โฆษกฯ ยืนยันจะไม่เพิกเฉย และจะตอบโต้ตามหลักสากล หากพิสูจน์ได้ว่าทหารไทย 3 นายเหยียบ ทุ่นระเบิดใหม่ ที่ช่องบก ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
(วันที่ 18 กรกฎาคม 2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงถึงความคืบหน้าและท่าทีของรัฐบาลต่อกรณีที่ทหารไทย 3 นายเหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวนที่ช่องบก โดยยืนยันว่าหากผลการตรวจสอบพิสูจน์ได้ว่าเป็นทุ่นระเบิดที่เพิ่งถูกนำมาวางใหม่ รัฐบาลจะไม่เพิกเฉยและจะมีการดำเนินการตอบโต้ที่ชัดเจนและเป็นไปตามหลักสากลอย่างแน่นอน
โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า กองทัพบกได้ส่งหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม (นปท.) ซึ่งเป็นทีมผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด เข้าไปเก็บหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุแล้ว โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2–3 วัน ในการวิเคราะห์และพิสูจน์ทราบชนิดและช่วงเวลาที่ทุ่นระเบิดถูกนำมาติดตั้ง เพื่อสรุปให้แน่ชัดว่าเป็นของเดิมที่ตกค้างจากอดีต หรือเป็นทุ่นระเบิดที่เพิ่งถูกนำมาวางใหม่ ซึ่งหากเป็นกรณีหลัง จะถือเป็นการละเมิด อนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน ในด้านการดูแลกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจทหารทั้ง 3 นาย ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดมีขวัญและกำลังใจดีและอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยแล้ว
นายจิรายุ ยังได้เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือและสวัสดิการที่ทหารผู้บาดเจ็บจะได้รับอย่างเต็มที่จากกองทัพและรัฐบาล ดังนี้
- ได้รับการ เลื่อนยศ หลังจากรักษาตัว
- ได้รับเงินบำเหน็จรายเดือน 15,600 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมแล้วจะมีรายรับ กว่า 30,000 บาทต่อเดือน
- ได้รับเงินสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมเป็นเงินก้อน กว่า 1 ล้านบาท
- รัฐบาลจะพิจารณา บรรจุทายาทเข้ารับราชการทดแทน เป็นกรณีพิเศษ
- ได้รับการเชิดชูเกียรติด้วย เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 2 ประเภท 1 และ บัตรทหารผ่านศึกชั้นที่ 3 ซึ่งมาพร้อมสิทธิพิเศษต่าง ๆ ตลอดชีวิต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กัมพูชาอาจละเมิด “อนุสัญญาออตตาวา” หลังทหารไทย 3 นายเหยียบกับระเบิด
- กัมพูชา ปัดตอบ ระเบิดเก่า-ใหม่ ย้อนถาม ตรวจให้แน่ชัดก่อน ที่เกิดเหตุอยู่แดนใคร
- ยาย ของ ‘พลทหาร’ เหยียบระเบิดขาขาด ร้องไห้กอดรูป พ้อ สงสารหลานชาย
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
