
เปิดประวัติ ชัย ราชพงษ์ หลังข่าวการเสียชีวิตของอดีตพระเอกจักรวงศ์ในวัย 80 ปี ย้อนดูประวัติและผลงานพระเอกดังในความทรงจำ
อีกหนึ่งดวงดาวแห่งโลกนิทานพื้นบ้านและละครจักรๆ วงศ์ ๆ ได้ลาลับกลับสู่ฟากฟ้า ปิดตำนานพระเอกรุ่นใหญ่ที่เคยครองใจแฟนละครช่อง 7 สีทั่วประเทศ เมื่อเพจ ดาราภาพยนตร์ ได้แจ้งข่าวเศร้าถึงการจากไปอย่างสงบของ “ชัย ราชพงษ์” หรือชื่อจริง นายสุวิทย์ อุราชื่น ในวัย 80 ปี ท่ามกลางความอาลัยของครอบครัวและแฟนๆ ที่เติบโตมากับผลงานของท่าน
การเดินทางในโลกมนุษย์ของอดีตพระเอกดังได้สิ้นสุดลงอย่างสงบด้วยโรคชรา โดยครอบครัวได้ตั้งบำเพ็ญกุศลและจัดพิธีสวดอภิธรรม ณ วัดบางไผ่พระอารามหลวง มาตั้งแต่วันที่ 12-14 กรกฎาคมที่ผ่านมา และในวันนี้ (15 กรกฎาคม 2568) จะเป็นวันสุดท้ายที่ทุกคนจะได้ร่วมส่งดวงวิญญาณของท่านเป็นครั้งสุดท้ายในพิธีฌาปนกิจ ซึ่งจะมีขึ้นในเวลา 17.00 น. วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เพื่อให้ดาวดวงนี้ได้กลับไปส่องสว่างบนฟากฟ้าตลอดกาล

ย้อนดู ประวัติ ชัย ราชพงษ์ กับผลงานอันเป็นตำนานแก่ชนรุ่นหลัง
ชัย ราชพงษ์ หรือชื่อจริง สุวิทย์ อุราชื่น คือหนึ่งใน พระเอกลิเก-ละครจักรๆ วงศ์ ๆ แห่งยุคปี 20–30 ที่ผู้ชมจดจำดีจากบทบาทพระรถเมรี พระสุธน–มโนรา และอีกหลายเรื่องบนหน้าจอทีวีขาว–ดำ ช่อง 7 สี ก่อนจะผันตัวสู่บทบาทเบื้องหลังการแสดงและใช้ชีวิตเรียบง่ายกับครอบครัว กระทั่งเขาจากไปอย่างสงบในวัย 80 ปี เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 สิ้นตำนานนักแสดงผู้สร้างความบันเทิงให้ผู้ชมรุ่นเก่า–รุ่นใหม่กว่า 5 ทศวรรษ
ชัย ราชพงษ์ หรือ สุวิทย์ อุราชื่น เริ่มเป็นที่รู้จักจากการรับบทนำในละครจักรๆ วงศ์ๆ ของช่อง 7 สี สมัยที่ทีวีไทยยังเป็นขาว–ดำและนักแสดงยังใช้ฟิล์มวิดีโอในการถ่ายทำ เขามีฉายา “หนึ่งน้องนางเดียว” จากบทบาทที่เล่นร่วมกับนางเอกจำนวนหนึ่ง ก่อนผันตัวมาเล่นละครโทรทัศน์หลากหลายแนวจนกลายเป็น “พระเอกคลาสสิก”
ผลงานเด่น
- พระรถเมรี (ละครจักรๆ วงศ์ๆ ปี 2511)
- พระสุธน–มโนรา (2516) ซึ่งถือเป็นเรื่อง “ต้นตำรับซีรีส์เพลงพื้นบ้าน” ทางทีวีไทย
- ฝนสามฤดู, ห้องหุ่น, อมฤตาลัย ฯลฯ อีกนับสิบเรื่องที่ทุกบ้านต่างตั้งหน้าตั้งตาดูในช่วงเย็นวันหยุด

แม้จะเคยโด่งดังในฐานะ “พระเอกช่อง 7” แต่ชัยเลือกใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างสงบในย่านบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี กับภรรยาและลูก ๆ ภาพล่าสุดในเฟซบุ๊กเพจของเขา แสดงให้เห็นคุณสุวิทย์ยังมีสุขภาพแข็งแรง ก่อนจะลาจากไปด้วยวัย 80 ปี
นอกจากการแสดง ชัยยังรับหน้าที่ ที่ปรึกษาศิลปะการแสดง และ อาจารย์สอนละครเวที ให้กับน้อง ๆ ในวงการ เพื่อนนักแสดงและผู้กำกับหลายคนต่างยกให้เขาเป็น “โรงเรียนเดินได้” เพราะความชำนาญในการปรับบทและสร้างจังหวะตลก–ดราม่า
บทละครหลายเรื่องของเขายังคงถูกนำกลับมาฉายซ้ำ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จัก “รสชาติละครจักรๆ วงศ์ๆ” และศิลปะการแสดงสมัยก่อน โกยคำชมจากคนดูรุ่นเก่าที่ตั้งตารอคอยการกลับมาของ “พระเอกตลอดกาล” อย่างไม่จางหาย
ถึงวันนี้ เมื่อเรานึกถึงบทเพลงสายลมใน พระรถเมรี หรือเสียงกลองทิพย์ใน ฝนสามฤดู ก็เหมือนการเดินตามเงาเก่า ๆ ในตรอกซอกซอยกรุงเทพฯ ช่วงเลอะเทอะไปด้วยฟิล์มหดหู่ ความอบอุ่นของเสียงวิทยุขาว–ดำ และกลิ่นอายโรงภาพยนตร์เล็ก ๆ ที่คอยฉายเรื่องเขาในวัยหนุ่ม เมื่อไหร่ที่ละครคลาสสิกเหล่านั้นกลับมาหวนกลับมา มันเหมือนเสียงกลอง “ตึง–ตึง” ดังขึ้นกลางใจ แม้กาลเวลาจะล่วงเลยไปหลายสิบปีแล้วก็ตาม
ถ้าละครไทยเป็นวรรณกรรม ชัย ราชพงษ์ ก็เสมือนกวีที่ใช้ใบหน้าแทนอักษร ให้คนดูจดจำรอยยิ้มและหยาดน้ำตาไปพร้อมกัน
ผู้เขียนหวังว่าความทรงจำของพระเอกผู้จากไปครั้งนี้ จะไม่เพียงเหลือไว้ในฐานะตัวเลขวัน-เดือน-ปี แต่จะยังคง “ดังก้อง” ในห้วงเวลาเมื่อเราเผลอกลับไปดู ห้องหุ่น หรือ พระสุธน–มโนรา อีกครั้ง…





อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ยืนยัน “คังซอฮา” นักแสดงสาววัย 31 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง
- วงการนางงามเศร้า พีดี MUT สุพรรณบุรี เสียชีวิตกะทันหัน เผยกำหนดสวดอภิธรรม
- ประวัติ พระปริยัติธาดา พระนักวิชาการผู้ทรงภูมิ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดกัลยาณมิตรฯ
ข้อมูลจาก : เพจเฟซบุ๊ก ดาราภาพยนตร์
ติดตาม The Thaiger บน Google News: