ข่าว

แม่ค้าพ้อ โดน MRT เชิญออกจากรถไฟ ปมขนของเยอะเกิน ถกสนั่น สรุปใครผิด

ผู้โดยสารสาวถูกเชิญลงจาก MRT อ้างเหตุสัมภาระเยอะเกินขนาด ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อรายนี้ประกอบอาชีพขายเสื้อผ้า โพสต์เล่าประสบการณ์ไม่พอใจ หลังถูกพนักงานเชิญลงจากรถไฟฟ้า MRT อ้างว่าสัมภาระที่นำมามีขนาดใหญ่เกินกว่าที่กำหนด ทำให้มาโพสต์ถามเรื่องความเหมาะสมของการให้บริการและการตีความกฎระเบียบ

โพสต์ระบุว่า “ล่าสุดคือโดนเชิญให้ออกจากmrt เป็นแม่ค้านี่มันไม่ง่ายเลย

เหตุเกิตคือวันนี้นั่งรถไฟฟ้ากลับจากที่ไปรับเสื้อผ้ามา นั่งbtsมาปุ๊ป บ้านเราต้องต่อmrt เรากับเเม่สองคนก็ลากของใส่รถเข็นจิ๋วมาถึงเคาเตอร์ทางเข้ารถไฟฟ้า คือเข็นลงมาชั้นใต้ดินที่จตุจักรแล้วอ่ะ แต่สรุปคือโดนเชิญออกเพราะว่าของเยอะไป ซึ่งจริงๆเเล้วแม่เราเข็นมาแค่ถุงฟ้าสองถุง ส่วนถุงเหลือง+ถุงฟ้าอีกถุงที่ติ๊กถูกคือเราหิ้วเอง

แบบมันนอยส์มากกกก ชั้นไม่ใช่ลูกค้าหรอ ชั้นไม่ใช่ผู้โดนสารหรอ คือถ้าใส่กระเป๋าเดินทางแบบ29นิ้ว2ใบก็คงผ่านไปได้ แต่มันต่างกันยังไงอ่ะ เสื้อผ้าที่ใส่ถุงก็เก็บแบบเรียบร้อย ไม่ได้เกะกะออกมาเลยด้วยซ้ำ ประเด็นคือแค่นอยส์อ่ะที่มันต่างจากคนลากกระเป๋าเดินทางยังไงทั้งที่ความใหญ่ก็พอกัน เศร้าแล้ว บ้านไกลต้องหาวิธีใหม่เพื่อไปเอาของ ฮือ”

ผู้สื่อข่าวไทยเกอร์ตรวจสอบ ระเบียบการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า MRT ได้กำหนดขนาดสัมภาระที่อนุญาตให้นำติดตัวเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าได้ ต้องมีขนาดไม่เกิน 50 x 50 x50 เซนติเมตร เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารคนอื่น และเพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวก

ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก BKKTrains ได้ออกมาให้ความรู้ถึงกรณีนี้ เรื่องกระเป๋าสัมภาระว่า “ไฟฟ้า MRT ทุกสาย จะมีการประกาศใช้ “กฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ว่าด้วยความปลอดภัยในชีวิต ร่างกายและทรัพย์สิน การรักษาความสงบเรียบร้อย ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย ภายในเขตระบบรถไฟฟ้า พ.ศ. 2547” ซึ่งออกโดยกระทรวงคมนาคม ภายในพื้นที่ระบบรถไฟฟ้า MRT ครับ ซึ่งจะมีข้อความระบุไว้ว่า

หมวด 2 การปฏิบัติตนในเขตระบบรถไฟฟ้า

ข้อ 5 ห้ามมิให้คนโดยสารหรือบุคคลอื่นที่อยู่ในเขตระบบรถไฟฟ้ากระทำการดังต่อไปนี้

(3) นำสัมภาระ หรือสิ่งของติดตัวที่มีขนาดหรือน้ำหนักที่ไม่สามารถนำพาไปด้วยตนเองได้ หรือเสี่ยงต่อความเสียหายแก่ระบบรถไฟฟ้า หรืออาจก่อความรำคาญหรือความไม่สะดวกแก่คนโดยสารอื่น เข้าไปในรถไฟฟ้า

ซึ่งกรณีของเจ้าของโพสต์ เข้าข่ายตามกฎกระทรวงฯ หมวด 2 ข้อ 5 (3) ครับ

และในกรณีนี้ นำไปเทียบกับกรณีของรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวไม่ได้ เนื่องจากเจ้าของโครงการเป็นคนละหน่วยงานกัน มีการประกาศใช้กฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ คนละตัวกัน ซึ่งอาจจะมีรายละเอียดไม่เหมือนกันครับ

—-

ทำไมถึงเทียบกับกระเป๋าเดินทางไม่ได้?

กระเป๋าเดินทางจะถูกนับเป็นสัมภาระ 1 ชิ้น มีความแข็งแรง ไม่แตกหักง่าย มีส่วนควบที่สามารถทำให้ลากหรือเคลื่อนที่ไปได้ง่าย ซึ่งผู้โดยสารที่ถือกระเป๋าเดินทางสามารถบริหารจัดการได้ง่ายกว่า และไม่กีดขวางการใช้บริการของผู้โดยสารท่านอื่นๆ

แต่ในกรณีของในต้นโพสต์ เป็นถุงพลาสติกใส่เสื้อผ้าจำนวน 4 ถุง ซึ่งมีการใส่เสื้อผ้าลงในถุงจนเต็ม ถึงแม้ว่าจะมีการใส่รถเข็นล้อลาก แต่การผูกมัดสัมภาระโดยสารใช้เชือกยางยืด ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการหลุดร่วงออกมาจากรถเข็น และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ เช่น การสะดุดล้มหากถุงเกิดการหล่นร่วงลงมา แก่ผู้โดยสารท่านอื่นได้ รวมทั้ง มีความเสี่ยงจากการฉีกขาดของบรรจุภัณฑ์ (ถุงพลาสติก) ที่จะส่งผลให้สิ่งของด้านในกระจัดกระจายขณะใช้บริการได้ครับ

มีคนบอกว่าใจร้าย แบกของเยอะขนาดนี้ ยังจะเบียดเบียนคนทำมาหากิน …

อยากจะให้ลองพิจารณาเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ที่มีความแข็งแรงมากกว่าถุงพลาสติกดูครับ สะดวกกว่า ปลอดภัยกว่า ไม่เสี่ยงตอการร่วงหล่นของสัมภาระครับ”

อย่างไรก็ดี ใต้โพสต์นี้ก็มีเจ้าของโพสต์เข้ามาตอบเพิ่มว่า “อันนี้คือนั่งbtsเขายังให้ขึ้นเลย แต่มาต่อmrtไม่ได้ ยังดีที่พนักงานไม่ได้พูดจาแย่” ขณะที่ชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย เช่น

“ไม่เห็นด้วย ถ้ากฎไม่ดี ก็ต้องแก้กฎครับ

อธิบายได้มั้ยครับว่า ทำไมของที่ผู้โดยสารถือมาจนมาถึงรฟฟได้ การนำขึ้นรฟฟและพยายามหามุมอยู่เฉยๆ จะเกิดอันตรายยังไง แล้วทำไม bts ใช้ได้ แสดงว่า bts ไม่ปลอดภัยหรอ?? ไม่ควรอ้างแต่กฎกำหนดมา

จริงที่มันก็คงเกิดความรำคาญและไม่สะดวกแก่ผู้โดยสารคนอื่นบ้าง แต่คงไม่ต่างกับคนที่ยืนขวางประตู ไม่เดินเข้าข้างใน คุยโทรศัพท ฯลฯ ที่เจ้าหน้าที่ก็ไม่เห็นสนใจ ถ้าเปลี่ยนเป็นนักท่องเที่ยวลากกระเป๋า 2 ใบ จะเชิญออกเป็นมาตรฐานเดียวกันใช่มั้ย? เค้าอุตส่าห์มีความพยายามใช้ขนส่งสาธารณะก็ไล่เค้าไปนั่งรถเอาอีก”

“พวกนั่งไขว่ห้าง ก็เกะกะนะคะ และไม่มีมารยาทเลย MRT ก็คนแน่นอยู่แล้ว ยังต้องมาระวังพวกนั่งไขว่ห้างอีก”

“มีถุงแค่นี้เค้าบอกเยอะเหรอ.หรือว่าวันนั้นคนมันเยอะเค้าเลยหาข้ออ้างว่สของเราเยอะนะ ที่เห็นมันไม่ได้เยอะเลยนะทำไมเจ้าหน้าที่ใจดำจัง”

“บรรจุภัณฑ์แบบนี้ มันไม่แข็งแรงเท่ากระเป๋าเดินทางนะครับ เอาตรงๆ ดีแล้วเขาไม่ให้ขึ้น ถึงขึ้นมา ผมก็แจ้งพนง. ปล่อยผ่านมาได้ไงกลัวหล่นมาโดน อันตรายมาก ถ้าเกิดถุงขาดมาที สภาพ…. มารยาทควรมีนะครับ”

“อันนี้ไม่เห็นด้วย

1) ผู้โดยสารสามารถเอามาเองได้ ไม่ได้ใหญ่หรือหนักจนไม่สามารถนำพาไปด้วยตนเอง

2) เสี่ยงต่อความปลอดภัย ก็ไม่น่าเสี่ยงอะไร ก็เป็นแค่ถุงใส่ผ้า นักท่องเที่ยว backpacker ถึงจะใหญ่ไม่เท่านี้ แต่สะพายหลังตลอดยังเสี่ยงอันตรายมากกว่า

ทั้งนี้ เรื่องเวลาในการเข้าใช้ก็สำคัญ เพราะหากเอาถุงใหญ่ขนาดนี้ขึ้นรถไฟฟ้าช่วงเร่งด่วน อันนี้ไม่ควรทำ แค่ยืนก็เบียดมากแล้ว มันดูจะรบกวนคนอื่นเยอะไปหน่อย

เรื่องป้ายประกาศ ผมว่าระบุชัดเลยดีกว่า ขนาดเท่าไหร่ถือว่าใหญ่ เพราะผู้โดยสารก็ต้องบอกว่า ไม่ใหญ่เกินไป อยู่แล้ว”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx