อัปเดตเส้นทางพายุ “วิภา” ล่าสุด คาดผ่านฟิลิปปินส์ ลงทะเลจีนใต้ ก่อนเข้าใกล้จีนตอนใต้หรือเวียดนามตอนบน แม้ไม่เข้าไทยโดยตรง แต่ก็ทำให้เกิดฝนตกหนักได้
กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศอัปเดตสถานการณ์และเส้นทางพายุล่าสุดเช้าวันนี้ (18 ก.ค. 68) เมื่อเวลา 04.00 น. โดยระบุว่า พายุดีเปรสชัน ที่มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็น พายุโซนร้อน วิภา (WIPHA) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสร้างคำถามให้กับประชาชนจำนวนมากว่า พายุลูกนี้จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยโดยตรงหรือไม่ และจะมีความรุนแรงแค่ไหน
เส้นทางพายุ “วิภา” และผลกระทบต่อประเทศไทย
ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา พายุโซนร้อน วิภา กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และคาดว่าจะเคลื่อนผ่านหัวเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนจะลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในเช้าของวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค. 68)
หลังจากนั้น พายุจะเคลื่อนตัวผ่านทางตะวันออกของเกาะไหหลำ และเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้หรือเวียดนามตอนบน ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเมื่อเคลื่อนขึ้นฝั่ง
สำหรับผลกระทบต่อประเทศไทยนั้น แม้พายุ “วิภา” จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่เมื่ออ่อนกำลังลงแล้ว จะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือของไทย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ, ภาคอีสานตอนบน และภาคกลางด้านตะวันตก
นอกจากนี้ยังจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้นในช่วง วันที่ 22 – 24 กรกฎาคม 2568
อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาได้เน้นย้ำว่า ประชาชนยังต้องติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากข้อมูลเส้นทางของพายุอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องในช่วงที่พายุกำลังเข้าใกล้ชายฝั่ง
อนึ่ง กรมอุตุนิยมวิทยาได้อัปเดตภาพถ่ายดาวเทียมและภาพเรดาร์เมื่อช่วงเช้าวันนี้ พบว่าทั่วประเทศไทยมีท้องฟ้ามีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีเมฆฝนปกคลุมหนาแน่นบริเวณทางด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาพเรดาร์ได้ตรวจพบกลุ่มฝนเล็กน้อยในบริเวณ จ.เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์ตอนบน และราชบุรี ส่วนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน พบว่าเมฆฝนมีน้อยลง ทำให้ในวันนี้ท้องฟ้าจะเริ่มเปิดและมีแสงแดดมากขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนัก ฉบับ 4 ภาคเหนือ 6 จังหวัด เตรียมรับมือ
- เปิดเส้นทาง “พายุหวู่ติบ” พายุลูกแรกของปี อาจทำฝนตกบางพื้นที่ในไทย
- ด่วน! แผ่นดินไหวเมียนมา 5.2 แรงสั่นสะเทือน ถึงเชียงรายหลายอำเภอ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : กรมอุตุนิยมวิทยา
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
