แอบส่อง เศรษฐา ส่งกำลังใจ อุ๊งอิ๊ง สู้ศึกหน้าไหน เชื่อมือทีมเจรจาภาษีทรัมป์

แอบส่อง เศรษฐา ส่งกำลังใจอะไรให้ อิ๊งค์ แพทองธาร สู้ศึกนอก-ใน สถานการณ์เผ็ดร้อนทะลุปรอทรอบด้าน เชื่อมือทีมไทยเจรจาภาษีทรัมป์
แรงใจสำคัญต้องมาชั่วโมงนี้จริง ๆ หลังจากล่าสุด เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ คนนั่งเก้าอี้ก่อนหน้า อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ในนาทีนี้ หล่นให้สัมภาษณ์ถึงเสถียรภาพทางการเมืองซึ่งอุณหภูมิทะลุปรอทไม่หยุด จะยังทำให้พรรคเพื่อไทยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้หรือไม่ ?
เศรษฐา ทวีสิน มองหลายคนพูดไปแล้วเรื่องนี้ แน่นอนการเมืองเป็นส่วนที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ความมั่นใจต่อนักลงทุนและความมั่นใจต่อประชาชนทั่วไป ก็ต้องให้การเมืองมีเสถียรภาพ เรื่องที่ต้องขณะนี้ยังมีเรื่องอีกสองสามเรื่องที่จะต้องเดินไปข้างหน้า อย่างเช่นคดีต่างๆ ที่จะทำให้คน “Wait and see”
เมื่อถามได้ให้กำลังใจ อุ๊งอิ๊ง ชินวัตร ที่ตอนนี้สวมบทรัฐมนตรีว่าการกระทรวง วัฒนธรรมที่เจอทั้งศึกนอกและศึกในอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยและบอกให้ลุกขึ้นสู้ ท่านเองก็กำลังใจเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว แล้วตนเชื่อว่าท่านก็สู้อยู่แล้ว
ส่วนกรณี อนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจ ระบุว่าที่นักท่องเที่ยวจีนหายเพราะรัฐบาลจะเดินหน้าโครงการเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งมีกาสิโนรวมอยู่ด้วย
ประเด็นนี้ล่าสุด นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องจริง แล้วกาสิโนยังไม่เกิด นักท่องเที่ยวจะเป็นห่วงเรื่องนี้ได้อย่างไร ! เมื่อวานนี้ แพทองธารก็เคลียร์ชัดแล้วว่า เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ต้องมีความเข้มในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น ขณะที่เมื่อสามวันก่อน นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ไปลงพื้นที่สุขุมวิทเพื่อดูแลในเรื่องนี้ ซึ่งคิดว่าน่าจะทำเป็นสุขุมวิทโมเดล ซึ่งจะมีการจัดระเบียบในเรื่องของแผงลอย
สินค้าที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเซ็กส์ทอย ยาเสพติด กัญชา เรื่องเหล่านี้เป็นอีกหลายเรื่องที่นักท่องเที่ยวเฝ้าดูอยู่ ซึ่งโมเดลนี้จะกระจายไปอีกในหลายพื้นที่ อย่างเช่นประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ที่ ถ.บางรา ป่าตอง จ.ภูเก็ต รวมถึงเยาวราชด้วย เพราะเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว
มีการถามว่า ขณะนี้ “แพทองธาร” ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นหลังจากนี้จะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไร ? หากมีนายกฯ คนต่อไปมาจากพรรคเพื่อไทย
นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่ามองข้ามช็อต ขณะนี้ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมทำงานไปก่อน ขณะที่นางสาวแพทองธารเตรียมข้อชี้แจง แต่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมีสามคน คือนายชัยเกษม นิติสิริ
ส่วนได้มีการพูดคุยกับนายชัยเกษมบ้างหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดคุย แต่ครั้งล่าสุดที่เจอคือในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย แค่ทักทายสวัสดี แต่ท่านยังดูแข็งแรงและสดชื่นดี
เมื่อถามถึงกรณีที่ปรากฏภาพนายชัยเกษมออกมาตีกอล์ฟนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า นายชัยเกษมก็ตีกอล์ฟอยู่เป็นประจำ และตีเก่งอยู่แล้ว แต่ที่มีการปรากฏภาพเพราะมีคนนำภาพไปโพสต์
กรณีเตรียมแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเศรษฐาส่ายหัว พร้อมกับกล่าวสั้นๆ ว่า “ตนไม่ทราบครับเรื่อง ขอบคุณครับ สวัสดีครับ” พร้อมกล่าวถึงการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกา ไทยยังมีหวังที่จะลดลงต่ำกว่า 36% หรือไม่ว่า ขณะนี้ไทยมีเวลาถึง 1ส.ค.68 ส่วนตัวเชื่อว่า นายพิชัย ชุณหวัชระ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมทีม ไทยแลนด์ จะต้องมีการหารือกันอย่างขะมักเขม้น เพื่อให้ไทยได้อัตราภาษีที่ดีขึ้น ซึ่งส่วนตัวได้มีการพบเจอกับปลัดกระทรวงพาณิชย์ และได้รับคำยืนยันว่า “สู้อย่างเต็มที่”
เศรษฐา กล่าวอีกว่า ส่วนตัวเชื่อว่ายังมีความหวัง เพราะไทยยังมีหลายอย่างที่ต้องให้กับทางสหรัฐได้อยู่ โดยสิ่งที่ไทยมีแต้มต่อในการต่อรองลดภาษีนั้น จะต้องดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง จำนวนสินค้าในหมวดต่างๆ ตรงไหนที่ให้สหรัฐแล้วไม่ต้องเสียภาษีที่มากมาย แต่สำคัญที่สุด ทีมงานทุกกระทรวงไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตร กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI จะต้องมานั่งพูดคุยกัน มีสิ่งไหนที่เกี่ยวข้อง เสียงจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่าให้เสียงแตก เพื่อให้สหรัฐพอใจ
รวมทั้งยังมีอีกหลายเรื่อง อาทิ
“นอนคาร์ริค” (การหลีกเลี่ยงภาษี) ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ “คาร์ริค” (การเสียภาษีเงินได้) ขั้นตอนของศุลกากรที่ยังคงมีปัญหา การสวมสิทธิ์ต่างๆ เป็นเรื่องที่ไทยต้องให้ความกระจ่างในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐยังคง จัดเก็บภาษีไทยอยู่ที่ร้อยละ 36 สิ่งที่จะกระทบตามมาก็คือ กลุ่มเป้าหมาย ที่อย่างน้อยอาจหารเข้าเวียดนามอย่างน้อยร้อยละ 20 และสหรัฐจัดเก็บในอัตราที่สูงย่อมจะส่งปัญหา เพราะหลายอุตสาหกรรมที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาในประเทศไทย ก็หวังว่าไทยจะไม่เสียเปรียบเพื่อนบ้าน แต่แน่นอนว่าไทยยังมีข้อได้เปรียบอีกหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ชีวิตที่ปลอดภัยและต้นทุนต่ำ “low cos save living” มีระบบภาษีที่ชัดเจนกว่า และมีระบบราชการที่ดูแลนักลงทุนอย่างเป็นธรรม ดังนั้น ส่วนตัวเชื่อว่ามีหลายประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเลข แต่นอนนอนว่าตัวเลขต้องใกล้เคียงกันถึงจะมาพูดคุยกันได้.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เอนฯ คอมเพล็กซ์ทำเดือด ทักษิณ อัดแรง อนุทิน มั่นตนยังมีประโยชน์
- เศรษฐา ร่วมงานสมรสเท่าเทียม เชื่อดันเศรษฐกิจสีรุ้ง ดึง นทท.ทั่วโลก
- ไหนว่าข่าวลือ ย้อนคำพูด แพทองธาร-พิชัย หลัง สหรัฐฯ ร่อนจดหมาย รีดภาษี 36%
ติดตาม The Thaiger บน Google News: