กองทัพภาค 2 สรุปสถานการณ์ ชายแดน 4 จังหวัด อพยพ ปชช.กว่า 6 หมื่นคน

กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ณ 12.00 น. ระบุการปะทะขยายวงใน 4 จังหวัดชายแดน มีประชาชนอพยพแล้วกว่า 63,446 คน
25 กรกฎาคม 2568 – กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกแถลงการณ์สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาล่าสุด ณ เวลา 12.00 น. โดยระบุว่าการปะทะได้ขยายวงกว้างออกไปในหลายพื้นที่ของ 4 จังหวัดชายแดน และส่งผลให้ต้องมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงแล้วมากกว่า 63,000 คน ขณะที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้ระดมกำลังเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้
สถานการณ์การสู้รบ วันที่ 25 ก.ค. 68 เวลา 08.30 น. กลยุทธ์ฝ่ายตรงข้ามใช้กำลังทหารรราบเข้าประชิดกำลังฝ่ายเราเพื่อป้องกันฝ่ายเราใช้อาวุธยิงสนับสนุน ฝ่ายตรงข้ามใช้รถถังและอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลโจมตีขอบหน้าพื้นที่การรบพื้นที่ส่วนหลัง มีความพยายามโจมตีในพื้นที่ ซำแต, ช่องตาเฒ่า และประสาทตาเมือน

พื้นที่ช่องบก เป็นการตอบโต้ระหว่างปืนใหญ่กับ BM 21, พื้นที่ช่องอานม้า ปรับกำลังเข้าควบคุมตามเส้นแดน, พื้นที่ชำแต ฝ่ายตรงข้ามรวมกำลังทหารราบรถถัง ตีโต้ตอบเพื่อยึดพื้นที่คืน, พื้นที่ช่องตาเฒ่า. พื้นที่พระวิหาร ตรึงข้าศึกบริเวณวัดแก้ว, พื้นที่ภูมะเขือ ฝ่ายเราเข้าตีฝ่ายตรงข้ามยิงโต้ตอบ
พื้นที่ช่องจอม (อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์) ทั้งสองฝ่ายใช้อาวุธยิงสนับสนุน โจมตีกันไปมา, พื้นที่ปราสาทตาควาย (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ข้าศึกเพิ่มเติมกำลังขึ้นมาเป็นจำนวนมากฝ่ายเราต้องปรับแผน และพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ฝ่ายเราวางกำลัง ฝ่ายตรงข้ามพยายามเข้าตี
การอพยพประชาชน จำนวน 131 จุด ดังนี้ พื้นที่ จ.บุรีรัมย์ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 1 จุด 4,813 คน, จ.สุรินทร์ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 20 จุด 21,646 คน, จ.ศรีสะเกษ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 43 จุด 26,511 คน, จ.อุบลราชธานี อพยพ เข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 67 จุด 10,476 คน, ล่าสุดอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว 63,446 คน
ผลกระทบต่อประชาชน พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ต.ตาเมียง, ต.บักได และ ต.จีกแดก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่, ต.ศรีวิเชียร อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กระสุนปืนใหญ่ตก บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 4 หลัง, ต.รุง ต.เมือง และ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ กระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่ ปัจจุบันยังไม่มีรายงานการสูญเสียต่อชีวิตของประชาชน
การช่วยเหลือประชาชน จิตอาสาพระราชทานดูแลและช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่ 4 จ. เพื่อดูแลและช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราว และช่วยขนย้ายสิ่งของ รวมทั้งช่วยในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชนได้รับทราบ โดย จัดจิตอาสา 904 และจิตอาสาพระราชทาน จำนวน 2,318 นาย เข้าช่วยเหลือประชาชน ในพื้น 4 พื้นที่ ประกอบด้วย จ.บุรีรัมย์, จ.สุรินทร์, จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี
การจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ในพื้นที่ 4 จังหวัด ดังนี้ จ.บุรีรัมย์ ที่สนามช้างอารีน่า, จ.สุรินทร์ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อ.เมืองฯ, มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ อ.เมืองฯ และ ที่องค์การบริหารส่วนตำบลเชื้อเพลิง อ.ปราสาท, จ.ศรีสะเกษ ที่วิทยาลัยเทคนิคกันทรลักษ์ ต.จานใหญ่ อ.กันทรลักษ์ และ ที่โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ต.ตระกาจ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี ที่ว่าการอำเภอเดชอุดม
จากสถานการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้น กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยืนยันถึงเจตนาในการปกป้องอธิปไตย ที่เกิดจากการรุกรานของฝ่ายกัมพูชาภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ มิใช่การละเมิดหรือรุกรานจากฝ่ายไทยตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง และพยายามนำเสนอข้อมูลเพื่อสร้างความชอบธรรมในสายตาของนานาชาติ
ดังนั้น จึงขอเรียกร้องไปยังประเทศกัมพูชา ให้ยุติการกระทำในลักษณะที่ต้องการครอบครองพื้นที่ที่อาณาเขตประเทศไทย โดยนำเรื่องพื้นที่เข้าสู่กระบวนการพิจารณาตัดสินโดยศาลโลก และกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา ในฐานะมิตรประเทศต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กองทัพไทย โต้ข่าวยึดปราสาทพระวิหาร ตอบโต้พื้นที่กัมพูชารุกเข้ามาเท่านั้น
- กองทัพไทย เปิดบันทึกปะทะชายแดน ย้ำกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
- ชาวบ้านเอาปลัดขิกเหนือบังเกอร์ ชี้ไปด้านเขมร เชื่อทำมนต์ดำเสื่อมได้
ติดตาม The Thaiger บน Google News: