ข่าวต่างประเทศ

หนุ่มไต้หวัน ขับเบนซ์ชน 6 คันรวด ตำรวจผงะ เจอชายซ้อนชาย คาเบาะ

หนุ่มไต้หวันวัย 20 ปี ขับรถเบนซ์ชนรถ 6 คันรวด กระโดดข้ามเบาะไปนั่งทับเพื่อนหนีตำรวจ โดยลืมเข้าเกียร์จอด ทำให้รถไหลชนต่อเนื่อง ตำรวจพบภาพ ชายซ้อนชาย คาเบาะ

เกิดเหตุการณ์สุดอลหม่าน และขบขันบนท้องถนนในเมืองไถจง ไต้หวัน เมื่อชายหนุ่มวัย 20 ปี พยายามที่จะเลี่ยงการจับกุมของตำรวจด้วยการกระโดดจากเบาะคนขับไปนั่งทับเพื่อนที่เบาะข้าง ๆ แต่ด้วยความลนลานกลับลืมเข้าเกียร์จอด ทำให้รถเบนซ์สุดหรูของเขาไหลไปชนรถคันอื่นต่อเนื่องถึง 6 คัน และเมื่อตำรวจมาถึงก็ต้องพบกับภาพสุดพีกของ ชายซ้อนชาย ที่นั่งเกยกันอยู่ในรถ

ตำรวจเมืองไถจงเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายไช่ วัย 20 ปี ได้ขับรถยนต์เบนซ์สีเทามาตามถนนในเขตหนานถุน โดยมีเพื่อนชายนั่งมาด้วยที่เบาะข้างคนขับ แต่เมื่อเขาเห็นรถตำรวจสายตรวจขับตามมา ด้วยความกังวลว่าจะถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับ จึงตัดสินใจทำเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด

ภาพแสดงคนขับรถยนต์เบนซ์กำลังกระโดดข้ามเบาะไปนั่งทับเพื่อนในรถ
ภาพจาก: Yahoo奇摩新聞

นายไช่ ได้กระโดดจากฝั่งคนขับข้ามไปที่เบาะข้าง ๆ ในลักษณะนั่งทับหรือซ้อนอยู่บนตัวเพื่อน เพื่อสร้างสถานการณ์ว่าตนเองไม่ใช่คนขับ แต่ด้วยความตื่นตระหนก เขาได้ลืมเข้าเกียร์ P (เกียร์จอด) ทำให้รถเบนซ์ที่ยังติดเครื่องอยู่ค่อย ๆ ไหลไปข้างหน้าและพุ่งเข้าชนรถยนต์ที่จอดอยู่ริมทางเสียหายต่อเนื่องถึง 6 คัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุกล่าวว่า “มันน่าอายแล้วก็น่าทึ่งมาก” เขาเล่าว่าทันทีที่รถหยุดนิ่งได้เข้าแสดงตัวและสั่งให้คนในรถลงมา แต่เมื่อเปิดประตูรถก็ต้องผงะกับภาพชายสองคนนั่งซ้อนทับกันอยู่ ซึ่งทั้งคู่เมื่อเห็นว่าหนีไม่รอดจึงยอมลงจากรถแต่โดยดี

ภาพแสดงคนขับรถยนต์เบนซ์กำลังกระโดดข้ามเบาะไปนั่งทับเพื่อนในรถ
ภาพจาก: Yahoo奇摩新聞

นายไช่ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ดื่มค็อกเทลที่ไนต์คลับมาเพียงเล็กน้อย และกำลังจะขับรถไปจอดที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อรอใช้บริการคนขับรถแทน แต่พอเห็นตำรวจตามมาก็เกิดความกลัวจึงทำเรื่องดังกล่าวลงไป

ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันหลายคัน
ภาพจาก: Yahoo奇摩新聞

ผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์พบว่า นายไช่มีปริมาณแอลกอฮอล์เพียง 0.09 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่จากพฤติกรรมการขับขี่ที่เป็นอันตรายและสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 185 ฐาน กีดขวางความปลอดภัยในการสัญจรของประชาชน และนำตัวส่งอัยการเพื่อดำเนินคดีต่อไป ซึ่งเป็นข้อหาที่อาจมีโทษหนักกว่าการเมาแล้วขับเสียอีก

ที่มา: Yahoo奇摩新聞

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx