ประวัติ แอนนา วินทัวร์ ในวันลงจากตำแหน่ง บรรณาธิการบริหาร Vogue สหรัฐฯ

ประวัติ แอนนา วินทัวร์ (Anna Wintour) ตำนานแห่งวงการแฟชั่น ประกาศก้าวลงจากตำแหน่งบรรณาธิการบริหารนิตยสาร Vogue ฉบับอเมริกัน หลังดำรงตำแหน่งยาวนานเกือบ 4 ทศวรรษ หลังจากนี้ จะมีการแต่งตั้งผู้สืบทอดในตำแหน่งใหม่ชื่อว่า หัวหน้าฝ่ายเนื้อหาบรรณาธิการ (Head of Editorial Content)
ข่าวแอนนา วินทัวร์ ลาออก เปิดเผยกับพนักงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แม้จะลงจากตำแหน่งสูงสุดของ Vogue สหรัฐฯ แต่ วินทัวร์ จะยังคงมีบทบาทในวงการต่อไป เธอจะดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการด้านเนื้อหาระดับโลกของ Vogue และ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเนื้อหาระดับโลกของ Condé Nast ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของนิตยสารแฟชั่นชั้นนำอีกหลายฉบับทั่วโลก อาทิ Vanity Fair, Wired, GQ, Architectural Digest, Bon Appétit และ Condé Nast Traveler
แอนนา วินทัวร์ เข้ารับตำแหน่งบรรณาธิการบริหารของ Vogue สหรัฐฯ ครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน ปี 1988 พร้อมสร้างปรากฏการณ์ด้วยการนำเสนอปกนิตยสารที่แหวกขนบแฟชั่นสุดหรู โดยใช้ภาพของนางแบบชาวอิสราเอล “มิคาเอลา เบอร์คู” (Michaela Bercu) ที่สวมกางเกงยีนส์ซีด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ “ยีนส์” ได้ปรากฏบนหน้าปก Vogue
หลังจากนั้น แอนนา วินทัวร์ยังพลิกโฉม Vogue ด้วยการฉีกกรอบรูปแบบเดิมๆ เช่น การเลิกใช้ภาพพอร์ตเทรตสตูดิโอแบบดั้งเดิม แล้วหันมาใช้ภาพถ่ายกลางแจ้งที่ดูสบายและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ในปี 1992 แอนนา ยังกล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ 100 ปีของนิตยสาร ด้วยการวาง ริชาร์ด เกียร์ นักแสดงชื่อดัง ลงบนปกเคียงข้าง ซินดี้ ครอว์ฟอร์ด ภรรยาในขณะนั้น นับเป็นครั้งแรกที่ Vogue อเมริกันมีผู้ชายบนปก
แม้ตำแหน่งของ แอนนา วินทัวร์ จะเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ การเปลี่ยนผู้นำครั้งนี้ถือเป็น “แรงสั่นสะเทือน” ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของ Vogue สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นสื่อแฟชั่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักบรรณาธิการแฟชั่นรุ่นใหม่ที่จะเข้ามานำทิศทางใหม่ให้กับแบรนด์ระดับตำนานนี้
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2023 Chioma Nnadi ได้สร้างประวัติศาสตร์ในวงการ ด้วยการเป็น ผู้หญิงผิวดำคนแรก ที่รับตำแหน่งบรรณาธิการบริหารของ British Vogue สืบต่อจาก Edward Enninful บรรณาธิการคนผิวดำคนแรกของนิตยสารดังกล่าวที่ดำรงตำแหน่งนานถึง 6 ปี
แอนนา วินทัวร์ ต้นฉบับตัวจริงของ “มิแรนด้า พรีสท์ลี่” จาก The Devil Wears Prada ที่โลกแฟชั่นต้องยอมศิโรราบ
“ทุกคนอยากเป็นเรา” ประโยคสุดทรงพลังของ มิแรนด้า พรีสท์ลี่ จากภาพยนตร์นางมารสวมปราด้า The Devil Wears Prada อาจฟังดูเป็นเพียงบทหนังที่เขียนขึ้นเพื่อสะกดใจคนดู แต่ใครจะรู้ว่าประโยคนั้นมีรากฐานมาจาก “ของจริง”… หญิงแกร่งที่ยืนหนึ่งในวงการแฟชั่นมายาวนานเกือบ 40 ปี
แอนนา วินทัวร์ ไม่ใช่แค่บรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นทั่วไป แต่เธอคือ “ผู้ทรงอิทธิพลสูงสุด” ของโลกแฟชั่นมายาวนานนับตั้งแต่ก้าวขึ้นเป็นบรรณาธิการบริหาร Vogue ฉบับอเมริกันในปี 1988 ด้วยวิสัยทัศน์เฉียบคม ตัดสินใจเฉียบขาด กล้าในการปฏิวัตินิยามของความงาม
ฉบับเปิดตัวในฐานะบก. แอนนาไม่ได้เลือกนางแบบผิวขาวตาฟ้าใส่ชุดหรูริมรันเวย์ แต่คือ Michaela Bercu นางแบบชาวอิสราเอลในเสื้อยืดคริสเตียนดิออร์คู่กับกางเกงยีนส์ซีด ใช่, ยีนส์! นี่คือครั้งแรกที่ Vogue ยอมให้กางเกงยีนส์ขึ้นปก นับเป็นสัญญาณของยุคใหม่ที่แอนนาพร้อมเขย่าวงการ
ผู้ชมจำนวนไม่น้อยต่างเข้าใจตรงกันว่า มิแรนด้า พรีสท์ลี่ ในหนังปี 2006 เป็นตัวละครสมมุติที่สร้างขึ้นเพื่อดราม่า แต่ความจริงแล้ว ตัวละครนี้มีต้นแบบ แรงบันดาลใจมาจาก แอนนา วินทัวร์
ลอเรน ไวส์เบอร์เกอร์ ผู้เขียนนิยายต้นฉบับเคยทำงานเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของวินทัวร์มาก่อน ได้นำประสบการณ์การทำงานในโลกแฟชั่นอันแสนเข้มข้น มาถ่ายทอดเป็นเรื่องราวของ แอนเดรีย ซัคส์ เด็กฝึกงานสายตาใส ที่ต้องเผชิญกับเจ้านายสุดโหดในสำนักงานนิตยสาร Runway (ซึ่งก็คือ Vogue ในโลกจริง)
แม้จะไม่ได้กล่าวชื่อโดยตรง แต่วงในแฟชั่นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “นั่นมันแอนนา วินทัวร์ ชัด ๆ!”
แอนนา วินทัวร์ขึ้นชื่อเรื่องลุคที่ไม่เคยเปลี่ยน แว่นกันแดดดำสนิท, ทรงผมบ็อบแสกกลางตัดเป๊ะ และสายตาเยือกเย็นที่มองเพียงครั้งเดียว ก็รู้ได้ทันทีว่า “ผ่าน” หรือ “ตก”
ในโลกของแอนนา ไม่มีพื้นที่สำหรับความลังเล หรือการครึ่ง ๆ กลาง ๆ ทุกคำตัดสินสามารถส่งนักออกแบบให้ขึ้นสู่ยอด หรือจมดิ่งสู่การลืมเลือนได้ในพริบตา นักออกแบบแฟชั่นหลายคน จาก Marc Jacobs ถึง Alexander McQueen ล้วนเคยได้รับแรงหนุนจากวินทัวร์ตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม เธอเชื่อในพรสวรรค์ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ใช้ Vogue เป็นเวทีเปิดทางให้ เสียงคนรุ่นใหม่ ได้ถูกรับฟังในโลกแฟชั่น
แน่นอน, ไม่มีใครไม่รู้จัก “Met Gala” งานแฟชั่นแห่งปีที่เธอเป็นผู้จัดหลักอย่างไม่เป็นทางการ ที่งานนี้ เธอไม่ใช่แขก แต่คือเจ้าของงาน ที่สามารถระดับทุนจากโลกแฟชั่นได้ปีละหลักพันล้านบาท
มิแรนด้า กับ แอนนา คนจริงโหดเหมือนในหนังไหม
แม้คนทั่วไปจะจดจำเธอว่าเย็นชา ห่างไกลความเป็นกันเอง แต่คนที่เคยทำงานกับวินทัวร์จริง ๆ หลายคนกลับบอกว่า เธอเป็นเจ้านายที่มีมาตรฐานสูงแต่ยุติธรรม และพร้อมสนับสนุนคนที่ตั้งใจจริง
แอนนาไม่ใช่ “ปีศาจ” อย่างที่หนังพยายามนำเสนอ หากแต่เป็นนักบริหารที่มีเป้าหมายชัดเจน และไม่ปล่อยให้อะไรมาขวางเส้นทางความสมบูรณ์แบบ
ในปี 2025 วินทัวร์ประกาศลงจากตำแหน่งบรรณาธิการบริหาร Vogue สหรัฐฯ โดยจะยังคงดำรงตำแหน่งระดับโลกใน Condé Nast และ Vogue ทั่วโลก เป็นสัญญาณของยุคใหม่ที่กำลังจะมาถึง
อุตสาหกรรมแฟชั่นที่เคยวิ่งตามสายตาของเธอกำลังจะมีโอกาสนิยามตัวเองใหม่ และในขณะเดียวกัน โลกก็กำลังรอคอยว่าใครจะเป็น “มิแรนด้า” คนต่อไป
แอนนาไม่เพียงแต่สร้างนิยามใหม่ให้กับนิตยสาร Vogue แต่ยังหล่อหลอมภาพลักษณ์ของ หญิงเก่งในโลกแห่งการแข่งขัน ที่คนทั้งโลกรู้จัก พิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องยิ้มตลอดเวลา ไม่ต้องประนีประนอมเพื่อให้ใครพอใจ แต่สามารถ “ยืนหนึ่ง” ได้ด้วยความสามารถ ความกล้า และความมั่นใจในวิสัยทัศน์ของตนเอง
เพราะฉะนั้น ถ้าคุณเคยรู้สึกสะเทือนใจกับคำพูดของมิแรนด้าในหนัง ลองมองอีกมุมว่า เบื้องหลังความเย็นชานั้น คือผู้หญิงที่เปลี่ยนแปลงโลกแฟชั่นทั้งใบ และชื่อของเธอคือ แอนนา วินทัวร์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พาไปรู้จัก งาน Met Gala คือ อะไร จัดขึ้นที่ไหน เพื่ออะไร มีคำตอบ
- ลิซ่า เดินพรมแดง Met Gala 2025 สวมชุดสั่งตัด LV เซ็กซี่ขยี้พรมแดง
- เปิดราคาชุด “ลิซ่า Met Gala” ไอเทมแฟชั่น-เครื่องเพชร มูลค่าช็อกโลก
ติดตาม The Thaiger บน Google News: