สื่อนอกตี วิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา ดับรวมแล้ว 30 ชาวบ้านหนีตาย สู้รบวันที่ 3 ยอดอพยพทะลุแสน

วิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา สื่อต่างประเทศเผย ชาวกัมพูชาหนีตายจากการปะทะวันที่สาม ยอดผู้อพยพ 2 ฝั่งทะลุแสน พลเรือนไทยเกือบ 140,000 คน
วันนี้ (26 ก.ค.) จากกรณีสถานการณ์การสู้รบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่วงเข้าสู่วันที่ 3 ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา สำนักข่าวอัลจาซีรา มีการออกลงบทสัมภาษณ์ของทหารกัมพูชารายหนึ่งที่หนีตายจาหเหตุปะทะกับทหารจากไทยบริเวณแนวชายแดน โดยวันนี้จากรายงานยืนยันว่ายังคงมีเสียงระเบิดยังคงดังกึกก้องเป็นระยะๆ จากแนวชายแดนของสองประเทศ
สื่อเจ้าดังกล่าวระบุถึงทหารกัมพูชานายหนึ่งซึ่งกำลังนอนรอเข้ารับการผ่าตัด เพื่อนำสะเก็ดระเบิดที่ฝังอยู่ในร่างกายออก โดยเป็นผลมาจากกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายไทย โดยเขาเล่าว่าได้รับบาดเจ็บจากการปะทะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ใกล้กับปราสาทตาเหมือนธม ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่พิพาทตามแนวพรมแดนระหว่างจังหวัดอุดรมีชัยของกัมพูชาและ จ.สุรินทร์ของไทย
เจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับอัลจาซีรา ขณะนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลว่า“ผมมีสะเก็ดระเบิดฝังอยู่ที่หลังและยังไม่ได้เอาออกเลย ต้องรอผ่าตัด” โดยมีภรรยาและลูกชายนั่งอยู่บนพื้นข้างๆ
“ตอนแรกพวกเขาพาผมไปโรงพยาบาลทหาร แต่ที่นั่นไม่มีเครื่องเอกซเรย์ ตอนที่ผมโดนระเบิด เสื้อผ้าผมขาดกระจุยไปหมด”
ทหารกัมพูชาอีกนายที่ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เล่าว่าเขาถูกสะเก็ดระเบิดที่หัวไหล่ซ้ายขณะปะทะกันใกล้กับปราสาทตาควาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ข้อพิพาท
ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าสามารถเข้าควบคุมพื้นที่รอบปราสาทตาเหมือนและตาควายได้แล้ว รวมถึงพื้นที่พิพาทอีก 6 แห่ง หลังจากผลักดันทหารไทยกลับไปได้ไม่นานหลังการปะทะปะทุขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ตามคำกล่าวอ้างดังกล่าวยังไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างเป็นอิสระ
ทั้งนี้เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาของวันนี้ (26 ก.ค.) มีรายงานผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วกว่า 30 รายจากทั้งสองฝั่งชายแดน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
ทางการกัมพูชาระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย ขณะที่ฝั่งไทยมีรายงานผู้เสียชีวิตราว 20 ราย นอกจากนี้โครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนก็ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีตลอด 3 วันที่ผ่านมา

เสียงจากผู้อพยพย้ำ ตัวเองต้องวิ่งหนี ! เพื่อเอาชีวิตรอด
การปะทะกันด้วยปืนใหญ่และจรวดได้บีบให้พลเรือนตามแนวชายแดนของกัมพูชาต้องอพยพหนีตาย
“ฉันคิดถึงบ้าน” นางเชง เดียบ ชาวบ้านผู้พลัดถิ่นกล่าว เธอหนีออกจากบ้านที่อยู่ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 5 กิโลเมตรในจังหวัดอุดรมีชัย และตอนนี้ต้องอาศัยอยู่กับลูกๆ ที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งกับครอบครัวอื่นๆ อีกหลายสิบครอบครัว
“ถ้ายังยิงกันไม่หยุด เราก็คงต้องหนีต่อไปเรื่อยๆ เราไม่รู้เลยว่ามันจะจบลงเมื่อไหร่” เธอกล่าว
สำหรับผู้พลัดถิ่น อาหารเริ่มขาดแคลนและความไม่แน่นอนก็เพิ่มสูงขึ้น หลายคนเป็นห่วงชะตากรรมของบ้าน ปศุสัตว์ และไร่นา ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตในพื้นที่ชายแดนที่ยากจนของกัมพูชา
“เราเหลืออาหารอยู่น้อยมาก ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป เราจะไม่มีอะไรกิน” นางเชง เดียบ กล่าว

ลำดับเหตุการณ์สู่การเผชิญหน้า
ขณะที่การสู้รบได้ขยายวงกว้างไปหลายพื้นที่ตามแนวชายแดน มีรายงานว่าพลเรือนไทยเกือบ 140,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และกองทัพไทยได้ประกาศใช้ “กฎอัยการศึก” ใน 8 อำเภอชายแดน ส่วนในฝั่งกัมพูชามีผู้อพยพแล้วประมาณ 38,000 คน
ข้อพิพาทชายแดนที่ยืดเยื้อได้ปะทุขึ้นอีกครั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม หลังจากทหารกัมพูชาเสียชีวิตจากการปะทะกับทหารไทยช่วงสั้นๆ หลังจากนั้นความตึงเครียดก็เพิ่มสูงขึ้นผ่านการใช้มาตรการตอบโต้ทางการทูตและการค้าแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน จนกระทั่งสถานการณ์บานปลายเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เมื่อทหารไทยหลายนายได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในเขตพิพาท
ฝ่ายไทยกล่าวหากัมพูชาว่าจงใจวางทุ่นระเบิดใหม่ ซึ่งพนมเปญปฏิเสธอย่างแข็งขัน โดยอ้างว่าเป็นทุ่นระเบิดที่ตกค้างมาตั้งแต่สมัยสงครามกลางเมือง จากนั้นไทยได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตกลับและขับทูตกัมพูชาออกนอกประเทศ พนมเปญจึงตอบโต้ด้วยการเรียกนักการทูตกลับเช่นกัน และทั้งสองฝ่ายได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตลง ก่อนที่การสู้รบโดยตรงจะปะทุขึ้นในเช้าวันพฤหัสบดี (24 ก.ค.)

กัมพูชายังได้กล่าวหาว่าไทยใช้ “ระเบิดพวง” ซึ่งเป็นอาวุธที่ถูกห้ามภายใต้สนธิสัญญาระหว่างประเทศ
ขณะที่ฝ่ายไทยกล่าวหากัมพูชาว่ายิงจรวดพิสัยไกลเข้าใส่พื้นที่พลเรือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวว่า เขาเชื่อว่ากัมพูชาอาจเข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงครามจากการโจมตีพลเรือน ส่วน สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็กล่าวหากองทัพไทยว่าเปิดฉาก “การโจมตีที่ไม่ได้ถูกยั่วยุ, มีการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า และเกิดขึ้นอย่างเจตนา”
ขณะที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างพยายามชี้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้รุกราน แต่อัปเดตสถานการณ์จนถึงเวลานี้ สำนักข่าวต่างประเทศยืนยันทางการของทั้ง 2 ฝั่งชายแดน ดูเหมือนกำลังเตรียมการสำหรับความขัดแย้งที่อาจยืดเยื้อต่อไป.









อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สดุดี 6 ทหารกล้า เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือนเสียชีวิตแล้ว 13 ราย
- “ทักษิณ” ชี้กัมพูชาไม่กล้ารบจริง “สม รังสี” ลำดับเหตุปะทะ อะไรคือชนวนขัดแย้งล่าสุด
- เปิดใจ หญิงอุบลฯ ถาม ทักษิณ เป็นเพื่อนฮุน เซน ทำไมปล่อยทำแบบนี้ ยันเจอผลกระทบ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: