มหาเถรสมาคม ปรับนโยบายครั้งใหญ่ ยกเลิกเทศน์วันสงกรานต์สมทบทุนช่วยผู้ป่วยเอดส์ วัดพระบาทน้ำพุ จ. ลพบุรี ชี้สาธารณสุขไทยก้าวหน้า ผู้ป่วยเข้าถึงยาฟรีแล้ว
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา สำนักข่าวมติชน รายงานว่า มหาเถรสมาคม (มส.) มีมติอย่างเป็นทางการให้ยกเลิกแนวปฏิบัติการจัดแสดงพระธรรมเทศนาเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์และโรคเรื้อนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายที่บังคับใช้มาอย่างยาวนา มีผลให้ยุติการส่งเงินสมทบทุนผ่านมูลนิธิธรรมรักษ์ วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และมูลนิธิสงเคราะห์คนเป็นโรคเรื้อนฯ
รศ.ชัชพล ไชยพร ผู้แถลงผลการประชุมมหาเถรสมาคม เผยว่า นโยบายดังกล่าวเริ่มต้นจากมติ มส. ที่ 424/2548 และ มติที่ 182/2549 ในขณะนั้นโรคเอดส์และโรคเรื้อนถือเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ มหาเถรสมาคมจึงได้กำหนดให้วัดต่าง ๆ ทั่วประเทศจัดเทศน์มหาชาติในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นประจำทุกปี เพื่อรวบรวมปัจจัยส่งมอบให้กับ 2 มูลนิธิหลักที่ดูแลผู้ป่วยโดยตรงและได้ดำเนินการผ่านบัญชีกองทุนเฉพาะกิจมาอย่างต่อเนื่อง
เหตุผลสำคัญที่นำมาสู่การยกเลิกมติในครั้งนี้ คือความสำเร็จและความก้าวหน้าของระบบการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย ปัจจุบันผู้ติดเชื้อ HIV สามารถเข้าถึงยาต้านไวรัสได้ฟรี ผ่านสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหากรับยาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสถิติผู้ติดเชื้อโรคเรื้อนลดลงจนอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้
นอกจากนี้มีหน่วยงานภาครัฐและองค์กรด้านมนุษยธรรมอื่น ๆ เข้ามาให้ความช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ป่วยอย่างทั่วถึงและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวมหาเถรสมาคมจึงเห็นควรให้ปรับปรุงแนวทางการสงเคราะห์ผู้ป่วยให้สอดคล้องกับยุคสมัยปัจจุบัน
มติใหม่ของมหาเถรสมาคมได้กำหนดแนวทางการดำเนินการไว้อย่างชัดเจน ดังนี้
1. ยกเลิกมติที่ 424/2548 และ มติที่ 182/2549 รวมทั้งปิดบัญชีธนาคารภายใต้ชื่อ ‘กองทุนสงเคราะห์คนเป็นโรคเรื้อนและโรคเอดส์’ จากนั้นมอบปัจจัยที่เหลือให้บรรลุวัตถุประสงค์ โดยแบ่งจากมูลนิธิละครึ่งหนึ่งของเงินที่เหลือในบัญชีปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม หากเกิดข้อขัดข้องในการมอบปัจจัยที่เหลือให้มูลนิธิสงเคราะห์คนเป็นโรคเรื้อน ในสังฆราชูปถัมภ์ และมูลนิธิธรรมรักษ์ วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ให้แก้ไขโดยการมอบให้สภากาชาดไทยแทน
2. มหาเถรสมาคมมีนโยบายเรื่องสาธารณสงเคราะห์สำหรับสถานการณ์โรคร้ายแรง รวมทั้งโรคระบาดต่าง ๆ ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะเป็นผู้ตรวจสอบความจำเป็นและร่วมมือกับหน่วยงานราชการหรือองค์กรด้านมนุษยธรรมเพื่อดำเนินการให้เหมาะสมกับสถานการณ์และยุคสมัยในปัจจุบัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บิ๊กเต่า พบพิรุธเส้นทางการเงิน “วัดพระบาทน้ำพุ” ลุยสอบย้อนหลัง 20 ปี
- หมอบี ยัน เก็บเงินสดสร้างบ้านเอง ตั้งแต่ปี 64 บริสุทธิ์ใจไม่ได้ใช้เงินวัดพระบาทน้ำพุ
- ขุดเบื้องลึกวัดพระบาทน้ำพุ อดีตพยาบาลอ้าง ถูกขู่ฆ่าหลังแจกยาต้าน ชี้คนไข้สุขภาพดีอาจทำเงินบริจาคลด
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
