การเงินเศรษฐกิจ

คลังฯ จ่อปรับเกณฑ์ “คุณสู้ เราช่วย” ช่วยลูกหนี้ เพิ่มเพดาน จ่ายปิดจบ

คลังชง ครม. ปรับเกณฑ์ “คุณสู้ เราช่วย” อุ้มลูกหนี้ ขยายเกณฑ์ช่วยลูกหนี้ชั้นดี เพิ่มเพดานจ่ายปิดจบ ลั่นแก้หนี้ครัวเรือน-NP

นับเป็นข่าวดีสำหรับประชาชนที่เป็นหนี้ เมื่อ นายพิชัย ชุณหวชิระ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาปรับปรุงเงื่อนไขของมาตรการ “คุณสู้เราช่วย” ครั้งใหญ่ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้สามารถเข้าร่วมโครงการได้มากขึ้น ตั้งเป้าแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและหนี้เสีย (NPL) อย่างเป็นรูปธรรม

การปรับปรุงมาตรการครั้งนี้ ถือเป็นการปลดล็อกเงื่อนไขเดิมๆ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ในวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกหนี้ที่เคยพยายามปรับโครงสร้างหนี้มาแล้วแต่ยังไม่หลุดพ้นจากวงจรหนี้

ปรับเกณฑ์ใหม่ คุณสู้เราช่วย ช่วยใครได้บ้าง?

แนวทางการปรับปรุงเงื่อนไขเบื้องต้น มี 2 มาตรการหลักที่น่าสนใจ ดังนี้

1. ขยายเกณฑ์ “จ่ายตรง โครงทรัพย์

ขยายเกณฑ์คุณสมบัติลูกหนี้ของมาตรการ “จ่ายตรง โครงทรัพย์” จากเดิมที่ต้องคงค้างชำระเกิน 30 วันขึ้นไป จะมีการ ปรับเป็นลูกหนี้ที่เคยมีประวัติการค้างชำระ 1 วันขึ้นไป และเคยปรับโครงสร้างหนี้ ก็สามารถเข้าร่วมมาตรการได้ครับ เพื่อเป็นการขยายโอกาสให้กับประชาชนเข้าร่วมมาตรการได้มากขึ้น

2. เพิ่มเพดาน “จ่ายปิดจบ”

ขณะเดียวกัน ก็จะมีการ ปรับเงื่อนไขมาตรการ “จ่ายปิดจบ” จากเดิมที่ภาระหนี้เสียต้องไม่เกิน 5,000 บาท ก็ปรับเป็น หนี้เสียแบบไม่มีหลักประกัน ภาระหนี้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อบัญชี และ หนี้เสียแบบมีหลักประกัน ภาระหนี้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อบัญชี ก็จะสามารถเข้าร่วมมาตรการนี้ได้

การปรับเกณฑ์ครั้งนี้จะครอบคลุมลูกหนี้ที่มีมูลหนี้ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อบัญชี ซึ่งมีจำนวนมากถึง 3 ล้านบัญชีทั่วประเทศ คิดเป็นมูลหนี้รวม 123,000 ล้านบาท โดยนายพิชัยเชื่อว่าหากช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ได้ จะช่วยลดตัวเลขหนี้เสียและหนี้ครัวเรือนของประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ

ปรับเกณฑ์ “คุณสู้เราช่วย”

จ่อมาตรการเสริมทัพ กระตุ้นอสังหาฯ-รถยนต์

นอกจากการช่วยเหลือลูกหนี้โดยตรงแล้ว กระทรวงการคลังยังเตรียมหารือกับกลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-bank) เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อรถยนต์ โดยมีแนวคิดที่จะจูงใจให้เจ้าของรถกระบะเก่าอายุ 20-25 ปี นำรถเก่ามาแลกซื้อรถใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผ่านมาตรการทางภาษีและให้ บสย. เข้ามาช่วยค้ำประกันสินเชื่อ

ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เดินหน้าอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 150,000 ล้านบาทเข้าสู่ภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างการจ้างงาน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องให้เติบโตต่อไป

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวยังเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นที่เตรียมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติในลำดับต่อไป และยังไม่มีผลบังคับใช้ในขณะนี้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง : TNN

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx