ด่วน! เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ย่องเงียบ ลาสิกขา จำนนหลักฐานพัวพัน สีกากอล์ฟ

ด่วน! พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ยอมจำนนต่อหลักฐาน ย่องเงียบ ลาสิกขา แล้ว ที่วัดจ.ตาก หลังหลุดภาพลับ-แชตหวาน สีกากอล์ฟ
ควมามคืบหน้าล่าสุดมีรายงานว่า พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ลาสิกขาแล้ว เมื่อเวลา 11.29 น. ที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังตกเป็นข่าวพัวพันเชิงชู้สาว สีกากอล์ฟ ภาพลับ-แชตหลุดว่อนโซเชียล
ก่อนหน้านี้ อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ได้หายตัวไปหลายวันโดยไม่เข้ารายงานตัว หลังมีรายชื่อปรากฎข่าวมีความสัมพันธ์กับ สีกากอล์ฟ และมีภาพลับ-แชตไลน์หลุดว่อนเน็ต ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้

ประวัติ “พระราชรัตนสุธี” เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก
“พระราชรัตนสุธี” เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก พระเถระชั้นผู้ใหญ่ อีกหนึ่งพระน้ำดีแห่งเมืองสองแคว ปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก, ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร และผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่สำคัญของคณะสงฆ์ในภาคเหนือตอนล่าง
“พระราชรัตนสุธี” เป็นที่รู้จักในฐานะพระนักปกครองและนักการศึกษาที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนกิจการพระพุทธศาสนาในภูมิภาค ท่านเกิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 ปัจจุบันอายุ 54 ปี
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทถึง 2 ใบ คือ รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (รป.ม.) ในปี พ.ศ. 2546 และศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ศศ.ม.) ในปี พ.ศ. 2547 ก่อนจะสำเร็จการศึกษาระดับสูงสุดคือ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.)
สมณศักดิ์ที่ได้รับพระราชทานนั้น หลังจากที่ท่านสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยคแล้ว ก็ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะตามลำดับคือ
- 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ได้รับการสถาปนาเป็น พระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ในราชทินนามที่ พระศรีรัตนมุนี
- 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น พระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชรัตนสุธี ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี ซึ่งเป็นราชทินนามปัจจุบัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เข้าพรรษาก็สึกได้ เช็กสำนักพุทธฯ เปิดรายชื่อพระลาสิกขา เซ่นโยงพิษราคะ สีกา ก.
- เจ้าคณะพิจิตร ปัดสึก พร้อมตรวจ DNA สวนทางอีกรูปลาสิกขา ระยอง พิษสีกา ก.ทำคนร้างวัด
- ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดกัลยาณมิตร ลาสิกขาแล้ว หลังถูกโยงปมฉาว สีกากอล์ฟ
อ้างอิงจาก : FB เจ๊ม้อย v+
ติดตาม The Thaiger บน Google News: