การเงินเศรษฐกิจ

พิชัย เผยรายการสินค้า เกษตร-พลังงาน แลกดีลภาษีสหรัฐฯ มีผล 7 ส.ค.นี้

พิชัย ชุณหวชิร เผยดีลภาษีสหรัฐฯ ลดเหลือ 19% มีผล 7 ส.ค. 68 แลกนำเข้า เชอร์รี ข้าวโพด เนื้อหมู รวมถึงสัญญาซื้อก๊าซธรรมชาติ และซื้อเครื่องบินจากสหรัฐฯ

1 สิงหาคม 2568 – นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับข้อเสนอที่ ทีมไทยแลนด์ ใช้ในการเจรจาจนทำให้สหรัฐอเมริกาประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าไทยในอัตรา 19% ซึ่งเป็นอัตราที่สามารถแข่งขันได้ โดยเบื้องหลังความสำเร็จคือการที่ไทยได้เสนอเงื่อนไขแลกเปลี่ยนที่สำคัญหลายประการ ทั้งการเปิดเสรีสินค้าเกษตรบางรายการ แผนการจัดซื้อพลังงานและเครื่องบินล็อตใหญ่จากสหรัฐฯ

นายพิชัย ยืนยันว่า อัตราภาษีใหม่ที่ 19% จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ส่วนสินค้าที่เข้าข่ายการสวมสิทธิ์เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนั้น จะถูกเรียกเก็บในอัตราที่สูงถึง 40% ซึ่งรัฐบาลได้สั่งการให้กรมศุลกากรทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อตรวจสอบและคุมเข้มเรื่องแหล่งกำเนิดสินค้าอย่างจริงจังแล้ว “ภาษีสหรัฐฯ 19% ที่เราได้มาสามารถแข่งขันได้ ต้องมาแข่งขันกันตามเนื้อผ้า”

สำหรับข้อเสนอสำคัญที่ไทยยื่นให้สหรัฐฯ คือการลดภาษีสินค้านำเข้าเป็น 0% ในหลายหมื่นรายการ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่มีความอ่อนไหว ดังนี้

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ภาพจาก: FB/ พิชัย ชุณหวชิร – Pichai Chunhavajira
  • เชอร์รี ลำไย และปลานิล เปิดให้นำเข้าได้ โดยประเมินแล้วว่าสินค้าแปรรูปจากสหรัฐฯ มีราคาสูงกว่าของไทย 10-20 เท่า จึงไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศ
  • ข้าวโพด เปิดให้นำเข้าเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนในประเทศ โดยมีระบบโควตาและเงื่อนไขให้ต้องซื้อผลผลิตในประเทศก่อน
  • เนื้อหมู เปิดให้นำเข้าใน สัดส่วนที่น้อยมาก ไม่ถึง 1% ของการบริโภคในประเทศ และจะมีมาตรการตรวจสอบที่ต้นทางอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันผลกระทบต่อเกษตรกร

นอกเหนือจากสินค้าเกษตร ประเทศไทยยังได้เสนอเงื่อนไขการจัดซื้อครั้งใหญ่เพื่อสร้างสมดุลทางการค้า

  • ก๊าซธรรมชาติ ได้มีการลงนามในสัญญาเริ่มนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากสหรัฐฯ จำนวน 1 ล้านตัน ในปี 2569 ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ค่าไฟฟ้าในไทยถูกลงได้
  • เครื่องบิน การบินไทยมีแผนจะจัดซื้อเครื่องบินเพิ่มอีกประมาณ 80-90 ลำ ภายใน 5-10 ปี ซึ่งจากนี้ไปจะเน้นการจัดซื้อจากสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก

นายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลได้เตรียมมาตรการดูแลผู้ประกอบการที่อาจได้รับผลกระทบไว้แล้ว ทั้งการเตรียม สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) และการอนุมัติวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท เข้ากองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อช่วยผู้ประกอบการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งเป้าหมายปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะยาว โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการลงทุนของประเทศให้ขึ้นไปอยู่ที่ 30-35% ของ GDP

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx