แฉเบื้องหลัง กัมพูชา หวังสร้างข่าวปลอมเผยแพร่ให้ ประเทศไทย ดูแย่ ! ในสายตาต่างชาติ ชาวเน็ตเลือดสยามไม่รอช้ากรีธาทัพจับโป๊ะอุตลุด
จากกรณีสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศบัลแกเรีย เขียนเนื้อหาผ่านเฟซบุ๊กวันนี้ (28 ก.ค.) โดยมีการกล่าวหาประเทศไทยว่า ได้ใช้อาวุธเคมีสังหารชาวกัมพูชาพร้อมลงภาพประกอบเป็นเครื่องบินกำลังบินทิ้งสารเคมีสีแดง ซึ่งข้อความที่กำลังเป็นประเด็นนั้นระบุว่า “ในการทำสงครามรุกรานกัมพูชาอย่างอื้อฉาวและทำลายล้าง ไทยได้ใช้อาวุธหนัก เครื่องบินรบ F-16 ปืนใหญ่ และระเบิดลูกปราย (cluster bombs) — แม้จะถูกห้ามอย่างเคร่งครัดภายใต้อนุสัญญาออสโล เป้าหมายรวมถึงปราสาทพระวิหารซึ่งเป็นมรดกโลกตลอดจนพื้นที่พลเรือน-โรงเรียน-ศูนย์สุขภาพและวัดพุทธ
เท่านั้นไม่พอที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้น ทูตประจำแดนโยเกิร์ตของเขอมรยังอ้างว่าตั้งแต่เช้าตรู่วันนี้ (28 ก.ค.) กองทัพของฝั่งไทยได้ใช้แก๊สพิษสังหารพลเรือนกัมพูชาอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางเพจกรรมกรข่าวของสรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่เมื่อตอนเช้าเช่นกันก็เพิ่งได้สัมภาษณ์โฆษกกองทัพไทยไปสด ๆ เพื่อถามถึงทิศทางของเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาซึ่งล่วงเข้าสู่วันที่ 5 ตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายเปิดฉากยิงใส่กันจนพลเรือนและทหารเสียชีวิตจำนวนมาก
ทั้งนี้แคปชั่นของเพจกรรมกรข่าว ถึงกับจั่วหัวออกตัวเลยว่า “ไปกันใหญ่ เขมรหวังเอาข่าวปลอมเผยแพร่ให้ไทยดูแย่ในสายตาต่างชาติ”
ขณะเดียวกันประเด็นของทูตเขมรในบัลแกเรีย เริ่มรุกรามโดยต่อมา แอคเคาต์บนเอ็กซ์ต่างพากันทวิตเรื่องนี้กันแพร่หลาย และมีจับโป๊ะซึ่งชาวเน็ตไทยแห่ไปจับผิดเนื่องจากภาพที่สถานทูตกัมพูชานำมาลงนั้น เป็นภาพของเครื่องบินกำลังทิ้งสารเคมีเพื่อชะลอไฟป่าที่สหรัฐอเมริกา
อัปเดตเพิ่มเติม บัญชีเอ็กซ์ @kafaak ระบุ “ท้ายสุดลบภาพทิ้ง แต่ไม่ลบโพสต์ แต่ประวัติการแก้ไขและภาพที่ชาวเน็ตแคปไว้ทัน มันจะติดอยู่บนอินเทอร์เน็ตไปตราบนานเท่านานครับ ผมนี่ถึงกับต้องไปดูใน About เลยว่าเป็นเพจสถานทูตจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย มันไม่มีอะไรยืนยันอะ Verified badge (ติ๊กฟ้า) ก็ไม่มี มีแค่อ้างอิงเว็บของ eVisa ของกัมพูชา และดูประวัติเพจแล้ว มันถูกสร้างมาเป็นเพจสถานทูตตั้งแต่ต้นเมื่อปี 2019”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เกินไปมาก เปิดคลิปต้นตอ IO เขมรตัดต่อภาพรับศพ แม่ทัพภาค 2
- เปิดมุมวิเคราะห์ สื่อนอกมองไทย-กัมพูชา คุยหยุดยิง เงื่อนไขสู่สันติภาพหรือทางตัน
- เศร้า กันจอมพลัง เผยเหตุใจสลาย บริจาค 1 ล้าน ช่วย 4 รปภ.ดับกลางอตก.
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
