ข่าวการเมือง

เพจดังถาม ทำไม “ชัยชนะ เดชเดโช” ถึงได้เป็น รมช. มีคดีทำร้ายร่างกาย

เพจดังถาม ทำไม “ชัยชนะ เดชเดโช” ถึงได้เป็น รมช.สาธารณสุข หลังมีคดีทำร้ายร่างกายนักธุรกิจกลางงานบวช เมื่อวันที่ 23 พ.ค.

เพจ CSI LA ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กตั้งคำถามถึงตัวของ ชัยชนะ เดชเดโช ว่า “ตั้งคำถามถึงสังคม — แต่จี้ตรงถึงรัฐบาลแพทองธา ทำไม “ชัยชนะ เดชเดโช” ถึงได้เป็น รมช.สาธารณสุขคนใหม่? ทั้งที่เพิ่งมีคดี ทำร้ายนักธุรกิจกลางงานบวช เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา!

คนแบบนี้… ผ่านจริยธรรมรัฐมนตรีได้ยังไง? นี่หรือคือคนที่จะมากำกับดูแลสุขภาพของประชาชน?”

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงวันที่ 24 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา นายเชาว์ มีขวด ทนายความ อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.อรัญญา จันทดี ทนายความของนายนเรศ ผู้เสียหาย ที่ถูกนายชัยชนะ เดชเดโช สส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กับพวกรุมทำร้ายร่างกายกลางงานบวช ที่ อบต.ควนพัง จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ขอให้สอบสวนพฤติกรรม นายชัยชนะว่ามีการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง จากกรณีรุมทำร้ายนักธุรกิจท้องถิ่นกลางงานบวช และพยายามใช้ตำแหน่งกดดันให้ถอนแจ้งความ

นายเชาว์ กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 23 พ.ค.68 ซึ่งมีทั้งบันทึกประจำวัน คลิปเสียง และพยานแวดล้อมครบถ้วน แต่ผู้เสียหายถูกกดดันอย่างหนักให้ถอนแจ้งความ ทั้งจากครอบครัวของผู้ก่อเหตุ และจากการใช้อิทธิพลในพื้นที่ และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่นายชัยชนะตกเป็นข่าวข่มขู่คู่แข่งทางการเมืองในช่วงเลือกตั้ง โดยมีหลักฐานอีกคดีที่ถูกแจ้งแล้วแล้วถอนในลักษณะคล้ายกัน เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

โดยนายชัยชนะได้ข่มขู่นายณัฐวัฒน์ (สงวนนามสกุล) ว่าถ้าเจอที่ไหนจะทำร้ายถึงแก่ชีวิต ซึ่งได้มีการแจ้งความเป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช แต่ต่อมามีการถอนแจ้งความอ้างว่าเป็นการเข้าใจผิด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการที่นายชัยชนะไปพูดคุยให้ถอนแจ้งความ

“พฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องเฉพาะบุคคลอีกต่อไป แต่สะท้อน ปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่นักการเมืองบางคนใช้ตำแหน่งและอิทธิพลคุกคามคู่แข่งและปิดปากเหยื่อ เพื่อรักษาฐานอำนาจของตนเอง จึงขอให้ ป.ป.ช. เร่งดำเนินการตามมาตรา 234(1) และตรวจสอบว่าพฤติกรรมดังกล่าวว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงตามข้อ 12 และ 17 หรือไม่ และประชาชนควรได้เห็นว่าสภาฯ คือที่รวมของ “ผู้แทนราษฎร” ไม่ใช่ “ผู้มีอิทธิพล” และตำแหน่งประธานกมธ.ตำรวจ ต้องไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือกันคดีให้ใคร”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx