ข่าว

นศ.กัมพูชาในไทย หวั่นโดนล่าแม่มด จากพิษสงคราม วอนสองฝั่งเลือกสันติ

“ผมเป็นคนกัมพูชา จะเกลียดผมไหม?” นักศึกษาต่างชาติกัมพูชาใน ม.อุบลฯ ระบายความรู้สึกซึ้งใจว่าไทยคือ “บ้านหลังที่สอง” แต่หวั่นคนไทยเกลียดจากพิษสงครามชายแดน

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ในขณะที่สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชากำลังตึงเครียด เพจเฟซบุ๊ก วารินชำราบบ้านเฮา อุบลราชธานี ได้เผยแพร่ข้อความอันน่าสะเทือนใจจากนักศึกษาต่างชาติชาวกัมพูชาคนหนึ่ง ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยนักศึกษาผู้นี้ได้ระบายความรู้สึกถึงความผูกพันอันลึกซึ้งกับประเทศไทย แต่ในปัจจุบันกลับต้องเผชิญกับความกังวลว่า “ผู้คนจะเกลียดตนไหม…เพียงเพราะเป็นคนกัมพูชา?”

ในโพสต์ดังกล่าว นักศึกษาผู้นี้ได้เริ่มต้นด้วยการทักทายทุกคน และแนะนำตัวเองว่าเป็นนักเรียนต่างชาติจากประเทศกัมพูชาที่มาอาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้เกือบหนึ่งปีแล้ว พร้อมกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศไทยนั้นน่าประทับใจ ทั้งความเมตตาของคนไทย รอยยิ้ม และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาสัมผัสได้ในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็มีแต่คนให้กำลังใจเขาในฐานะชาวกัมพูชาที่พยายามพูดภาษาไทยและเปิดใจรับวัฒนธรรมของที่นี่

นักศึกษาชาวกัมพูชาคนนี้ เผยว่า ตนได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเพณีของไทยมากมาย และกล่าวว่าเขารักและให้ความเคารพอย่างลึกซึ้ง โดยย้ำว่าประเทศไทยคือประเทศที่เขาเลือก เป็นสถานที่ที่มอบโอกาสและทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกล่าวชื่นชมอาจารย์และทุกคนรอบตัวที่ปฏิบัติต่อเขาด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์และความเมตตาอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม นักศึกษาผู้นี้ได้แสดงความรู้สึกที่เปลี่ยนไปว่า “แต่ตั้งแต่เกิดสงคราม ความรู้สึกในใจผมก็เริ่มหนักอึ้ง ผมรู้สึกเศร้าในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ผมกังวลทุกวัน—เกี่ยวกับอนาคต เกี่ยวกับสายตาของผู้คนที่มองมาที่ผม และตอนนี้ผมก็เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘ผู้คนจะเกลียดผมไหม…เพียงเพราะผมเป็นคนกัมพูชา?'”

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชาวกัมพูชา ได้โพสต์ในเพจ
ภาพจาก : FB/วารินชำราบบ้านเฮา อุบลราชธานี

เขาบรรยายความเจ็บปวดจากการคิดเช่นนั้น เพราะตั้งแต่วันแรกที่มาถึง เขาไม่เคยมองประเทศไทยเป็นเพียงแค่ต่างแดน แต่กลับมองว่าที่นี่คือ “บ้านหลังที่สองของผม” ยืนยันว่าเขาไม่เคยคิดร้าย ไม่เคยมีเจตนาอื่นใด นอกจากอยากใช้ชีวิต เรียนรู้ และเคารพทุกอย่างที่ประเทศไทยเป็น

เมื่อสถานการณ์ตึงเครียดขึ้น ชาวกัมพูชาท่านนี้กลับรู้สึกเหมือนเป็นชาวกัมพูชาเพียงคนเดียวในประเทศ ทั้งที่เคยรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ถึงแม้จะมีความกลัวและความไม่แน่นอนเต็มหัวใจ แต่เขาก็ยังคงเชื่อมั่นในสันติภาพ เชื่อในความดีของมนุษย์ และหวังสุดหัวใจว่ารัฐบาลของทั้งสองประเทศจะเลือกพูดคุยกันแทนการทำสงคราม

เพราะสำหรับนักศึกษาอย่างเขาและคนอื่น ๆ แล้ว สิ่งที่ต้องการคือการมีชีวิต เรียนรู้ และรู้สึกว่าตนเองมีที่อยู่ในโลกนี้

ในท้ายที่สุด นักศึกษาผู้นี้ได้ระบุว่า “For safety reason I have to hide my info” พร้อมติดแฮชแท็ก #PrayForThailand

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง : FB/วารินชำราบบ้านเฮา อุบลราชธานี

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx