กัมพูชา เต้นเร่า โต้เป็น ศูนย์กลางมิจฉาชีพไซเบอร์โลก โบ้ยไทย ปมดาราจีนถูกลักพาตัว

กัมพูชา ปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทย ปมเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์โลก โบ้ยไทย ปมดาราจีนถูกลักพาตัว หลังเดินทางมาประเทศไทย
24 มิถุนายน 2568 สำนักข่าวแขมร์ไทมส์ รายงานว่า รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว หลังจากนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย กล่าวหากัมพูชาเป็นแหล่งใหญ่ของอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ มีเครือข่ายที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและกลุ่มผู้มีอิทธิพล
นายเชีย วันเด็ธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมของกัมพูชา กล่าวว่า “กัมพูชาไม่เคยสนับสนุน และจะไม่มีวันยอมรับกิจกรรมของอาชญากรไซเบอร์” พร้อมย้ำว่ารัฐบาลกัมพูชาให้ความสำคัญกับหลักนิติธรรม ความโปร่งใส และความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างจริงจัง
รัฐบาลกัมพูชาระบุว่าข้อกล่าวหาของไทยเป็นการเบี่ยงเบนประเด็น เรียกร้องให้รัฐบาลไทยมุ่งมั่นจัดการกับอาชญากรรมภายในประเทศตนเอง พร้อมชี้ว่าความร่วมมือข้ามพรมแดนจึงจะสามารถต่อกรกับภัยไซเบอร์ระดับภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กัมพูชายังเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้จัดตั้ง “คณะกรรมาธิการปราบปรามกลโกงออนไลน์” โดยมีสมเด็จอัครมหาเสนาบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อเร่งปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยี
กัมพูชายังย้อนศร กล่าวหาว่า ไทยเองก็เป็นฐานของอาชญากรรมไซเบอร์เช่นกัน พร้อมเปิดเผยกรณีชาวจีนที่ถูกลักพาตัวจากสนามบินกรุงเทพฯ ไปยังค่ายหลอกลวงเพื่อบังคับทำงานคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักฐานที่ยืนยันลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ
ทางด้านนายทัช โสคฮัก โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ระบุว่า รายงานของสื่อสิงคโปร์อย่าง Channel NewsAsia ได้ชี้ว่าไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของการค้ามนุษย์และอาชญากรรมไซเบอร์ พร้อมโจมตีว่านักการเมืองไทยใช้วาทกรรมโจมตีกัมพูชาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาภายในของตน
นักวิเคราะห์การเมืองกัมพูชาหลายรายยังแสดงความกังวลว่า ความขัดแย้งชายแดนระหว่างสองประเทศกำลังลุกลามสู่ “สงครามสื่อ” โดยใช้สื่อเป็นเครื่องมือโจมตีผ่านบทความและข่าวที่บั่นทอนภาพลักษณ์อีกฝ่าย พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหันมาหารืออย่างสร้างสรรค์บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ไม่ใช่การกล่าวหาทางการเมืองที่อาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ยูเอ็นเผย กัมพูชา กลายเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์โลก
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 รายงานจาก The Straits Times อ้างอิงข้อมูลของสหประชาชาติ (UN) ยืนยันว่า กัมพูชาได้กลายเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก โดยมีฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงรูปแบบต่างๆ เช่น การหลอกลงทุน (Pig Butchering), ความรักลวง (Romance Scam) และการค้ามนุษย์เพื่อนำไปใช้ในธุรกิจหลอกลวงทางไซเบอร์
สาเหตุที่กัมพูชากลายเป็น “Scammer Hub” มาจากหลายปัจจัย ได้แก่ กฎหมายล้าหลังและบังคับใช้ไม่จริงจัง ปัญหาคอร์รัปชันในหน่วยงานรัฐ ความเปราะบางทางเศรษฐกิจ ผลพวงจากโควิด-19 ที่ทำให้อาชญากรเปลี่ยนจากกาสิโนมาเป็นออนไลน์เต็มรูปแบบ
ยูเอ็นเตือนว่า การแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือระดับนานาชาติ ทั้งภาครัฐ องค์กรระหว่างประเทศ และประชาชน เพื่อหยุดยั้งอาชญากรรมข้ามชาติที่กำลังเติบโตอย่างน่ากังวลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดาราจีน หายตัวปริศนา ที่ชายแดนไทย-เมียนมา หลังถูกหลอกทำงานที่ไทย
- เปิดประวัติ ซิงซิง ดาราจีน หลังหายตัวปริศนา ชายแดนไทย-เมียนมา
- นายกฯ ลั่นไม้แข็ง! ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์เขมร ล้างบางศูนย์อาชญากรรม 6 แสนล้าน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: