ข่าว

อ.ตฤณห์ ซัด คนอ้างมีญาณ มีแค่คนไข้-มิจฉาชีพ ลั่น จะตามเก็บให้หมด

ดร.ตฤณห์ ซัดเดือดกลางรายการโหนกระแส ชี้ คนมีญาณมีแค่คนไข้กับมิจฉาชีพ พร้อมยืนยันว่ามีผู้เสียหายจากกลุ่มคนที่ถูกกล่าวหาจริง

5 สิงหาคม 2568 – ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงพฤติกรรม และผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ คณะสังคมศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มาออกในรายการ โหนกระแส ตอบทุกคำถามว่าโพสต์ซัดใคร พร้อมเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่การแสดงความคิดเห็น แต่มีผู้เสียหายจริงและกำลังมีการดำเนินการทางกฎหมายอยู่เบื้องหลัง ลังจากที่โพสต์ข้อความรัว ๆ จนสะเทือนวงการสิ่งลี้ลับในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

ดร.ตฤณห์ ได้เริ่มต้นตอบคำถามที่หลายคนสงสัยที่สุด ว่าโพสต์ต่าง ๆ ที่ผ่านมานั้นหมายถึงใครกันแน่ โดยยืนยันว่าไม่ได้หมายถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ “หลายคนครับ กระทบกระเทือนหลายคน” ดร.ตฤณห์กล่าว พร้อมชี้ไปที่พฤติกรรมการสร้างเรื่องราวที่ไม่เป็นความจริง ผมเขินนะ ไปพูดสิ่งที่ตัวเองไม่จริง บอกไปทำตรงโน้นอยู่ตรงนี้มา ได้มีโอกาสไปทำอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วไม่ได้ทำ หลักฐานมันมีการเช็กทำได้หมดเลย”

ดร.ตฤณห์ ย้ำว่า “ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ เป็นหมอ ผู้เชี่ยวชาญใดๆ ก็แล้วแต่ ออกมาพูดเรื่องอะไรอย่าเชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ คุณต้องฟังแล้วไปหาข้อมูลเพิ่มเติม จากแหล่งอื่นแล้วมาพิจารณา แล้วตัดสินใจเองว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ทุกเรื่องเลย”

ภาพจาก: YT/ โหนกระแส [Hone-Krasae] official

คนมีญาณมีแค่ คนไข้ กับ มิจฉาชีพ

เมื่อพิธีกรถามย้ำว่ากลุ่มเป้าหมายคือนอกเหนือจากคนที่อ้างว่าสื่อวิญญาณได้ใช่หรือไม่ ดร.ตฤณห์ ได้ให้ทรรศนะว่า “เอาจริง ๆ แล้วอาชีพแบบนี้สำหรับผมมี 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเราเรียก คนไข้ กลุ่มที่สองเราเรียก มิจฉาชีพ เพราะมันไม่มีผู้วิเศษ”

ดร.ตฤณห์ ได้ท้าทายแนวคิดเรื่องการสื่อสารกับวิญญาณอย่างตรงไปตรงมาว่า “มีเหรอ แล้วเขารู้ไหมว่าตัวเองจะโดนคดี เขาต้องรู้เรื่องตัวเอง ถ้าเขาสื่อวิญญาณได้จริงมั้ย” พร้อมให้ข้อมูลที่น่าตกใจว่า “การหยั่งรู้ เป็นเกณฑ์บอกโรคทางจิต ถ้าไปทำแบบนี้ต่อหน้าจิตแพทย์อาจจะโดนจับแอดมิต”

เบื้องหลังที่ไม่ใช่แค่การโพสต์ แต่มีผู้เสียหายจริง

ประเด็นที่สำคัญคือการเปิดเผยว่า เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การวิจารณ์ลอย ๆ แต่มีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนจริง เมื่อถูกถามถึงกรณีที่ หมอปลาย พรายกระซิบ ออกมาทำนายสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ดร.ตฤณห์ ได้ตั้งคำถามถึงแรงจูงใจว่า “ส่วนใหญ่เขาพูดแล้วเขาได้อะไร เขาได้ความสนใจ ได้เงินด้วยมั้ย”

ก่อนจะเปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า “จริง ๆ มีผู้เสียหายหลายคน ร้องเรียนเข้ามา แต่ผมเป็นอาจารย์ ผมไม่ใช่ทนาย ผมทำได้แค่วิเคราะห์ด้านพฤติกรรมและประสานงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี ดำเนินงานหลังบ้านแบบเงียบ ๆ”

ลั่นจะตามเก็บให้หมด พวกหากินกับความเชื่อ

ดร.ตฤณห์ ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่าจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ “มันมีหลายคนเข้าข่าย ก็จะตามเก็บให้หมดเลย เพราะอยู่สบายมาหลายปีแล้ว เอฟซีเยอะ เชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตา เชื่อแบบไม่หาเหตุผลเบื้องหลัง”

ดร.ตฤณห์ ยังได้วิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของกลุ่มผู้ศรัทธาว่า “คนเชื่อน่ากลัวมาก พอเขาเชื่อเรื่องอะไร พอได้ยินสิ่งที่ไปในแนวทางที่เขาเชื่อ ก็ยิ่งเสริมความเชื่อเขาให้แข็งแรง” และได้อธิบายถึงความแตกต่างระหว่าง ศรัทธา ความเชื่อ และความงมงาย โดยชี้ว่าการโจมตีคนที่ไม่เชื่อเหมือนตัวเองนั้นเข้าข่าย “งมงาย” พร้อมระบุว่าการกระทำของกลุ่มคนเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของอาชญากรรม ในการหลอกลวงผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์

ในช่วงท้าย ดร.ตฤณห์ ได้ทิ้งวาทะอย่างคมคายว่า “ลูกศิษย์ยิ่งเขลา อาจารย์ยิ่งขลัง” เพื่ออธิบายถึงภาวะที่ผู้ติดตามมีโลกทัศน์แคบ รับข้อมูลเพียงด้านเดียวที่ถูกป้อนให้ และยังชี้ว่าการอ้างเรื่องราวในอดีตชาติว่าเป็นอะไรกันมานั้น เป็นเพียงกลอุบายที่ผู้วิเศษเหล่านี้มักใช้เพื่อสร้างข้อผูกพันกับเหยื่อในชาติปัจจุบัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx