อดีตสว.ยังรู้ ชี้พระมั่วสีกาแก้ยาก ตราบใดมีอวัยวะเพศ “ปาราชิกพส.” เปลี่ยนหน้าได้เสมอ

ขนาดคนในรัฐสภายังเข้าใจท่องแท้จริงไหม ? วันชัย สอนศิริ อดีตสว. โพสต์ร่ายยาวมุมมองผ่านเฟซบุ๊ก กรณี สีกากอล์ฟ สาวไส้พระชั้นผู้ใหญ่ เจ้าคณะ รองเจ้าอาวาสยันคนขับรถ วอนรมต. สำนักพุทธแบบไทย ๆ เชิญปลง โยนีหรืออวัยวะเพศหญิงมันยิ่งใหญ่เหนือเจ้าโลก สตรีคือศัตรูของพรหมจรรย์ แล้วพระสงฆ์องค์ไหนจะก้าวพ้นได้
จู่ ๆ ก็มาเกือบเป็นกลอนร่ายยาว สำหรับ วันชัย สอนศิริ อดีตสว. ที่ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งทรงเกียรติดังกล่าวช่วงปี 2544 ล่าสุดออกมาโพสต์ความเห็นหลังเกิดกรณีล้างบางพระสงฆ์ระดับชั้นผู้ใหญ่หลายสิบรูปซึ่งไปแอบเสพเมถุนร้อนแรงกับ สีกากีกอล์ฟ หรือ “น้องดอกไม้” หญิงสาวจากจ.พิจิตร อายุราว 35 ปีตามรายงานของสื่อหลายสำนัก ซึ่งในส่วนของบัญชีโซเชียลคนอดีตสมาชิกวุฒิสภาก็เขียนเนื้อหาไปๆ พร้อมยกวาทะกรรมแฝงตลอดเนื้อหาหลายบรรทัด ว่า “อิทธิพลของโยนี” ทั้งรัฐมนตรี สำนักพุทธฯ และผู้เกี่ยวข้อง บอกว่าจะเสนอกฎหมายปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา
“พระ” หรือสีการ่วมเพศกัน จะต้องถูกลงโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงมีเพศสัมพันธ์กับพระหรือพระไปมีเพศสัมพันธ์กับเขา นอกจากจะถูกจับสึกยังต้องติดคุกอีกด้วย ออกกฎหมายนี้แล้วมันจะป้องกันพระร่วมเพศกับสีกาได้จริงหรือ? ตราบใดที่ยังมีชายและมีหญิง ไม่ว่าจะเป็นสีกากอล์ฟหรือพระองค์ใดต่างก็มีอวัยวะเพศชายเพศหญิงด้วยกันทั้งนั้น และพระก็ยังไม่สิ้นกิเลส มีตัณหาราคะ มีความอยากในกามเหมือนคนทั่วไป ยิ่งมียศมีตำแหน่งมีเงินกิเลสก็หนา ต่อให้มีกฎหมายลงโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิตหรือตัดอวัยวะเพศทิ้ง คิดว่าจะแก้ปัญหาเรื่องพระเสพสังวาสกับสีกาได้จริงหรือ? ขนาดมีกฎหมายห้ามข่มขืนกระทำชำเรา โทษหนักๆ ทั้งนั้น ยังข่มขืนกันได้อยู่ทุกวี่ทุกวัน
“เอาล่ะ… แม้จะมีกฎหมายออกมาก็อย่าไปคาดหวังว่าเรื่องอย่างสีกากอล์ฟสีกาเก็น และเจ้าคุณเจ้าคณะชั้นราชชั้นเทพชั้นธรรมจะหมดไป มันอาจจะลามไปถึงชั้นพรหมหรือชั้นอื่นๆ ต่อไปก็ได้ ใครจะไปรู้… เราคาดหวังในตัวพระสงฆ์ไทยกันเกินไปว่าท่านจะสิ้นกิเลส หมดโลภโกรธหลง หมดความต้องการทางเพศ… จริงๆ ก็อาจจะมีบ้างเมื่อท่านเป็นพระชราหมดเรี่ยวหมดแรงหมดความแข็งความขลัง แต่นอกนั้นก็มีตัวอย่างเจ้าคุณชั้นเทพชั้นธรรมอายุ 60-70 ปีให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว ตราบใดที่ยังมีอวัยวะเพศ เรื่องปาราชิกของพระและสีกาก็ยังจะเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนคนมีให้เห็นเป็นข่าวอยู่ต่อๆไป… ก็อยากจะบอกรัฐมนตรี สำนักพุทธฯ และญาติโยมทั้งหลายว่าอย่าคาดหวังกันเกินไป เดี๋ยวจะต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก และพึงรู้ไว้ว่า…”
“หนองน้อยเท่ารอยตีนโค ใครหรือจะโผข้ามพ้น พระอริยะผู้วิเศษรู้เหตุและรู้ผล ถ้าข้ามไม่พ้นก็มืดมนอนธการ”
“เห็นมั้ย… โยนีหรืออวัยวะเพศหญิงมันยิ่งใหญ่เหนือเจ้าโลก สตรีคือศัตรูของพรหมจรรย์… แล้วพระสงฆ์องค์ไหนจะก้าวพ้นได้… พุทโธ ธัมโม สังโฆ”
ตัดภาพดูมุมคดีความ “บิ๊กเต่า” ให้ข้อมูลชัดอีก หลังสอบปากคำอดีตผช. เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ
สำหรับการดำนเินคดีและรวบรวมพยานหลักฐานของ “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยหลังสอบปากคำอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ พบพระชั้นผู้ใหญ่มีความสัมพันธ์ “สีกา ก.” เพิ่มขึ้นตลอด ไม่มีลด โดยบิ๊กสีกากียังบอกด้วยว่านาทีนี้ตนและทีมสืบฯ พยายามเชิญอดีตพระเข้าให้ปากคำต่อเนื่อง
ส่วนสาเหตุหรือปัจจับยหลัก ๆ ซึ่งต้องให้ “อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ” มาพบ ก็เพื่อสอบถามข้อมูลฉาวที่ซ่อนไว้ใต้สบงมีอีกหรือไม่ เนื่องจากอาจเป็นคดีได้จึงต้องพูดคุยสอบถามถึงที่ไปที่มาว่า เหตุใดจึงมีภาพและคลิปหลุดมา
รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายเงินให้สีกา ก. ซึ่งทางตำรวจต้องการข้อเท็จจริง โดยตอนนี้จนท.พยายามเชิญอดีตพระทุกรูปที่ลาสิกขาไปแล้วและมีความพร้อมเข้าให้ข้อมูลทั้งหมด
สำหรับพระชั้นผู้ใหญ่ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวและมีสัมพันธ์กับสีกา ก. ได้มีการสืบสวนหาข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
อัปเดตล่าสุดนั้นจากปากของบิ๊กเต่าเองตอบชัดว่าพบมีจำนวนเพิ่มตลอด ไม่มีลด !
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าตัวเลขถึง 20 รูปตามที่สื่อหลายเจ้าประโคมข่าวจริงหรือไม่ “บิ๊กเต่า” ตัดบทสั้น ๆ ว่า ไปเอามาจากไหน ตอนนี้ยอดยังไม่นิ่ง
ทั้งนี้กรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติเดินทางเข้าพบเพื่อหารือกับสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ณ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหารวานนี้ (12 ก.ค.) จากรายงานระบุว่า เพื่อให้พระชั้นผู้ใหญ่มีส่วนร่วมจัดการกับปัญหานี้ให้จบโดยเร็ว เพราะก่อนหน้านี้ตำรวจได้ให้โอกาสพระที่เกี่ยวข้องไปสึกแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายรูปที่ยังไม่สึก
บางรูปปล่อยข่าวว่าสึกแต่ก็ยังไม่ได้สึก ตำรวจจึงได้ประสานทั้ง 2 นิกาย คือ มหานิกาย และธรรมยุต เพื่อส่งพยานหลักฐานให้ไปดำเนินการทางวินัยกับพระเหล่านี้
ปมเส้นเงินก็ยิ่งชัด สึกแล้วก็เจอคดีย้อนหลังได้
อ้างอิงรายงานล่าสุดนั้นระบุตรงกันหลายเจ้า เกี่ยวกับการสืบสวนเส้นทางการเงินซึ่ง “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูเกียรติ ระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำควบคู่กันไปและจะบังคับใช้กฎหมายกับทุกคน
“หากใครไม่สึก ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการ” เพราะมีเรื่องเส้นทางการเงินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทุกรูป แม้ว่าจะสึกไปแล้วก็สามารถดำเนินคดีได้ และหากเข้าข่ายการทุจริต ก็จะเป็นมูลฐานคดีฟอกเงิน ซึ่งตำรวจดำเนินการไปเยอะแล้ว และก็พบอะไรเยอะแล้ว เพราะฉะนั้นเชื่อว่าจะมีความชัดเจนในไม่นาน และการตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดนี้ แค่ตำรวจมีหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ 2-3 คดีก็เพียงพอแล้ว เพราะจะเข้าข้อหายักยอกทรัพย์และทุจริต และคนที่รับเงินก็เข้าข่ายสนับสนุนการกระทำความผิด ส่วนกระแสข่าวว่ามีเส้นทางการเงินจากวัดบางแห่งไปถึงสีกากอล์ฟนั้นบอกได้เพียงว่าตำรวจมีพยานหลักฐาน และก็คืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดจักรวาลแซ่บ สีกากอล์ฟ ฟาดทั้งเจ้าคุณ-คนขับรถ ไล่เช็กพระบาปสึกกี่รูป
- เปย์พระเดือนละแสน สีกากอล์ฟ เล่าบาปจีบคนผ้าเหลือง ช่องทางติดต่อแสนง่าย
- บิ๊กเต่า เผย พระผู้ใหญ่ เอี่ยวสัมพันธ์ฉาว สีกากอล์ฟ ทะลุ 20 รูป หนีสึก 5 รูป
ติดตาม The Thaiger บน Google News: