ข่าว

แฉเบื้องลึก “จอร์จ การละคร” CEO วัดหมื่นล้าน เคยเกเร ก่อนห่มเหลือง สวมชื่อคน

แฉเบื้องลึก ประวัติชีวิตแท้จริงใต้ผ้าเหลือง “จอร์จ การละคร” อดีตพระอลงกต CEO วัดพระบาทน้ำพุ ยอดเงินบริจาคคาดหมื่นล้าน

ประวัติชีวิตของ “ทิดจอร์จ” หรือ อดีตหลวงพ่ออลงกต กำลังกลายเป็นชิ้นเนื้อเจ้าหน้าที่รัฐเร่งสืบสวนอย่างเข้มข้น หลังจากที่พบว่าชีวิตของอดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุนั้น “เป็นการละครเรื่องหนึ่ง” ที่ผสมผสานความจริงเข้าความเท็จเข้าไว้ด้วยกันอย่างยากจะแยกแยะ ไม่รู้ว่าจงใจสร้างขึ้นเพื่อ “ฉายหนังเรื่องนี้ให้คนดูให้คนเชื่อ” และสร้างศรัทธา

ประวัติหลวงพ่ออลงกต

จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ พบว่า จอร์จ อลงกต หรือชื่อตามใบสูติบัตร ไกร เพ็ชรแก้ว ยอมรับว่าในอดีตเคยใช้ชีวิต สำเล เทเมา กินเหล้า เกเร หลังจากไปเล่นฟุตบอลที่เทพศิรินทร์ แต่ไม่ได้เข้าเรียนจริงๆ ตามเคยเล่า ก่อนมาเป็นพระ ทำงานรับจ้างทั่วไป ท่านไม่สามารถจำได้ว่าได้ไปลงทะเบียนเกณฑ์ทหารหรือไม่ แต่อ้างว่าในช่วงเวลาที่หายไป ได้ไปทำงานที่มาเลเซียโดยผ่านช่องทางธรรมชาติในงานก่อสร้าง ไม่ได้เขียนแบบตึกเปโตรนาส

ประวัติ “หลวงพ่ออลงกต” วัดพระบาทน้ำพุ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิธรรมรักษ์ ที่พึ่งสุดท้ายผู้ป่วยเอดส์

ประเด็นที่น่าสนใจและเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบสวนเชิงลึกคือเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว เจ้าหน้าที่ระบุว่า จอร์จมีภรรยาอยู่หลายคน และมีหนึ่งในนั้นที่เป็น “กิ๊กใหม่” เกิดอาการ “หึงหวง” ซึ่งนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ จนโป๊ะแตก เจ้าหน้าที่เริ่มเข้ามาสอบสวน เจ้าหน้าที่กำลังสอบขยายผลในประเด็นนี้

อย่างไรก็ดี ล่าสุดข้อมูลในส่วนภรรยาหลายคน ในรายการโหนกระแส พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ ระบุว่า ไม่มีข้อมูลหลวงพ่อในส่วนนี้ คาดว่าน่าจะเป็นของหมอบี

การที่จอร์จใช้ชื่อกับเลขประจำตัวของผู้อื่น คือ นายอลงกต พลมุข ข้าราชการกระทรวงเกษตร ในใบสุทธิ ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียน ถูกอธิบายว่าเป็นการ “ปกปิดตัวตน” ไม่ให้รู้ว่าชื่อเดิมคือ “เกียงไกร เพ็ชรแก้ว” ซึ่งอาจมีจุดประสงค์เพื่อหลบหนีทหารหรือคดีต่าง ๆ ที่ยังตรวจสอบไม่พบ

“CEO อลงกต” ผู้บงการ และอาณาจักรพันล้านภายใต้ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ

การสืบสวนขยายผลชี้ให้เห็นว่าหลวงพ่ออลงกต ถูกมองว่าเป็น ซีอีโอผู้บงการทุกอย่าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ มูลค่าของกิจการที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุนั้นหลายพันล้าน และอาจสูงถึงหมื่นล้าน เนื่องจากมีเงินบริจาคเข้ามาจากทุกทิศทุกทางเป็นจำนวนมหาศาลตลอดกว่า 30 ปี

เงินบริจาคจำนวนมากนี้ถูกผ่องถ่ายเอาไปทำอย่างอื่น เช่น ใจฟ้าอคาเดมี่ และมักถูกใช้เป็น “เงินสด” ทำให้การตรวจสอบเป็นเรื่องยาก เจ้าหน้าที่พบว่ามีที่ดินหรือกิจการอย่างอื่นอีกหลายกิจการ ที่วัดได้ไปสร้างหรือฝากไว้ ขณะนี้กำลังดำเนินการทวงคืนทรัพย์สินเหล่านี้

แม้จะยอมรับว่า ทิดจอร์จได้ทำความดีในส่วนหนึ่ง ช่วยเหลือผู้ป่วย HIV แต่สิ่งที่ท่านสร้างไว้นั้น “ไม่ใช่กิจของสงฆ์” การตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดตั้งแต่เกิดจนลาสิกขาบทจะต้องดำเนินการโดยละเอียดจากพยานหลักฐาน

เจ้าหน้าที่ได้ออกคำเตือนอย่างชัดเจนว่า หากผู้ใดที่ถือครองที่ดินหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับวัดยังดื้อ หรือไม่ยอมมาพบเจ้าหน้าที่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงิน ซึ่งเป็นคดีที่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะตามไปถึงตัวผู้กระทำผิดอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx