ฮุน เซน คุมทัพเต็มตัว เคลื่อนอาวุธประชิด ไทย ปลุกใจ กำลังพลชายแดน

ฮุน เซน ประกาศรับตำแหน่ง เสนาธิการทหารกัมพูชา พร้อมยืนยันควบคุมสายส่งกำลังบำรุง และเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ประชิดชายแดนไทย พร้อมปลุกใจกำลังพล อย่าได้กลัวการโจมตีจากศัตรูที่มารุกราน
(วันที่ 26 มิถุนายน 2568) สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก รายงานการเดินทางลงพื้นที่ชายแดน จ.อุดรมีชัย เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพล พร้อมประกาศรับตำแหน่งใหม่คือ เสนาธิการทหารกัมพูชา ของกองทัพกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ซึ่งหมายถึงการเข้าคุมสายส่งกำลังบำรุงทั้งหมดของกองทัพด้วยตนเอง และมีรายงานว่า ได้เคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่เข้าประชิดชายแดนไทยแล้ว
ระหว่างการประชุมกับผู้บัญชาการหน่วยทหารในพื้นที่แนวรบที่ 2 และ 3 ณ กองบัญชาการเบาแนวรบที่ 3 เมืองสำโรง จ.อุดรมีชัย ฮุน เซน ซึ่งมียศเป็น จอมพลอาวุโสระดับ 5 ดาว ได้ประกาศว่า รับหน้าที่ เสนาธิการทหารกัมพูชา ตามคำร้องขอของผู้บัญชาการเหล่าทัพ

นายเจีย ธิริธ โฆษกของ ฮุน เซน ชี้แจงว่า การรับตำแหน่งนี้เป็นการยืนยันอย่างชัดเจนจาก สมเด็จฯ ว่าท่านจะให้ความช่วยเหลือแก่กองทัพของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือการรับประกันสายส่งกำลังบำรุงให้แก่กองกำลังของเราที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับศัตรู

สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้กล่าวปลุกใจกำลังพลว่า “ขอให้กองทัพทั้งหลายอย่าได้เกรงกลัวในการโจมตีศัตรูที่มารุกรานเรา” นอกจากนี้ สื่อกัมพูชายังได้ยกย่อง ฮุน เซน ว่าเป็น อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่ใส่ใจกองทัพอย่างที่สุด และเป็นผู้บัญชาการที่เปี่ยมไปด้วยยุทธศาสตร์สงครามเพื่อคว้าชัยชนะในสนามรบ

การเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพ และอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ของกัมพูชา ถูกเคลื่อนย้ายออกจากที่ตั้งมายังจังหวัดตามแนวชายแดนไทย โดยเฉพาะจ.อุดรมีชัยและพระวิหาร
สื่อกัมพูชาระบุว่า การเคลื่อนกำลังพลดังกล่าวเป็นผลโดยตรงหลังจากเกิดเหตุการณ์ ลอบยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้ ทั้งกำลังพลและอาวุธของกัมพูชาได้เตรียมพร้อมรบอยู่ในภาวะเฝ้าระวังสูงสุด เพื่อปกป้องดินแดนในกรณีที่อาจมีการรุกรานใด ๆ จากกองทัพไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ขุดประวัติ ลูกฮุนเซน 5 คน กินรวบอำนาจ ลูกคนโต-นายก คนรองคุมทหาร คนสุดท้องคุมเน็ต
- กองทัพไทย สอยโดรน ร่วง 4 ลำ โผล่ปริศนาชายแดน จันทบุรี-กัมพูชา
- ซาร์ โสกา จวก ไทย เล่นละครตบตา ลั่น เขมรจนกว่า แต่มีศักดิ์ศรีมากกว่า
ติดตาม The Thaiger บน Google News: