพ่อ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับครอบครัวที่ต้องต่อสู้กับภาวะสมองเสื่อม โดยบอกว่า “พูดตามตรง วันสำคัญเหล่านี้ทำให้ฉันรู้สึกมาก วันนี้ฉันรู้สึกเศร้าอย่างสุดซึ้ง ฉันหวังด้วยทุกเซลล์ในร่างกายว่าสิ่งต่างๆ จะแตกต่างออกไปสำหรับเขา และครอบครัวของเราจะรู้สึกเบาขึ้น”
อ้างอิง : ew.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
