หลวงตาสุจ เหยียบแผ่นดินกัมพูชาแล้ว ฮุน มาเนต ต้อนรับอบอุ่น สานสัมพันธ์ธรรมะ

หลวงตาสุจ เดินทางถึงกัมพูชาแล้ววันนี้ หลังจากนายกฯ ฮุน มาเนต ออกประกาศเชิญชวนผู้ที่ถูกเลือกปฏิบัติในไทยมาพำนัก กัมพูชาหวังใช้ Soft Power ดึงคนไทยเชื้อสายเขมร
(วันที่ 2 กรกฎาคม 2568) หลวงตาสุจ หรือ พระมหานรินธร ปสนฺโน เดินทางถึงประเทศกัมพูชาแล้ว การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ สมเด็จฯ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกประกาศเชิญชวนท่าน และชาวกัมพูชาคนอื่น ๆ ที่รู้สึกว่าถูกเลือกปฏิบัติในประเทศไทย ให้สามารถเดินทางมาพำนักในกัมพูชาได้ทุกเมื่อ
การเดินทางมาถึงของหลวงตาสุจในวันนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากแถลงการณ์ของ ฮุน มาเนต ที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประกาศเชิญชวนอย่างเปิดเผยและอบอุ่น โดยระบุว่า “ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลกัมพูชา และในฐานะส่วนตัวของข้าพเจ้า ขอต้อนรับหลวงตาสุจอย่างอบอุ่นทุกเวลา”

“คำเชิญนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่หลวงตาสุจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพระภิกษุ แม่ชี หรือพลเมืองกัมพูชาท่านใดก็ตาม ที่ถูกเลือกปฏิบัติเพียงเพราะอัตลักษณ์ความเป็นเขมรของตน หรือเพราะได้แสดงความคิดเห็นสนับสนุนความยุติธรรม ศักดิ์ศรี และการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาอย่างถูกต้อง”

ฮุน มาเนต ได้ย้ำต่อไปว่า บุคคลดังกล่าวจะได้รับการต้อนรับให้กลับมาพำนักอาศัยในกัมพูชาได้เสมอ โดยจะได้รับการโอบอุ้มโดยปราศจากความกลัวว่าจะถูกประหัตประหารหรือเลือกปฏิบัติ ท่านยังให้คำมั่นสัญญาว่า รัฐบาลกัมพูชาจะไม่เนรเทศหรือส่งมอบพลเมืองกัมพูชาคนใดให้แก่ต่างประเทศภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ และสำหรับหลวงตาสุจ คาดว่าท่านจะเข้าพำนัก ณ วัดนาควัน ในกรุงพนมเปญ

สำหรับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นการใช้ Soft Power ของฝ่ายกัมพูชา โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งสารไปยังกลุ่มคนไทยเชื้อสายเขมรที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากในจังหวัดชายแดนของไทย เช่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ ว่ารัฐบาลกัมพูชาพร้อมที่จะให้การคุ้มครอง หากพวกเขารู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในประเทศไทย ซึ่งอาจนำไปสู่ประเด็นที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้นในความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โดนแล้ว “หลวงตาสุจ” มีมติขับพ้นวัด เหตุยุยงให้เกิดความแตกแยก
- “ฮุน มาเนต” อ้าแขนต้อนรับ “หลวงตาสุจ” เจ้าตัวลั่นขอตายในกัมพูชา
- หลวงตาสุจ ไลฟ์เดือด เกลียดคนสุรินทร์ ยุทหารเขมรยิงทิ้ง ชาวบ้านซัดแรง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: