หลานสาวทักษิณ “แซนด์ ชยิกา” แจ้งความดำเนินคดี หลังถูกเกรียนคีย์บอร์ดปล่อยข่าวปลอมป้ายสีว่าเป็น “ไส้ศึกเขมร” ขอความเป็นธรรมจากสังคม
จากประเด็นความขัดแย้งชายแดน ไทย-กัมพูชา ที่ร้อนระอุ ได้ลุกลามสู่การโจมตีทางการเมืองด้วยข่าวปลอมในโลกโซเชียล ล่าสุด น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลานสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีด้วยตนเอง หลังถูกป้ายสีอย่างรุนแรงว่าเป็น “ไส้ศึกให้เขมร”
“วันนี้เดินทางมาแจ้งความ ที่ สน. คลองตัน ในกรณีที่มีบุคคลนำภาพดิฉันไปโพสต์และพิมพ์ข้อความประกอบภาพที่เป็นการใส่ร้ายดิฉัน ด้วยข้อความที่เป็นเท็จ กล่าวหาว่าดิฉันเป็นไส้ศึกเขมร โดยมีการโพสต์ ในเฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ พร้อมแชร์และส่งต่อกันในโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลายต่อสาธารณะ…”
ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ (4 ส.ค. 68) น.ส.ชยิกา ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้โพสต์ข้อความและภาพผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @sandychayika เปิดเผยว่าเธอได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่นำภาพของเธอไปโพสต์พร้อมข้อความอันเป็นเท็จ กล่าวหาว่าเธอเป็นไส้ศึกให้แก่กัมพูชา ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่และส่งต่ออย่างกว้างขวางทั้งในเฟซบุ๊กและเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์)
“…ทั้งที่ความจริง ดิฉันไม่เคยมีความเกี่ยวข้อง หรือเกี่ยวดองใดๆ กับชาวเขมรค่ะ ดิฉันมีสถานะโสด เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมา 5 ปี ไม่เคยมีสามีเป็นชาวเขมร และเมื่อก่อนเคยมีลูกพี่ลูกน้องแต่งงานกับคนกัมพูชา แต่หย่าขาดมาแล้วกว่า 5 ปี วันนี้จึงขอยืนยันเพิ่มเติมแทนทุกคนในครอบครัวว่า ไม่มีใครในครอบครัวเกี่ยวดองกับชาวเขมรอย่างที่พยายามเชื่อมโยงกล่าวหาเช่นกันค่ะ…”
น.ส.ชยิกา ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างละเอียดเพื่อยุติข่าวลือดังกล่าว โดยยืนยันว่าเธอไม่เคยมีความเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวดองใดๆ กับชาวกัมพูชา ปัจจุบันมีสถานะโสดและเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว ไม่เคยมีสามีเป็นชาวกัมพูชาตามที่ถูกกล่าวหา และแม้ในอดีตจะเคยมีลูกพี่ลูกน้องแต่งงานกับชาวกัมพูชา แต่ก็ได้หย่าร้างกันไปนานกว่า 5 ปีแล้ว พร้อมทั้งยืนยันแทนครอบครัวชินวัตรและวงศ์นภาจันทร์ว่า ไม่มีสมาชิกในครอบครัวคนใดที่เกี่ยวดองกับชาวกัมพูชาตามที่โซเชียลมีเดียพยายามเชื่อมโยง
“…จึงขอใช้สิทธิตามกฎหมายในฐานะประชาชนคนหนึ่ง แจ้งความร้องทุกข์ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีในความผิดที่เกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวกับบุคคลที่โพสต์ภาพและข้อความใส่ร้ายดิฉันและเครือญาติ อันทำให้ดิฉันและครอบครัวได้รับความเสียหายจนถึงที่สุดรวมถึงผู้ที่แชร์หรือส่งต่อโพสต์และข้อความหรือร่วมแสดงความเห็นในโพสต์ดังกล่าวด้วย…”
ชยิกา กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับเธอและครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง จึงขอใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนคนหนึ่งตามกฎหมาย ดำเนินคดีกับผู้ที่สร้างเรื่องใส่ร้ายจนถึงที่สุด รวมถึงผู้ที่แชร์, ส่งต่อ หรือร่วมแสดงความคิดเห็นในทางเสียหายด้วย
ในช่วงท้าย น.ส.ชยิกา ได้ย้ำถึงจุดยืนว่าเธอและเครือญาติเป็นคนไทยที่มีความรักในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งระบุว่าความรักชาติไม่ควรถูกผูกขาดโดยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และขอความเป็นธรรมจากสังคมต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“…สุดท้ายนี้ ขอย้ำว่าดิฉันและเครือญาติ เป็นคนไทยที่มีความรักในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะความรักชาติไม่ควรถูกกีดกันเป็นของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้นดิฉันก็อยากจะขอความเป็นธรรมจากสังคมด้วยค่ะ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นิด้าโพล ชี้ชัดกว่า 43% “อุ๊งอิ๊ง“ ควรลาออก ช็อกเสนอลุงตู่คัมแบ็ก !
- สุขสันต์วันเกิด “ฮุน เซน” 5 ส.ค. ครบรอบ 73 ปี จากเด็กวัด สู่จอมพลกองทัพเขมร
- ย้อนประวัติ “ลิซ่า จิราร์ด” สาวฝรั่งเศสโบกรถ ก่อนถูกพบ เสียชีวิตปริศนาใน กัมพูชา
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
