ข่าวต่างประเทศ

กัญชาเสรี ไทย อวสาน หลังอังกฤษบีบหนัก พบทะลักเข้า ประเทศพุ่งกระฉูด

รัฐบาลไทย ยกเลิกนโยบายกัญชาเสรี หลังเผชิญแรงกดดันหนักจากอังกฤษ ที่พบการลักลอบขนกัญชาจากไทยโดยนักท่องเที่ยว จำนวนมหาศาล

ยุคสมัยแห่งกัญชาเสรีในประเทศไทยดูเหมือนจะใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เมื่อล่าสุดรัฐบาลได้เห็นชอบมาตรการใหม่ที่จะกลับมาควบคุมการใช้กัญชาอย่างเข้มงวด โดยจำกัดให้ใช้ได้เฉพาะผู้ที่มีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยังได้กล่าวว่า กัญชาจะถูกนำกลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง

จากท่าทีนี้เกิดขึ้นหลังจากมีแรงกดดันอย่างหนักจากสหราชอาณาจักร ซึ่งกำลังเผชิญกับปัญหากัญชาจากไทยที่ทะลักลอบเข้าประเทศเป็นจำนวนมหาศาล โดยพบว่ามีกัญชาจากไทยถูกลักลอบนำเข้าประเทศเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยขบวนการค้ายาเสพติดในอังกฤษมักจะหลอกล่อให้นักท่องเที่ยวหนุ่มสาวรับจ้างขนกระเป๋าเดินทางที่อัดแน่นไปด้วยกัญชาจากเที่ยวบินที่เดินทางมาจากประเทศไทย

ไทย กัญชาเสรี
ภาพจาก: พรรคภูมิใจไทย

ข้อมูลจาก หน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติ (NCA) ของอังกฤษเผยสถิติที่น่าตกใจว่า จากปี 2566 ที่สกัดจับผู้ลักลอบขนได้ 142 คน พร้อมของกลาง 5 ตัน ตัวเลขในปี 2567 กลับพุ่งสูงขึ้นเป็น 800 คน พร้อมของกลางถึง 26 ตัน และเฉพาะในปีนี้ มีผู้ถูกตัดสินลงโทษในคดีลักลอบขนกัญชาจากไทยไปแล้ว 173 คน โดยมีโทษจำคุกรวมกันถึง 230 ปี

นับตั้งแต่มีการปลดล็อกกัญชาในปี 2565 ประเทศไทยก็ได้เห็นการลงทุนในธุรกิจนี้อย่างมหาศาล มีร้านจำหน่ายกัญชาที่ขึ้นทะเบียนแล้วประมาณ 11,000 แห่งทั่วประเทศ แต่ปัญหาคือการปลดล็อกดังกล่าวไม่ได้มีกฎหมายควบคุมที่มีประสิทธิภาพตามออกมาด้วย

สส. ที่เคยร่วมร่างกฎหมาย ยอมรับว่า กระบวนการถูกขัดขวางโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมกัญชา ส่งผลให้เกิด สภาวะสุญญากาศทางกฎหมาย ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำกำไรจากกัญชาได้ สถานการณ์นี้ดึงดูดให้กลุ่มทุนอาชญากรข้ามชาติเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานการผลิตขนาดใหญ่ ทำให้ราคากัญชาในประเทศตกต่ำลงอย่างมาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้เกิดขบวนการลักลอบขนส่งไปยังต่างประเทศที่กัญชามีราคาสูงกว่าหลายเท่า

นายทอม เครือโสภณ นักธุรกิจผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้กัญชาถูกกฎหมาย ยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันนั้น ไปไกลเกินไป และสนับสนุนการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นเพื่อให้กลับไปสู่จุดประสงค์ทางการแพทย์ดังเดิม

แต่ในทางกลับกัน กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยกลับมองว่านี่คือ การแก้ปัญหาแบบปฏิกิริยาตกใจ ต่อเสียงวิจารณ์จากต่างชาติ และจะทำลายธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังดิ้นรนจากภาวะกัญล้นตลาดอยู่แล้ว

นายทอม เครือโสภณ นักธุรกิจผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้กัญชาถูกกฎหมาย ยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันนั้น “ไปไกลเกินไป” และสนับสนุนการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นเพื่อให้กลับไปสู่จุดประสงค์ทางการแพทย์ดังเดิม

แต่ในทางกลับกัน กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยกลับมองว่านี่คือ “การแก้ปัญหาแบบปฏิกิริยาตกใจ” ต่อเสียงวิจารณ์จากต่างชาติ และจะทำลายธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังดิ้นรนจากภาวะกัญล้นตลาดอยู่แล้ว คุณคิตตี้ ช่อผกา นักเคลื่อนไหวเพื่อผู้ปลูกรายย่อย กล่าวว่า ที่จริงแล้วรัฐบาลไม่ได้บังคับใช้กฎที่มีอยู่ด้วยซ้ำ ถ้าทำแค่นั้น ปัญหาส่วนใหญ่ก็จะลดลงไปแล้ว

ขณะที่กรมศุลกากรไทยยอมรับว่านี่คือ ช่องโหว่ เนื่องจากบทลงโทษในไทยไม่สูงพอ เมื่อเทียบกับกำไรมหาศาล ทำให้ผู้ลักลอบไม่เกรงกลัว แม้จะถูกจับได้ก็แค่จ่ายค่าปรับแล้วพยายามใหม่อีกครั้ง ทิ้งไว้เพียงกระเป๋าเดินทางของกลางที่อัดแน่นไปด้วยกัญชาสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่กองสะสมอยู่ในสนามบินเป็นจำนวนมาก

ที่มา: BBC

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx