ผู้เชี่ยวชาญเผย คนญี่ปุ่นนิยม “บ้านที่มีคนตาย” มากขึ้นเรื่อยๆ เหตุราคาอสังหาฯพุ่งสูง

ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นเชื่อ คนนิยมบ้านที่มีคนตายมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ราคาบ้านพักพุ่งสูงขึ้น สะท้อนปัญหาเศรษฐกิจ
รายงานจากสื่อในญี่ปุ่นระบุว่า ที่ญี่ปุ่นตอนนี้ได้มีกระแสนิยมใน บ้านจิโกะบุคเคน (Jiko Bukken) มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบ้านประเภทนี้คือบ้านที่เคยมีเหตุไม่ดีเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คนฆ่าตัวตาย การตายแปลกๆ เหตุฆาตกรรม ป่วยตาย แก่ตายในบ้าน หรือมีผี
โอคุมะ อากิระ ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เชี่ยวชาญด้านบ้านประเภทนี้ได้ระบุว่า บ้านเหล่านี้ที่พบไดเบอลที่สุดคือบ้านที่มีประวัติการเสียชีวิตแบบโดดเดี่ยวทางสังคม ซึ่งไม่พบศพของผู้อยู่อาศัยมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว และบ้านมีความทรุดโทรมพอที่จะต้องทำความสะอาดเป็นพิเศษ หรือเปลี่ยนพื้นและวอลเปเปอร์
อย่างไรก็ตาม แม้บ้านประเภทนี้จะมาพร้อมกับตราบาปทางสังคม แต่นั่นถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ซื้อที่เต็มใจจ่ายเงิน เพราะได้ส่วนลดจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะกับบ้านที่เกิดฆาตกรรม
นายหน้ารายหนึ่งได้ยกตัวอย่างบ้านหลังหนึ่งที่กำลังมีคนทำความสะอาดอยู่นี้มีราคาประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นบ้านที่มีคนเสียชีวิต และต้องปรับปรุงใหม่ก่อนที่จะส่งมอบให้กับเจ้าของใหม่ และการลดราคาแบบนี้ก็ดึงดูดผู้ซื้อ และมีแนวโน้มที่จะมีคนเข้ามาซื้อมากขึ้น
ผศ.ซาดายูกิ ไทสึเกะ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซโจในกรุงโตเกียว และเป็นผู้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของการเสียชีวิตดังกล่าวต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ได้เผยว่า ทัศนคติของญี่ปุ่นต่อความตาวนั้นถูกหล่อหลอมจากความเชื่อของศาสนาชินโต ที่เมื่อคนๆหนึ่งเสียชีวิตด้วยความเสียวจ วิญญาณของคนๆนั้นจะยังอยู่ในโลก โดยมักจะอยู่ในสถานที่ที่เขาเสียชีวิต และจะกลายเป็นผีที่คอยเก็บเคียดแค้นหรือจมอยู่กับความโศกเศร้า
ความกลัววิญญาณที่คอยหลอกหลอนอย่างแพร่หลายนี้เองที่ทำให้ โคดามะ คาซูโตชิ ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจล่าผี โดยทำการสำรวจเพื่อยืนยันว่าทรัพย์สินนั้น ๆ มีสิ่งที่เหนือธรรมชาติหรือไม่
เขาได้บอกว่า เขาใช้เวลา 8 ชั่วโมงที่สถานที่แห่งหนึ่ง ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ถึง 06.00 น. เพื่อทำการสำรวจวิดีโอ เสียง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อุณหภูมิและความชื้น ความกดอากาศ และใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนเพื่อยืนยันว่าไม่มีสิ่งใดอยู่ในบริเวณดังกล่าว
อย่างบ้านที่ผู้เชี่ยวชาญรายนี้กำลังดำเนินการอยู่นั้นมีประวัติอันน่าสยดสยอง เมื่อ 7 ปีก่อน หญิงชราคนหนึ่งผูกคอตายในห้องน้ำ และเมื่อปีที่แล้ว ลูกชายของเธอเสียชีวิตเพียงลำพัง โดยไม่มีใครพบศพของเขาเป็นเวลาประมาณ 10 วัน
ถึงอย่างนั้น โคดามะ เชื่อว่าบ้านหลังนี้อาจจะหาเจ้าของใหม่ได้ เพราะราคาอสังหาริมทรัพย์กำลังพุ่งสูงขึ้น ดังนั้นผู้คนจึงอยากซื้อในราคาที่ถูกที่สุดเท่าที่จะทำได้ และตัวเขาก็คิดว่านั่นจะทำให้อสังหาริมทรัพย์ที่ถูกมองในแง่ลบนี้เป็นอีกตัวเลือกสำหรับเขา
ปัจจุบัน ราคาอสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนจากต่างประเทศก็เข้ามาซื้อมากขึ้นเพราะค่าเงินเยนอ่อนตัว และบ้านในญี่ปุ่นมีราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
ยกตัวอย่างเช่น จากข้อมูลของบริษัทวิจัยอสังหาริมทรัพย์ ราคาเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมมือสองขนาด 70 ตารางเมตรใน 23 เขตของกรุงโตเกียว พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 1 ใน 3 ในเดือนพฤษภาคมจากปีก่อนหน้า เป็น 100.9 ล้านเยน (ราว 22.8 ล้านบาท)
ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับปัญหาประชากรสูงวัยอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากการแยกตัวจากสังคม หรือที่เรียกว่า “โคโดะคุชิ” (Kodokushi) เพิ่มมากขึ้น รายงานฉบับแรกของหน่วยงานนโยบายแห่งชาติเกี่ยวกับปัญหานี้ระบุว่า เมื่อปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตเกือบ 21,900 ราย ที่ไม่มีใครพบศพเลยเป็นเวลา 8 วันหรือมากกว่านั้น และนายหน้าอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่าจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่มีประวัติเช่นนี้จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ
สถานการณ์นี้หมายถึงตลาดของอสังหาริมทรัพย์ประเภทจิโกะบุคเคนกำลังเติบโต ขณะเดียวกันก็มีการเสนอบริการเฉพาะทางสำหรับบ้านประเภทดังกล่าว เช่น โจบุตสึ ฟูโดซัง หรือ “นิพพาน เอสเตท เอเจนซี” ซึ่งเสนอบริการต่างๆ รวมถึงพิธีเชิญวิญญาณที่สูญหาย ที่จัดขึ้นโดยพระภิกษุสงฆ์ในศาสนาพุทธ
ซาโตะ ยูกิ ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า จากมุมมองของนักลงทุน พวกเขาสามารถซื้อบ้านประเภทดังกล่าวได้ในราคาถูก เพราะพวกเขาไม่ได้ต้องการจะเข้าไปอาศัยอยู่ที่นั่น จึงทำให้พวกเขาไม่รู้สึกกังวล
อ้างอิง : www.businesstimes.com.sg
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ทรัมป์” โวย “ญี่ปุ่น” ดื้อด้านไม่ยอมซื้อข้าวสหรัฐฯ ขู่ตั้งกำแพงภาษี
- ลงดาบ ครูญี่ปุ่น ใช้ “ของเหลว” ป้ายเครื่องดนตรีนักเรียน ทำอนาจาร
- ญี่ปุ่นประหารชีวิต “นักฆ่าทวิตเตอร์” ลวงเหยื่อไปฆ่าก่อนหั่นร่าง 9 ศพ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: