“บิ๊กอ้วน” เมิน “กัมพูชา” ตั้งคณะกรรมการ ทำเอกสารยื่นศาลโลก 4 พื้นที่พิพาท

ภูมิธรรม เมิน กัมพูชา หลังมีเอกสารตั้งคณะกรรมการ เอกสารยื่นศาลโลก 4 พื้นที่พิพาท บอกไทยมีมติไม่รับอำนาจของเขตศาลโลก
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทางกัมพูชาตั้งคณะกรรมการ จัดทำเอกสารเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลโลก หรือ ICJ เกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ 4 พื้นที่ช่องบก, ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เป็นไรต่างคนต่างทำหน้าที่ การจะฟ้องศาลโลกเป็นหน้าที่ของกัมพูชา ส่วนไทยเราก็มีมติไม่รับอำนาจขอบเขตศาลโลก ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ทุกอย่างให้ว่า กันไปตามกระบวนการ
เมื่อถามว่าดูเหมือนปัญหายังมีหลายจุด พูดคุยไม่จบจะมีปัญหาในการประชุม JBC หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวยอมรับว่าปัญหาคงไม่จบเสียทีเดียว ต้องใช้เวลาพูดคุยกันในส่วน ที่เห็นไม่ตรงกันแต่ในเวที JBC ที่เราได้พูดเราได้พูดชัดเจน แล้วว่าจะพูดเฉพาะในกรณีที่ เป็นปัญหาต้องเคลียร์กันเป็น ส่วนๆ ไปและคิดว่าไม่น่าจะมี ปัญหาอะไรเพราะเป็นข้อตก ลงร่วมกัน
เมื่อถามว่า จากท่าทีของ กัมพูชาในตอนนี้ทำให้เราต้องคงมาตรการเปิดปิดด่านไปอีกนานเท่าไร นายภูมิธรรม กล่าว ว่า จากการสั่งการซึ่งผู้บัญชาการทหารบกและแม่ทัพภาค 2 รับทราบตรงกันว่าเราจะยังคงดำเนินการตามมาตรการของแต่ละพื้นที่ ขณะนี้เรายังไม่ได้ยกระดับมาตรการ และย้ำว่าเราไม่ได้ปิดด่าน แต่เปิดปิดตามเวลาและจำกัดคน ส่วนที่มีการเผชิญหน้าเราก็ได้มีการปรับกำลัง ขณะที่พื้นที่อื่นยังคงมาตรการเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะค่อยๆดีขึ้น เพราะเราได้ให้ทหารทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกันในพื้นที่มากขึ้นอีกทั้งมีข้อเสนอให้จัดกิจกรรมร่วมกัน ลาดตระเวนด้วยการคิดว่าบรรยากาศโดยรวมน่าจะดีขึ้น
ส่วนกรณที่ทางกัมพูชา จะนำเรื่องร้องต่อศาลโลกจะเข้าข่ายลักษณะเดียวกับกรณีเขาพระวิหารก่อนหน้านี้หรือไม่ฝ่ายความมั่นคงได้มีการวิเคราะห์ผลกระทบอย่างไร นายภูมิธรรม กล่วว่า เขาพระวิหารเป็นอีกเรื่องไม่เกี่ยวกับกรณีนี้ แต่อาจจะเป็นบทเรียนบางส่วนได้ ซึ่งเราจะไม่นำเรื่องนั้นมาพูดถึง แต่ไม่สามารถเปิด เผยได้
ส่วนข้อเสนอของ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ที่อยากให้เปลี่ยนหัวหน้าคณะเจรจาพูดคุยกับทางกัมพูชาเนื่องจากเป็นคนเดียวกับที่คุยสมัยเขาพระวิหารนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า คนที่อยู่กับปัญหา และอยู่กับพื้นที่น่าจะรู้ดีที่สุด ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร ก็ต้องให้ส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดพิจารณารัฐบาลจะรับฟัง ข้อเท็จจริงและเหตุผล เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าพึงใจหรือว่าใครชอบใคร ใครอยากได้ใคร เป็นเรื่องที่ว่าประเทศชาติมีปัญหาอยู่ตรงไหน ขอให้นึกถึงผลประโยชน์ตรงนี้เยอะๆ
ส่วนการที่กัมพูชาฟ้องศาลฝ่ายเดียวจะมีผลอะไรกับไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้พูดยาก คนฟ้องก็ฟ้องไป คนที่ไม่ยอมรับก็ไม่ไปเข้าสู่กระบวนการ แต่หากมีเงื่อนไขอื่นก็เป็นเงื่อนไขทางกฎหมาย แต่ไม่อยากจะพูดตรงนี้ เรื่องของกฎหมายให้กรม สนธิสัญญาต่างประเทศเป็นฝ่ายพูดจะดีกว่า แต่เราได้เตรียมความพร้อมและแนวทางในเรื่องนี้ไว้แล้ว เพราะประเทศวิกฤต แบบนี้ไม่เตรียมได้อย่างไร ส่วนจะเตรียมไว้อย่างไรขอให้ฟังการชี้แจงเป็นระยะ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไม่จบที่โต๊ะคุย! เขมร เอาจริง ตั้งคณะกรรมการ ฟ้องศาลโลก ปมพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา
- อีกแล้ว! ฮุนเซน ปิดการมองเห็นชาวไทยอีกครั้ง หลังตั้ง คกก. ฟ้องศาลโลก
- กัมพูชา ยัน ไทย ตัดไฟ-เน็ต ไม่ทำให้เปลี่ยนจุดยืน ปมพิพาทชายแดน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: