
ชื่นชม “กชเบล เผือกพิพัฒน์” มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2025 ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนทำโรงครัวกับมูลนิธิองค์กรทำดีของ “บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมยืนหยัดให้กำลังใจทหารไทย และคนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงที่ทวีความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกชั่วโมง สำหรับพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดการปะทะกันขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา (24 ก.ค. 68) แต่แน่นอนว่าขวัญกำลังใจของพี่น้องชาวไทยได้ส่งตรงถึงเหล่าทหารกล้าที่ประจำอยู่ด่านหน้า รวมถึงประชาชนชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ความไม่สงบด้วย
ล่าสุด เบล กชเบล มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2025 ได้ร่วมบริจาคเงินสมทบทุน จำนวน 10,000 บาท ในการทำโรงทานร่วมกับ บุ๋ม ปนัดดา และมูลนิธิองค์กรทำดี ที่กำลังเตรียมขนย้ายทีมงาน และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเดินทางไปเปิดโรงทานในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมกันนี้ กชเบล ก็ยังได้ฝากส่งกำลังใจให้พี่น้องคนไทยทุกคนที่ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ รวมถึงทีมงานที่เกี่ยวข้องทุกคนด้วย
“บุ๋มและทีมงานขอขอบคุณน้องกชเบล ศรัณย์รัชต์ เผือกพิพัฒน์ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2025 ที่ร่วมบริจาคเงินจำนวน 10,000 บาท เพื่อร่วมสมทบทุนทำโรงครัวกับมูลนิธิองค์กรทำดี และน้องเบลขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้พี่น้องคนไทยทุกคนที่ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน และขอส่งกำลังใจให้พี่ๆทีมงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายด้วยค่ะ”
ก่อนหน้านี้ กชเบล เผือกพิพัฒน์ ก็เพิ่งร่ายยาวถึงเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเธอเรียกร้องให้ทุก ๆ ภาคส่วนทั้งผู้นำ ประชาชน หรือผู้ที่มีเสียงในสังคม ร่วมกันสื่อสารด้วยความเข้าใจ แทนการต่อสู้ เพื่อต่อเติมความหวัง และสันติภาพให้แก่เพื่อนมนุษย์ รวมถึงขึ้นรุ่นหลัง
“ในเวลาที่เกิดความขัดแย้ง การใช้อารมณ์หรือการตะโกนใส่กันอาจดูเหมือนแสดงถึงพลังและอำนาจเหนืออีกฝ่าย แต่แท้จริงแล้ว สิ่งที่ต้องใช้ ‘ความกล้าหาญ’ ที่แท้จริง คือการเลือกที่จะ ‘ฟังกัน’ ด้วยหัวใจ และหาทางออกที่สงบ สร้างสรรค์ และส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด
ความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชา ทั้งจากถ้อยคำรุนแรงและการกระทำทางกายภาพ ได้เตือนเราว่า… ความเจ็บปวดระหว่างประเทศนั้น ไม่ได้เริ่มจากคนคนเดียว แต่เป็นร่องรอยของอดีตที่ยังไม่มีใครได้เยียวยาอย่างแท้จริง
ในฐานะตัวแทนประเทศไทยบนเวที Miss Grand Thailand เบลขอยืนหยัดในพลังของ ‘การสื่อสารอย่างมีเมตตา’ มากกว่าการเผชิญหน้า
เบลอยากขอให้เราทุกคน ทั้งผู้นำ, ประชาชน, และสื่อมวลชน หยุดฟังกันด้วยความเคารพ
เปิดใจเข้าใจกันแม้จะเห็นต่าง และยื่นมือให้กับผู้ที่เจ็บปวดจากความขัดแย้งนี้ ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งใดก็ตาม
เราไม่จำเป็นต้องเห็นตรงกันในทุกหน้าของประวัติศาสตร์ แต่เราต้องเห็นตรงกันในสิ่งนี้: เด็กทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเติบโตโดยไม่ถูกสอนให้เกลียดใคร เพียงเพราะเขาเกิดมาจากอีกฝั่งของพรมแดน
การให้เกียรติบรรพบุรุษของเรา ไม่ใช่การสานต่อความเจ็บปวด แต่คือการเลือกทางแห่ง ‘สันติภาพ’ เพื่ออนาคตของคนรุ่นต่อไป
ขอให้เราร่วมกันส่งสารไปถึงคนทั้งโลกว่า: ชาติที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่ชาติที่ย่ำคนอื่นลง แต่คือชาติที่ยืนหยัดด้วย ศักดิ์ศรี, ความเมตตา และความกล้าหาญที่จะเยียวยากันและกัน
ขอให้เหตุการณ์นี้…ไม่ใช่แค่ความขัดแย้ง แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ถ้าเราอยากเห็นสันติภาพ เราต้อง “เลือก” สันติภาพในทุกวัน ทั้งในสิ่งที่เราพูด สิ่งที่เราฟัง และวิธีที่เราปฏิบัติต่อกัน แม้ในวันที่เราเห็นต่างกัน
เบลขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน ทั้งผู้นำ ประชาชน และผู้มีเสียงในสังคม ร่วมกันสื่อสารด้วย ความเข้าใจ ไม่ใช่ความโกรธ
เราควรลุกขึ้น ไม่ใช่เพื่อต่อสู้กัน แต่เพื่อต่อเติมความหวังให้กันและกัน เพราะสันติภาพ ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือพลังที่สูงที่สุดของความเป็นมนุษย์ Please see English translation in the comment section. Thank you.”
อ้างอิงจาก : FB ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี
ติดตาม The Thaiger บน Google News: