ข่าว

ย้อนตำนาน “หมอบี” ปราบผีญี่ปุ่น รวมเคสหลอน ‘เด็กชายตากบ’ กับ ‘ปีศาจผู้ว่าจ้าง’

ฟังตำนาน หมอบี ปราบผีที่ญี่ปุ่น จากเคส “เด็กชายตากบ” ควักลูกตาตัวเองใส่ตู้ปลา สู่เรื่องหักมุมที่คนจ้างปราบผีคือ “ปีศาจ”

ท่ามกลางกระแสข่าวร้อนแรงเกี่ยวกับ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ และปมใช้เงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุมาสร้างบ้านหรูของตัวเองมุลค่ากว่า 40-50 ล้านบาท ทำให้เรื่องราวในอดีตของเขาถูกนำกลับมาพูดถึงอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องเล่าเขย่าขวัญที่เคยสร้างชื่อให้กับเขาในฐานะผู้ปราบผี ซึ่งหนึ่งในเคสที่โด่งดังและน่าสะพรึงกลัวที่สุดคือ ตำนานปราบผีที่ญี่ปุ่น 2 เรื่อง คือเด็กชายตากบ และ ปีศาจผู้พิทักษ์แดนซามูไร

1. เด็กชายตากบ กับสายตาสุดสยองที่จ้องมองยามค่ำคืน

เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยหมอบีเองในรายการวิทยุ EFM อังคารคลุมโปง เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “เด็กชายตากบ”

ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ญี่ปุ่น ผู้คนอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี มีครอบครัวหนึ่งจากต่างจังหวัดมาเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่นี่ พร้อมกับลูกชายของพวกเขา โดยปกติแล้ว ลูกชายคนนี้จะกลับมาเยี่ยมญาติในช่วงฤดูร้อนเป็นประจำทุกปี

หมอบี อังคารคลุมโปง เด็กชายตากบ 2563
ภาพจาก : EFM อังคารคลุมโปง

แต่ในปีสุดท้ายที่เขากลับมา ทุกอย่างไม่เป็นปกติ เด็กชายมาถึงบ้านแล้ว ไม่ยอมพูดคุยกับใครเลย นั่งเหม่อลอย นิ่งเงียบอยู่คนเดียว หันหน้าตรงไปข้างหน้า พ่อแม่เริ่มกังวล จึงปรึกษาคุณตา คุณตาจึงชวนเด็กชายไปตกปลาในวันรุ่งขึ้น

ในตอนแรก เด็กชายไม่ตอบสนองต่อคำชวน เช้าวันรุ่งขึ้น เขาก็ตื่นมานั่งนิ่งอยู่หน้าตู้ปลา และเมื่อถูกถามซ้ำๆ หลายครั้งว่า “จะไปตกปลาไหม” สุดท้ายเขาก็พูดว่า “ไปครับ” ซึ่งทำให้พ่อแม่รู้สึกดีใจและโล่งใจ

คืนที่สองที่เด็กชายนอนในบ้าน เขานอนไม่หลับเลย เพราะรู้สึกเหมือนมีใครบางคนจ้องมองเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะลุกไปห้องไหน เขาก็ยังรู้สึกว่าถูกมองอยู่ ทำให้เขารู้สึกเครียดอย่างมาก เช้าวันต่อมา อารมณ์ของเด็กชายก็ยังคงเดิม คือนั่งนิ่งอยู่หน้าตู้ปลา

เด็กชายตากบ ผีญี่ปุ่น หมอบี
ภาพประกอบบทความ

ความผิดปกติทวีความรุนแรงขึ้นจนถึงขีดสุด เมื่อพ่อแม่ได้พบกับภาพที่น่าสะพรึงกลัว ในตู้ปลาที่เคยว่างเปล่านั้นกลับเต็มไปด้วยไข่กบ และที่น่าสยดสยองที่สุดคือ หนึ่งในไข่กบเหล่านั้นคือลูกตาของลูกชายพวกเขาเอง โดยเด็กชายได้บอกกับพ่อแม่ว่า ตอนนี้เขาสบายใจแล้ว เพราะจะไม่มีปัญหากับการถูกจ้องมองอีกต่อไป

ปรากฏว่าเหตุการณ์ประหลาดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเด็กชายเพียงคนเดียว แต่เกิดขึ้นกับเด็กอีกหลายคนในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งต่างก็รู้สึกว่าถูกจ้องมองและบางรายถึงขั้นพยายามทำร้ายตนเอง

หลังจากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง ได้มีนักบวชผู้เชี่ยวชาญด้านการปราบปีศาจเข้ามาทำพิธีในหมู่บ้าน โดยนักบวชท่านนั้นกล่าวว่ามีปีศาจร้ายที่ต้องการจะหลอกล่อและเอาดวงวิญญาณของเด็ก ๆ ไป ท่านจึงได้ทำพิธีสะกดวิญญาณของปีศาจตนนั้นเข้าไปไว้ในโคมไฟ และนำโคมไฟไปแขวนไว้ตามบ้านทุกหลังในหมู่บ้าน ก่อนจะทำพิธีเผาเพื่อทำลายปีศาจ

หมอบี อ้างว่า เขาได้เก็บโคมไฟอันหนึ่งที่ยังไม่ถูกเผาไหม้กลับมาด้วย ซึ่งบนโคมไฟอันนั้นได้ปรากฏรอยนิ้วมือสีดำติดอยู่ และเชื่อกันว่าเป็นรอยนิ้วมือของปีศาจที่เคยมาสิงสู่ในร่างมนุษย์ หลังจากนั้นเป็นต้นมา หมู่บ้านดังกล่าวก็กลับสู่ความสงบสุขและไม่มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นอีกเลย

2. ปีศาจผู้พิทักษ์แดนซามูไร เรื่องเล่าปราบผีญี่ปุ่น

สำหรับเรื่องราวนี้ หมอบี ได้มาเล่าไว้ในรายการ EFM อังคารคลุมโปง เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ หมอบี ได้รับการติดต่อจากเอเจนต์รายหนึ่งให้ไปช่วยเหลือเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งความแปลกของเคสนี้คือ เด็กสาวผู้ว่าจ้างไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าเดินทาง แต่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้เขาไปช่วยเหลือเพื่อนของเธอ ด้วยความรู้สึกถึงแรงจูงใจบางอย่าง หมอบีจึงตัดสินใจเดินทางไปญี่ปุ่นด้วยค่าใช้จ่ายของตนเองทั้งหมด

เมื่อไปถึง เขาได้พบกับเด็กสาววัยรุ่นผู้ว่าจ้างซึ่งมี ญาณวิเศษ เธอบอกว่าเพื่อนสนิทของเธอกำลังตกอยู่ในอันตรายจาก ปีศาจดีม่อน ที่จะเข้าสิงผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอ โดยเฉพาะเพื่อนชายและเพื่อนหญิงอีกสองคนของเธอที่กำลังจมอยู่ในวังวนของ “รักสามเส้า” จนสภาพจิตใจย่ำแย่และเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน

หมอบี อังคารคลุมโปง ปิศาจหลอนแดนซามูไร
ภาพจาก : EFM อังคารคลุมโปง

ในระหว่างที่หมอบีพยายามเข้าช่วยเหลือ เขาได้พบกับเหตุการณ์ประหลาด คือการปรากฏตัวของแมวสองตัวที่แตกต่างกัน (ตาบอดหนึ่งข้างเหมือนกัน แต่คนละข้าง) ซึ่งจะออกมาขัดขวางและแสดงท่าทีดุร้ายทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้เด็กทั้งสองคน

สถานการณ์บานปลายถึงขีดสุด เมื่อหมอบีพยายามให้เด็กทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจกัน แต่ในจังหวะที่ความจริงเกี่ยวกับรักสามเส้าถูกเปิดเผย เด็กทั้งสองกลับมีอาการคล้าย “ผีเข้าสิง” อย่างรุนแรง ทั้งอาเจียน น้ำลายไหล ตาแดงก่ำ และอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง ทำให้หมอบีต้องรับมือกับสถานการณ์ที่วุ่นวายอย่างหนัก

หลังจากสืบหาข้อมูลจากคนในพื้นที่ หมอบีได้พบความจริงอันน่าตกใจว่า แมวทั้งสองตัวนั้นคือ แมวองครักษ์ประจำศาลเจ้า ที่ปกติจะไม่เคยออกมาเพ่นพ่านนอกอาณาเขตเลย

แมวพิทักษ์ศาลเจ้าญี่ปุ่น
ภาพประกอบบทความ

บทสรุปที่พลิกผันที่สุดของเรื่องนี้ก็คือ ตัวตนที่แท้จริงของเด็กสาวผู้ว่าจ้าง หมอบีได้ค้นพบว่าเธอไม่ใช่คนแต่เป็นสิ่งที่ไม่ใช่มีชีวิต ซึ่งเป็นเพื่อนกับเด็กกลุ่มนั้น และแม้เธอจะมีความหวังดีอยากช่วยเหลือเพื่อนอย่างสุดหัวใจ แต่เธอกลับไม่รู้ตัวเลยว่า การกระทำของเธอเองคือต้นเหตุที่ดึงดูดพลังงานไม่ดีและทำให้เพื่อนถูกสิง พูดง่าย ๆ ก็คือ เธอเองนั่นแหละคือ ปีศาจดีม่อน ที่เข้าสิงเพื่อนโดยไม่เจตนา และแมวองครักษ์ทั้งสองตัวนั้นกำลังพยายามขัดขวางเธอ ไม่ให้ทำร้ายเพื่อน ๆ ของเธอนั่นเอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx