มหาดไทยกัมพูชา เชื่อ ตำรวจสากลไม่จับ “ฮุนเซน” ปมคลิปเสียง ซัดไทยบิดเบือนข้อมูล

โฆษกมหาดไทยกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา เชื่อ ตำรวจสากลไม่จับ ฮุน เซน ปมคลิปเสียง พร้อมซัดไทยบิดเบือนข้อมูลตามคำสั่งผู้นำประเทศ
ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชายังคงตึงเครียด เมื่อล่าสุด นายทัช สุขะ โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ได้ออกมาแถลงผ่านเฟซบุ๊กของกระทรวงฯ ยาวกว่า 40 นาที ชี้แจงจุดยืนของกัมพูชาอย่างดุเดือด โดยระบุว่าความเคลื่อนไหวของไทยมีแรงจูงใจทางการเมืองอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่เรื่องทางอาญา
โฆษกทัช สุขะ กล่าวหาว่า ฝ่ายไทยต้องการให้อินเตอร์โพล (ตำรวจสากล) ตั้งข้อหาสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เพียงเพราะท่านชี้แจงว่าไทยเป็นฝ่ายปิดพรมแดนเองและต้องเป็นผู้เปิด
นายทัช สุขะ ย้ำว่า อินเตอร์โพลจะไม่ดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะพวกเขาต้องตรวจสอบหลักฐานก่อน และนี่ไม่ใช่เรื่องทางอาญา แต่เป็นเรื่องทางการเมืองระหว่างนักการเมือง
เขายังกล่าวหาอย่างรุนแรงว่า ในฐานะที่เคยเป็นสื่อมวลชนมาก่อน สื่อไทยกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือใน “สงครามข่าวสาร” โดยทำหน้าที่เป็นแนวหน้าในการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนตามความต้องการของผู้นำ เพื่อทำลายชื่อเสียงของประธานวุฒิสภาและประเทศกัมพูชาในเวทีโลก
โฆษกฯ กัมพูชามองว่า ข่าวสารที่สื่อไทยรายงานออกมานั้นเป็นเหมือน “การแต่งเรื่อง” มากกว่าการทำหน้าที่ของนักข่าว นี่คือ “สงครามออนไลน์ที่ไร้อาวุธ” และกล่าวหารัฐบาลกับสื่อไทยว่า พยายามดึงอินเตอร์โพล ซึ่งเป็นองค์กรตำรวจระหว่างประเทศ เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศของไทย
นายทัช สุขะ ยังตั้งคำถามว่า ประเทศที่ต้องการจับกุมอาชญากร จำเป็นต้องร้องขอหมายจับจากอินเตอร์โพลเลยหรือไม่ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนภายในของตนเอง
เขาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขของอินเตอร์โพลว่า จะไม่ครอบคลุมเรื่องการเมือง การทหาร เชื้อชาติ หรือศาสนา ยกเว้นอาชญากรรมร้ายแรง เช่น การค้ามนุษย์ ยาเสพติด อาวุธ อาชญากรรมไซเบอร์ หรือการฉ้อโกงทางการเงิน
และยังกล่าวหาว่า จุดประสงค์ที่แท้จริงของฝ่ายไทยคือความพยายามที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของประชาคมโลกออกจากคดีพิพาทพรมแดน 4 แห่งที่อยู่ในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ไทยพยายามลากกัมพูชาเข้าสู่ความวุ่นวายของกระบวนการอินเตอร์โพลเพื่อให้ผู้คนลืมเรื่องคดีในศาลโลก
นายทัช สุขะ ยังชี้แจงว่า เนื้อหาในคลิปเสียงเป็นเพียงการสนทนาทางการเมืองเรื่องนโยบายการเปิดพรมแดน ไม่ใช่การวางแผนสมคบคิดใดๆ ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยการตอกกลับว่า ในการสนทนานั้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ได้กล่าวโจมตีแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย นี่ต่างหากที่เป็นอาชญากรรมตามกฎหมายของไทย
อ้างอิง : www.phnompenhpost.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โรม แนะ รัฐไทยดึง ฮุน มาเนต ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชิงความได้เปรียบ
- ทนายโนบิ เผย ลุงสมหมาย มือต่อยทหารกัมพูชา ยันไม่ขอโทษ
- ผู้ลี้ภัยกัมพูชา เตรียมฟ้อง ฮุน เซน ในศาลไทย ปมสั่งลอบสังหาร พร้อมหลักฐาน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: