จิรายุ วอนทุกฝ่าย ไม่เปิดโลเคชั่นศูนย์พักพิง ชี้กัมพูชาจ้องโจมตีพลเรือน

sukanlaya s.เผยแพร่: 27 ก.ค. 2568 11:14 น.| อัปเดต: 27 ก.ค. 2568 11:14 น.

สมช. วอนพรรคการเมือง-เอกชน ปิดเว็บไซต์-แอปฯ เปิดพิกัดศูนย์พักพิงชายแดน เพราะเป็นการชี้เป้าให้กัมพูชาโจมตีพลเรือน หลังพบยังเล็งเป้าหมายที่ไม่ใช่ทหาร

สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ขอความร่วมมือไปยังภาคเอกชน, กลุ่มอาสาสมัคร และพรรคการเมือง หยุดสร้างหรือเผยแพร่เว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ระบุพิกัด (Location) ของศูนย์พักพิง, โรงพยาบาล และแหล่งชุมชนของพลเรือนตามแนวชายแดน เนื่องจากสถานการณ์ล่าสุดพบว่ากองทัพกัมพูชายังคงมีพฤติกรรมก่ออาชญากรรมสงคราม ด้วยการเล็งเป้าหมายโจมตีพื้นที่พลเรือนอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ (27 กรกฎาคม 2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กังวลอย่างยิ่งกับกรณีที่มีหลายฝ่ายจัดทำแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น เว็บไซต์, แฟนเพจ Facebook หรือแอปพลิเคชันที่มีการปักหมุดแผนที่ Google Maps เพื่อชี้เป้าที่ตั้งของสถานที่หลบภัยและจุดล่อแหลมต่าง ๆ ของพลเรือน

แม้เข้าใจว่าเป็นไปด้วยเจตนาดีและห่วงใยประชาชน แต่การกระทำดังกล่าวถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะเท่ากับเป็นการเปิดเผยข้อมูลเป้าหมายให้กับฝ่ายตรงข้ามที่มีพฤติกรรมเล็งเป้าโจมตีพลเรือนอย่างต่อเนื่อง

นายจิรายุชี้แจงว่า ในทางปฏิบัติหน่วยงานราชการ เช่น กระทรวงมหาดไทย ได้มีการดำเนินการแจ้งข่าวสารและประสานงานเรื่องการอพยพกับประชาชนในพื้นที่อยู่แล้ว แต่จะทำในลักษณะ “ว.5” หรือความลับทางราชการ ผ่านช่องทางการสื่อสารโดยตรงจากจังหวัด, อำเภอ, ตำบล, ไปยังกำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลพิกัดที่สำคัญรั่วไหลไปยังฝ่ายกัมพูชา

พร้อมขอความร่วมมือโดยตรงไปยังพรรคประชาชน หนึ่งในหน่วยงานที่จัดทำเว็บไซต์ลักษณะดังกล่าวให้พิจารณาปิดเว็บไซต์นี้ก่อนในช่วงที่สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ

รายงานสถานการณ์ล่าสุด เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (27 ก.ค.) เวลา 06.10 น. พบว่า กระสุนลูกยาว (ขศ.) ตกใส่บ้านตาโส หมู่ 10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่พลเรือน ตอกย้ำว่าการโจมตีเป้าหมายที่ไม่ใช่ทหารยังคงเกิดขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงขอยืนยันว่าได้มีการประสานงานและดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่องตลอด 3 วันที่ผ่านมา และจะไม่มีการรายงานที่ตั้งของศูนย์อพยพหรือจุดล่อแหลมออกสื่อสาธารณะ จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนงดการกระทำที่อาจเป็นการชี้เป้าให้ฝ่ายตรงข้าม และสร้างอันตรายต่อชีวิตของพี่น้องประชาชนชาวไทยโดยไม่เจตนา