หนุ่มไตวายในวัยแค่ 36 เผยดื่มสิ่งนี้แทนน้ำเปล่า คิดว่าดีต่อร่างกาย สุดท้ายเกือบตาย

คนรักสุขภาพควรฟัง หนุ่มวัย 36 ปี เกิดอาการไตวาย สาเหตุเป็นเพราะดื่มสิ่งนี้แทนน้ำเปล่า คิดว่าดีต่อสุขภาพ แต่สุดท้ายร่างกายทรุดโทรม
เรื่องราวที่น่าจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มรสหวาน เมื่อชายหนุ่มชาวไต้หวันวัย 36 ปี ต้องตกใจสุดขีดเมื่อไปตรวจสุขภาพ แล้วพบว่าตัวเองเป็นทั้ง โรคไตวาย และ เบาหวานชนิดที่ 2 โดยไม่เคยรู้ตัวมาก่อน
ดร.กั๋ว ซิงเหม่ย จากโรงพยาบาลจางฮว่า ไต้หวัน ได้เปิดเผยกรณีของผู้ป่วยชื่อ เถิน หลิง ที่มาพบแพทย์ด้วยอาการปัสสาวะกลางคืนบ่อยจนทำให้นอนไม่เต็มอิ่มและอ่อนเพลีย ซึ่งเขาเผชิญกับอาการนี้มานานเกือบ 1 ปี
ผลตรวจเลือดพบว่าระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) ของเขาสูงถึง 13% ซึ่งเกินค่าปกติอย่างมาก แพทย์จึงวินิจฉัยว่าเขาเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 นอกจากนี้ ผลตรวจระดับโปรตีนไมโครอัลบูมินในปัสสาวะก็ผิดปกติ บ่งชี้ว่ามีความผิดปกติของไต และเมื่อตรวจเชิงลึกจึงพบว่า เขาเป็นไตวายจากภาวะแทรกซ้อนของเบาหวานชนิดที่ 2
หลังซักประวัติ ดร.กั๋ว ซิงเหม่ย พบว่าคุณเถินมีพฤติกรรมการดื่มชาที่ผิดสุขภาพอย่างร้ายแรง เจ้าตัวเล่าว่า “ผมชอบดื่มชาแดงใส่น้ำตาลที่ทางซูเปอร์มาร์เก็ตแถวบ้านแจกฟรีมาก ๆ ผมมักเอากระติกใหญ่ไปตักกลับมาดื่มแทนน้ำเปล่า เพราะคิดว่าชาแดงดีต่อสุขภาพ”
ดร.กั๋ว อธิบายว่า แม้ชาแดงจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ถ้าเติมน้ำตาลเข้าไปและดื่มในปริมาณมาก โดยเฉพาะดื่มแทนน้ำเปล่าเหมือนคุณเถิน ก็จะยิ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป จะทำให้ไขมันสะสมในช่องท้องเพิ่มขึ้น และนำไปสู่ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งหากปล่อยไว้นานจะกลายเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
นอกจากนี้ ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงต่อเนื่อง ทั้งจากการดื่มน้ำหวานบ่อย หรือจากโรคเบาหวานเอง ยังทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ เพื่อกรองของเสียออกจากเลือด และท้ายที่สุดเนื้อเยื่อไตจะเสื่อม สะสมพังผืด และกลายเป็นไตวายในที่สุด
เมื่อได้ฟังคำอธิบายจากแพทย์ คุณเถินรู้สึกเสียใจมากและกล่าวว่า “ผมนึกว่าถึงจะใส่น้ำตาล ชาแดงก็ยังดีต่อสุขภาพอยู่ เลยดื่มแทนน้ำเปล่าทุกวัน ไม่คิดเลยว่าพฤติกรรมนี้จะทำร้ายระดับน้ำตาลในเลือดกับไตได้ขนาดนี้”
หลังจากนั้น แพทย์ได้แนะนำให้คุณเถินปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอย่างเคร่งครัด พร้อมจ่ายยาควบคุมระดับน้ำตาลและดูแลเรื่องโรคไต และกำชับให้มาตรวจติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับยาให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
ดร.กั๋ว ซิงเหม่ย ระบุว่า จากการตรวจร่างกายครั้งล่าสุด สุขภาพของคุณเถินดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเบาหวานและไตวายสามารถควบคุมได้ดี และยังไม่พบสัญญาณว่าตัวโรคจะทรุดลงอีก
อ้างอิง : kenh14.vn
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดคลิป เวทีหลัก Tomorrowland 2025 ไฟไหม้วอด หลังคนพื้นที่ได้ยินเสียงระเบิด
- เกาหลีรวบตัวครู-ผู้ปกครอง รวมหัวกันแอบเข้าโรงเรียนตอนดึก ขโมยข้อสอบปลายภาค
- อินฟลูดัง ชักระหว่างผ่าตัด คลินิกคิดว่าถูกผีเข้า ปล่อยชัก 12 ชม. ทำนอนโคม่า 1 เดือน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: