ข่าวการเมือง

รมช.กลาโหมไทย ขอกัมพูชา “กลับมาเก็บศพทหาร” หวั่นเกิดโรคระบาด

ทำไมเขมรไม่กลับมาเก็บศพทหารของตัวเอง เช้าที่ผ่านมารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำก่อนเดินทางคุยชายแดน GBC วันที่ 7 ส.ค.นี้ ขอกัมพูชาเร่งมาเก็บร่างทหารกลับมาตุภูมิ เหตุฝั่งไทยกังวลเรื่องสุขอนามัย ปล่อนละเลยนานอาจเกิดโรคระบาด

หลังจากวานนี้ (3 ส.ค.) เฟซบุ๊กของวาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวซึ่งเกาะติดเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพุชา เผยถึง “กลิ่นศพทหารเขมร” บนภูมะเขือคละคลุ้งมาจากด้านล่างซึ่งทหารฝั่งไทยต้องทนดมกลิ่นไม่พึงประสงค์มาหลายวันแล้ว แถมใส่แมสก์เอาไม่อยู่และยิ่งนานยิ่งเหม็น

ถามหา “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต-เตียเซรย ฮา -เมาโซะพัน -สรัยดึ้ก(ที่ยังไม่ตาย แต่หลบอยู่) ผู้นำ ผู้คับบัญชา ทิ้งศพ ลูกน้อง ไม่สั่งให้เก็บศพเลย ผิดหลักการคอมแมนเดอร์ หรือจะใช้ศพเป็นเสมือน “อาวุธชีวภาพ” ท้้งกลิ่นและเชื้อโรคและความหลอน

“ข่าวว่าบิ๊กเขมร” เปรยว่าไว้จะมาเก็บกระดูก ทีเดียวเลย!!

“นัยะ“ คือ ประมาณว่าจะมาโจมตียึดพื้นที่คืน แล้ว เก็บกระดูก ลูกน้อง ตอนนั้นเลย ทหารรบพิเศษ กองพันจู่โจม รออยู่ ถ้ากล้าแลก ก็ขึ้นมา !!

กลิ่นศพทหารเขมร วาสนานาน่วมรายงาน 3 ส.ค.68
แฟ้มภาพ

ล่าสุด พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อเป็นประธานและได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยระบุ มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตในพื้นที่กัมพูชาบริเวณหน้าแนวเราเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่เรา เราได้ส่งกลับอย่างสมเกียรติ แต่ก็เสียใจแทนทหารกัมพูชาที่เสียชีวิต เพราะรัฐบาลเขาปฏิเสธว่าไม่ใช่ ถ้าวิญญาณทหารเขารับรู้ได้คงจะเสียใจ

พล.อ.ณัฐพล หรือ “บิ๊กเล็ก” ยังกล่าวต่อถึงประเด็นที่กองทัพห่วงใยและได้พูดกับกลาโหมของกัมพูชา คือ ทหารที่เสียชีวิตจำนวนมาก ยังไม่ได้เก็บร่างกลับไป อยากให้มาเก็บศพอย่างถูกต้องและสมเกียรติของศักดิ์ศรีการเป็นทหาร ตนเป็นทหาร ถึงแม้จะเป็นคู่กรณีกันก็ตาม แต่มองว่าเมื่อเสียชีวิตแล้วก็ควรให้เกียรติ เลยย้ำอีกครั้งว่าอยากให้เร่งมาเก็บ เพราะก็กังวลในเรื่องของสุขอนามัยหากนานไปอาจจะเกิดโรคระบาดได้

อีกเรื่องคือศักดิ์ศรีทหาร “เราเป็นทหารเหมือนกันยามเสียชีวิตเราจะไม่หมิ่นศักดิ์ศรีกัน สนับสนุนให้ดูแลอย่างสมเกียรติ”

ไทยขอกัมพูชากลับมาเก็บศพทหารตัวเอง
แฟ้มภาพ Facebook @WassanaJournalist

ทั้งนี้ “บิ๊กเล็ก” ในฐานะรมช.กลาโหม กล่าวถึงกรอบและการกำหนดเป้าหมายในการประชุม GBC ซึ่งเริ่มตั้งแต่เย็นวันที่ 3 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา ที่มาเลเซีย โดยผู้เข้าร่วมประชุมเตรียมการสองฝ่ายประกอบด้วยผู้แทนจากไทยและผู้แทนจากกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมประชุมฝ่ายเลขาฯ วันที่ 4-6 ส.ค.นี้

ในส่วนของรัฐบาล โดยคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีฝ่ายทหาร ระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเข้าร่วมการประชุมในวัน 7 ส.ค. 68 นำคณะโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนฝ่ายกัมพูชา นำโดย พลเอก เตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา

ภาพจาก: FB/ ศูนย์เฉพาะกิจฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา – Team Thailand

“บิ๊กเล็ก” ย้ำว่าการคุยครั้งนี้ตั้งเป้าว่าทิศทางต้องดีขึ้น ไทยไม่เสียประโยชน์ ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่าเราจะทำเต็มขีดความสามารถ คณะที่ไปประกอบด้วย กระทรวงต่างประเทศ, มหาดไทย และเหล่าทัพทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการสูงสุด และผู้แทนผบ.ทบ., ผบ.ทร., ผบ.ทอ. ไปร่วมประชุมด้วย

“เรียกว่าจะผ่านการพิจารณาอย่างรอบด้านจากทุกฝ่าย ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล ขอให้เชื่อมั่นในคณะของตน ทุกคนมีความรู้ความสามารถและสำคัญเลยคือรักชาติ คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ”

สำหรับสถานการณ์ชายแดนนั้น บิ๊กลายพรางไทยระบุชัดว่า “ยังเปราะบางอยู่” แต่จากข่าวปลอม อย่างเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ก็มีข่าวว่าที่ศรีสะเกษทหารไทยจะปฏิบัติการ ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนตรวจสอบกับกองทัพแล้ว เขาบอกยังไม่ได้ทำอะไร ตนก็เคารพการเจรจาหยุดยิงมาตลอด เข้าใจว่าฝ่ายกัมพูชาก็ได้ข่าวปลอมนี้เหมือนกัน วันที่ 3 ส.ค. เขาเลยเอาข่าวปลอมนี้มาตั้งเป็นเรื่องว่า ฝ่ายไทยมีการเตรียมการ แบบนี้สักวันหนึ่งมันอาจจะเกิดกระทบกระทั่งกัน ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องไม่น่าจะเกิดขึ้น

ดังนั้นในยามนี้ต้องรวมใจเป็นหนึ่ง แค่ข่าวปลอมของกัมพูชาเราต้องแก้ปัญหากันรายวันแล้ว แล้วยังมาเจอข่าวปลอมของเราเองอีก มันทำให้ฝ่ายความมั่นคงหนักใจมาก เข้าใจว่าทุกคนห่วงอยากจะช่วย แต่อยากให้ฟัง ศบ.ทก. เป็นหลัก อาจจะช้าแต่ก็เพราะอยากตรวจสอบให้ถูกต้อง

ช่วงท้ายฝั่งบิ๊กทหารของบ้านเรายืนกราน ถ้าเขา (กัมพูชา) เคารพผล GBC ก็ไม่น่าเป็นกังวล แต่ส่วนตัวบิ๊กเล็กก็ยอมรับตามตรงว่าจากประสบการณ์การรับราชการมาตลอดชีวิตก็เพิ่งเจอคู่กรณีที่รับมือยากมาก เพื่อนบ้านของเราพูดอย่าง ทำอย่าง มันไม่ใช่วิสัยตน

ตนยอมรับคำตำหนิ ตนคิดไม่ทันเขาจริงๆ เขาพูดแบบนี้ เขาจะทำอะไร ตนไม่ค่อยถนัดขอความเห็นใจ ประเด็นที่เราคุยกันไว้ถ้าตกลงแล้วก็น่าจะดีขึ้น ซึ่งมันจะไม่ได้จบทุกเรื่องทันที มันไปทีละขั้น ค่อยๆเป็นค่อยๆไป และประเมินความจริงใจของเขาว่าอยากกลับไปสู่สันติหรือไม่ ถ้าตรงนี้ตอบรับแล้วจะไปสู่ RBC ต่อไป ฝ่ายความมั่นคงจะได้สบายใจ ตนไม่ได้โยนภาระให้ทหาร แต่กองทัพรู้ดีที่สุด.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx