“ปลอดประสพ” แนะ เจรจาหย่าศึก ยินดีควักเงินแสน ขับชาวเขมรพ้น บ้านหนองจาน

ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯ เสนอแนวทางแก้ปัญหาบ้านหนองจาน แนะใช้ม็อบชนม็อบ-เจรจา เสนอให้จ่ายค่าชดเชย พร้อมสมทบทุนส่วนตัว 1 แสนบาท
27 สิงหาคม 2568 ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาความตึงเครียดบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยชี้ว่าหากการเจรจาล้มเหลว ควรพิจารณาจ่ายเงินชดเชยเพื่อให้ชาวกัมพูชาย้ายออกไป พร้อมกันนี้ยังประกาศยินดีร่วมสมทบทุนส่วนตัว 100,000 บาท
ปลอดประสพ ระบุว่า “กรณีหนองจาน ตัดใจให้ค่าชดเชย ผมยินดีร่วมออก วันนี้ขอพูดเรื่องหนองจานที่ชาวเขมรออกมาพะบู๊กับทหารไทยเมื่อวาน โดยจะแนะนำถึงวิธีแก้ไขด้วย
ค่ายอพยพหนองจาน หรือแคมป์ 511 อยู่อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เป็นค่ายอพยพชาวเขมรแห่งแรกและมีผู้อพยพเป็นหลักพัน แต่ถูกกองทัพเวียดนามตีแตกในปลายปี 2527 ชาวเขมรจึงย้ายไปเขาอีด่าง
ค่ายอพยพเขาอีด่าง อยู่อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ห่างจากหนองจานประมาณ 20 กม. ถูกก่อตั้งในปี 2522 เป็นค่ายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีขนาด 2.3 ตารางกิโลเมตร และมีผู้อพยพเขมรมาอยู่ 16,000 คน ผู้ดูแลคือ สำนักงานผู้ดูแลผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ และกระทรวงมหาดไทย(ทหารไม่เกี่ยว) ผู้ลี้ภัยเขมรเหล่านี้หนีเขมรแดงและนายฮุนเซ็น มาภายหลังผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้ได้ย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศในยุโรป และที่น่าแค้นก็คือ คนเหล่านี้เพิ่งเดินขบวนในต่างประเทศด่าประเทศไทย พวกนี้เรียกว่า อกตัญญู
จังหวัดสระแก้วและปราจีนบุรี เป็นที่ราบระหว่างเทือกเขาพนมดงรักกับเทือกเขาบรรทัด ดังนั้นหากเกิดสงครามกับญวนหรือเขมร ช่องนี้จะถูกใช้เป็นช่องเดินทัพ ดังนั้นเพื่อป้องกันกรุงเทพฯ ทหารจึงจัดตั้งกองพลที่ 2 ไว้ที่จังหวัดปราจีนบุรี และศูนย์การทหารม้าและกรมทหารม้าที่ 4 ไว้ที่สระบุรีตรงพระพุทธฉาย

ทางการทหารทราบดีว่า ที่ราบช่องเขาช่วงหลักที่ 47-50 ดังกล่าวนี้ มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มาก จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาไว้ และเขมรทราบดีเช่นกัน จึงพยายามที่จะมายึดเอาเป็นของตน
กรณีหนองจาน เขมรใช้ระบบโล่ห์มนุษย์เข้ามารื้อถอนรั้วลวดหนาม ไทยอย่าหลงกลไปใช้กลยุทธ์ทางทหารเข้าเผชิญหน้าเป็นอันขาด เพราะมันจะกลายเป็นทหารไทยรังแกประชาชนมือเปล่า ต้องใช้ระบบม็อบชนม็อบ ราษฎรไทยเจ้าของเก่าต้องเอาสค.1 และ 2 ไปแสดงกรรมสิทธิ์ และกรมที่ดินก็ต้องรีบออกโฉนดโดยทันที
การแก้ไขปัญหาให้ใช้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองในพื้นที่คือ กำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต. อปพร. ไปเจรจาและหย่าศึก เพราะเจ้าหน้าที่เหล่านี้เขาอาจรู้จักกันและอาจพูดภาษาเขมรได้ กรณีเกิดความรุนแรง ก็เอาตำรวจไปจับกุมดำเนินคดี ซึ่งผมเคยทำแล้วกรณีชาวเขมรมาบุกป่า หรือมาใช้ที่ดินรอบ ๆ ฝายต้นน้ำ ที่กรมป่าไม้สร้างตามแนวชายแดน
หากสุดวิสัย ไหน ๆ เราก็ปล่อยปะละเลยให้เขมรมาอยู่อาศัยถึง 40 ปี เราก็เมตตาจ่ายค่าชดเชยให้เขาเสียแค่ 20-30 ครอบครัว พื้นที่ไม่เกิน 100 ไร่ คิดเสียว่าเป็นค่าชดเชย ค่าเสียโอกาสและค่าโง่ ผมยินดีสมทบ 100,000 บาทครับ เราอย่าขี้เหนียว อย่ากลัวเสียหน้า และศาลฯ หรือปปช. ก็อย่ามายุ่ง เพราะนี่เป็นการทำเพื่อบ้านเมืองโดยแท้ อเมริกาเขายังซื้อรัฐ Texas และ California จาก Mexico ซื้อ Alaska จากรัสเซียเลย ยังไงเรารีบเอาแผ่นดินไทยคืนมาก่อน และถ้าหากชาวเขมรหากจะเอาที่มาแลกกับเงิน ผมก็ยินดีจ่ายให้และจะมอบกลับให้กรมป่าไม้ไปปลูกสวนป่าทุกตารางนิ้ว”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “จิรายุ” อธิบายสาเหตุ ต่ออายุราชการผู้ว่าสระแก้ว 1 ปี แต่ไม่ต่อ “บิ๊กกุ้ง”
- “วันชนะ” ร่วมคณะ เสธ.ทหาร ตรวจชายแดนสระแก้ว ยัน พบเขมรสร้างบ้านล้ำจริง
- “กัน จอมพลัง” ตามหารถดูดส้วม 10 คัน พ่นหัวแรงๆ หลังเขมรโพสต์คลิปท้า
ติดตาม The Thaiger บน Google News: