ดราม่า ปราสาทตาเมือนธม รัฐไทยยังไม่มีคำสั่งห้ามเข้า หลังนทท.เขมรแห่ขึ้น

ดราม่า ปราสาทตาเมือนธม รัฐไทยยังไม่มีคำสั่งห้ามเข้า หลังนทท.เขมรแห่ขึ้น ภูมิธรรม มอบอำนาจแม่ทัพภาค 2 บัญชาการ
วันที่ 24 มิถุนายน 2568 ทนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงชี้แจงสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หลังนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาจำนวนมากเดินทางมายังบริเวณปราสาทตาเมือนธม ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งห้ามเข้าออกพื้นที่ การตัดสินใจใดๆ ยังคงอยู่ภายใต้อำนาจของกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งเป็นหน่วยประเมินสถานการณ์เบื้องต้นร่วมกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
นายภูมิธรรมระบุว่า ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวสามารถเดินทางเข้าออกได้ทั้งจากฝั่งไทยและกัมพูชา ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือข้อจำกัดใดๆ เว้นแต่จะมีคำสั่งอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ การปฏิบัติทุกอย่างในพื้นที่ชายแดนอยู่ภายใต้การหารือร่วมกันระหว่างกองทัพภาคที่ 1, ภาคที่ 2 และกองกำลังจันทบุรี ทหารได้รับมอบอำนาจให้ประเมินสถานการณ์ตามมติเดิมของ สมช.
ด้านมาตรการป้องกันความปลอดภัย พลเรือนในพื้นที่ชายแดนซึ่งเกิดความวิตกกังวลจากสถานการณ์ล่าสุด รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการจัดทำ “หลุมหลบภัย” เสริมความแข็งแรง พร้อมเตรียมกำลังทหารไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ทั้งนี้ รัฐมนตรีกลาโหมระบุว่า “เราเตรียมความพร้อมมาก่อนหน้านี้กว่า 6-7 เดือนแล้ว” โดยไม่ได้ระบุจำนวนกำลังพลที่แน่ชัด

ในส่วนของข้อพิพาทเกี่ยวกับปราสาทตาเมือนธม นายภูมิธรรมชี้แจงว่า การที่ทางการกัมพูชาระบุว่าพื้นที่เป็นของตนนั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เป็นมุมมองที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์กันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไทยได้ยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการกรณีที่ฝ่ายกัมพูชากระทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่พิพาท ยืนยันว่าต้องไม่แสดงความเป็นเจ้าของในลักษณะดังกล่าว
นายภูมิธรรมปฏิเสธกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ออกมากล่าวหาว่ารัฐมนตรีกลาโหมเซ็นอนุญาตให้ทหารกัมพูชาเข้าประจำการที่ปราสาทตาเมือนธมในที่ประชุม GBC ล่าสุด ตนยังไม่ได้ลงนามใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมย้ำว่าเรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค (RBC) ซึ่งฝ่ายกัมพูชารอการอนุมัติจากสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา
ขณะเดียวกัน กรณีที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายฮุน มาเนต เสนอให้ไทยเปิดด่านก่อนแล้วกัมพูชาจะเปิดตามภายใน 5 ชั่วโมงนั้น นายภูมิธรรมยืนยันว่า “เป็นไปไม่ได้” พร้อมเสนอให้ทั้งสองฝ่ายเปิดด่านพร้อมกันและลดการเสริมกำลังทหารตามแนวชายแดน เพื่อหลีกเลี่ยงความตึงเครียด ซึ่งต้องดำเนินการตามเงื่อนไขร่วมกันภายใต้การหารือของคณะกรรมการ RBC
“การเปิดด่านต้องเกิดขึ้นพร้อมกัน ไม่ใช่เปิดฝ่ายเดียว เพราะตอนนี้สถานการณ์มันสับสน และไม่ควรปล่อยให้การเผชิญหน้าเกิดขึ้นอีก” นายภูมิธรรมกล่าว พร้อมย้ำว่าไทยต้องคำนึงถึงสายตาของประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าเป็นฝ่ายรุกราน พร้อมเดินหน้าสู่เวทีเจรจาอย่างสร้างสรรค์ต่อไป.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ป่วนอีกแล้ว! นักท่องเที่ยวเขมร บุกร้องเพลงชาติ กลางปราสาทตาควาย
- ย้อนคดี ‘ปราสาทพระวิหาร’ คำตัดสินศาลโลก แผนที่ในกระดาษ ทำไทยแพ้กัมพูชา
- เพจดัง แฉ ปราสาทตาเมือนธม ขึ้นทะเบียนของไทย ก่อนเขมรได้เอกราช รู้ดีมาตลอด
ติดตาม The Thaiger บน Google News: