เปิดคลิปทหารกัมพูชาวิ่งหนีตาย! หลังปืนใหญ่ M758 ATMG ไทยยิงถล่มทำลายจรวด BM-21 ในกัมพูชา ซึ่งถูกเผยพิกัดจากคลิปที่ทหารกัมพูชาโพสต์ลงโซเชียล
เมื่อวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2568 สถานการณ์การปะทะตามแนวชาย แดนไทย-กัมพูชา ได้ทวีความรุนแรงขึ้นสู่การปฏิบัติการทางทหารที่ใช้เทคโนโลยีและการข่าวกรองเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยมีรายงานและภาพที่แสดงให้เห็นถึงปฏิบัติการของปืนใหญ่อัตตาจรล้อยาง M758 ATMG ของกองทัพบกไทย เข้าทำลายที่ตั้งระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ของฝ่ายกัมพูชา
ตามรายงานระบุว่า ปืนใหญ่อัตตาจร M758 ATMG ซึ่งเป็นอาวุธที่ผลิตและพัฒนาขึ้นในประเทศไทย มีขนาดลำกล้อง 155 มม./52 คาลิเบอร์ สามารถยิงได้ต่อเนื่อง 6 นัดต่อนาที และมีระยะยิงไกลสุดเกินกว่า 40 กิโลเมตร ได้ถูกส่งเข้าพื้นที่เพื่อปฏิบัติการยิงสนับสนุนและต่อต้านการยิงของฝ่ายกัมพูชา โดยมีเป้าหมายหลักคือการทำลายระบบจรวด BM-21 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอจอมกระสานต์ ประเทศกัมพูชา
ปฏิบัติการดังกล่าวส่งผลให้เกิดภาพที่น่าสลดใจ เมื่อมีรายงานเผยให้เห็นภาพทหารกัมพูชาต้องวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอดอย่างโกลาหล เพื่อหลบหนีจากอานุภาพการยิงของปืนใหญ่ฝ่ายไทยที่เข้าโจมตีเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกัน ความผิดพลาดในการรักษาความลับทางทหารของฝ่ายกัมพูชาเองก็ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญในวันเดียวกัน เมื่อเพจเฟซบุ๊ก Army Military Force – สำรอง ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ตำแหน่งที่ตั้งที่แน่นอนของระบบยิงจรวดหลายลำกล้องอีกระบบหนึ่งของกัมพูชา นั่นคือ RM-70 ขนาด 122 มม. (MLRS) ได้ถูกเปิดโปงสู่สาธารณะ
ความผิดพลาดดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากทหารกัมพูชาหน่วยหนึ่งได้ถ่ายคลิปวิดีโอเพื่อสร้างคอนเทนต์และอัปโหลดลงบนโซเชียลมีเดีย การกระทำดังกล่าวได้เปิดช่องให้นักวิเคราะห์ข่าวกรองจากแหล่งข้อมูลเปิด หรือ Open-Source Intelligence (OSINT) เข้ามาตรวจสอบและสามารถระบุพิกัดที่ตั้งของระบบจรวดดังกล่าวได้อย่างแม่นยำ นั่นคือที่พิกัด 14.160032, 105.056467 เหตุการณ์นี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของสงครามข้อมูลข่าวสารและความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในสนามรบยุคปัจจุบัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กัมพูชาปวดหัว ทหารไม่ฟังคำสั่ง ห้ามถ่ายคลิปโชว์อาวุธ หลังเผยพิกัดจรวด MLRS
- ชาวบ้านเอาปลัดขิกเหนือบังเกอร์ ชี้ไปด้านเขมร เชื่อทำมนต์ดำเสื่อมได้
- เทียบศักยภาพ F-16 ไทย กับ MiG-21 กัมพูชา ไทยเหนือกว่าทุกมิติ
อ้างอิง : Army Military Force – สำรอง
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
